จนได้?สะพัด"เยอรมนีคุ้มครองมหาเถรจำนงค์"ฐานะผู้ลี้ภัยแล้ว ทั้งที่"โกงเงินวัด-ซุกเมีย"ไม่ใช่คดีการเมือง ไม่ต่าง"นกม.โกงข้าว-อ้างการเมืองแกล้ง

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

ลือกันให้แซ่ดว่า "ทางการเยอรมนี ให้ความคุ้มครองมหาเถรจำนงค์" หรือ "อดีตพระพรหมเมธี" ที่เรียกกันติดปากว่า "เจ้าคุณจำนงค์" อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร  ผู้ต้องหาคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัด ในฐานะผู้ลี้ภัยแล้ว

 

เรื่องนี้มีกระแสข่าวอ้างว่า มีรายงานข่าวจากแหล่งข่าวในกระบวนการยุติธรรมระบุว่า "มหาเถรจำนงค์" ซึ่งถูก "พล.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา" ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามจับตัวจากคดีนี้ด้วยตนเองเมื่อต้นเดือนก่อน หลังเจ้าตัวไหวตัวทันระเห็จข้ามโขง ก่อนจะจับเครื่องบินหนีไปซุกตัวถึงเยอรมัน ได้รับความคุ้มครองจากทางการเมืองเบียร์แล้ว

 

โดยแหล่งข่าวฯ ระบุว่า เหตุเพราะ "มหาเถรจำนงค์" ซึ่งอยู่ในช่วงของการขอลี้ภัยกับทางสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ( Federal Office for Migration and Refugees -BAMF) จะมีสิทธิได้รับความคุ้มครองในทันที ตามหลักเกณฑ์การขอลี้ภัยของเยอรมนี ทั้งยังระบุด้วยว่า  เหตุนี้หากทางการไทยจะขอตัว "มหาเถรจำนงค์" เพื่อกลับมาดำเนินคดี...นั่นจึงถือเป็นเรื่องที่ยากเย็น...กระทั่งอาจเป็นไปไม่ได้

 

"ยิ่งทางการไทยเร่งรัด ยิ่งทำให้ทางการเยอรมนีมองเป็นเรื่องการเมืองได้" แหล่งข่าวระบุ ผ่านสื่อสำนักหนึ่ง

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ...ว่า "โลกศิวิไลซ์อย่างประเทศตะวันตก" จะมองอะไรได้หยาบตื้นเช่นนั้น...ยิ่งกรณี "มหาเถรจำนงค์" นี่ยิ่งชัด...เพราะคดีของ "อดีตเจ้าคุณ" ผู้ยิ่งใหญ่...ไม่มีเศษเสี้ยวไหน...เกี่ยวข้องกับการเมือง...แม้เพียงฝุ่นธุลี...ทั้งหลายทั้งปวงนั่น...เกิดจากการโกง...เงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม  แผนกสามัญศึกษา แผนกธรรม และแผนกบาลี และงบเผยแพร่ศาสนา ที่ทางสำนักพุทธฯ หรือ พ.ศ. โอนให้...แล้วเงินดังกล่าวกลับไปพอกพูนเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของ...ท่านมหาเถรฯ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความผิดทางอาญาคดีเกี่ยวกับการโกงเงินก้อนนี้โดยตรง...ไม่เกี่ยวกับการเมือง...ตามที่ "ท่านมหาเถร" ใช้อ้างขอลี้ภัยกับทางการเยอรมนี...ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ขณะนี้ที่ตรงไหน


...ว่าไปแล้ว รูปแบบการขอลี้ภัยของ "มหาเถรจำนงค์" แทบไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่  "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ผู้อื้อฉาวจากคดีทุจริตจำนำข้าวเคยกระทำก่อนหน้า หากจำได้ช่วงที่...เธอตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้....และก่อนหน้าที่ศาลจะตัดสินว่า...เธอผิดจริง เพราะปล่อยปละละเลยให้เกิดการโกงจริง กระทั่งพิพากษาให้จำคุกเธอ 5 ปีไม่รอลงอาญา และทำให้เธอตะเลิดหนี...กลายเป็นนักโทษหนีคดีคนที่ 2 แห่งตระกูล...ซ้ำรอยพี่ชายผู้เป็นนายใหญ่ของคนเสื้อแดงนั้น...ก่อนหน้าเธอก็ออกมาเดินสาย...พูดคุยกับคนเสื้อแดงทั่วประเทศ...ด้วยถ้อยคำเช่นนี้แหล่ะ

โดยครั้งหนึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยกล่าวถ้อยคำทำนองนี้ เมื่อครั้งที่เธอยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยแก่รัฐบาลอังกฤษ หลังหลบหนีออกจากประเทศไทยไปว่า "เธอนั้นถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองในคดีโครงการรับจำนำข้าว และที่ต้องหลบหนีออกมา เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร"

ถ้อยคำของผู้หลบหนีคดีทั้ง 2 แทบไม่ต่างกันในรายละเอียด...ทั้งคู่อ้างแบบยืมประโยคกันและกันมาใช้ว่า "ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองในคดีโครงการรับจำนำข้าว และที่ต้องหลบหนีออกมา เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร"

นั่นคือ ข้ออ้างที่คนทั้ง 2 ใช้ แล้วจะว่าไป....เส้นสนกลในของคนทั้ง 2 ก็ ล้วนแต่อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน ส่วนเรื่องการโกงนั้น หลักฐานก็ล้วนแต่แน่นหนาจน...เพื่อนร่วมก๊วน...บางรูปยังไม่อาจแก้ข้อกล่าวหานี้ได้...ต้องไปนอนนับสายบัวที่คุกพิเศษกรุงเทพฯ อยู่ก่อนทั้งแก๊ง ส่วนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะหลักฐานการโกงนั้น...แน่นหนา และเป็นความจริงเชิงประจักษ์เสียจน...ลิ่วล้อร่วมขบวนการโดนคุกไปคนละ 30 - 40 ปี ขณะที่เธอเองก็โดนไป 5 ปี ไม่รอลงอาญา...นั่นก็เป็นเครื่องยืนยันว่า...เธอถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง...ตามลักษณะคน "ร้อยเล่มเกวียน" ที่เธออ้างหรือไม่....

ส่วน  "มหาเถรจำนงค์" อาจต่างกับเธออยู่บ้าง...เพราะเขายังเป็นแค่ "ผู้ถูกกล่าวหา" และสามารถพาตัวเองเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม...เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้

แต่ก็นั่นแหล่ะ เมื่อเขาเลือกปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม โดยมาตะเภาเดียวกับนักการเมืองโคตรโกงที่อ้างว่า "กระบวนการยุติธรรมไทยไม่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบไม่ได้ ประเทศอยู่ในสถานการณ์พิเศษ มีกฎหมายที่ไม่ได้มาจากประชาชน"  นั่นก็เท่ากับ...อดีตมหาเถรฯ ผู้นี้... ซึ่งนอกจากจะมีคดีโกงเงินทอนวัดเป็นชนักใหญ่แล้ว ในทางการข่าวยังพูดตรงกันว่า เขามีเรื่องเสื่อมเสียที่ร้ายแรงยิ่งนักเจือปนอยู่ด้วย เพราะมี "สีกา" ที่ใกล้ชิด และอยู่กินหลับนอนเยี่ยงภรรยาอยู่ร่วมด้วย แถมบางครั้งยังให้สีกาคนนี้ออกงานใหญ่ ร่วมกันเสมอโดยไม่กริ่งเกรงสายตาผู้ใด...ทำให้เขาต้องหนีสุดหล้าฟ้าเขียว...พร้อมกับท้าชนกับรัฐไทยอย่างเต็มตัว...โดยบิดเบือนคดีที่...ตนถูกกล่าวหาว่าโกง...ให้กลายเป็นคดีการเมือง...และเอารัฐบาลเยอรมนี...เป็นตัวกันชนอย่างที่...กระแสข่าวสะพัดหนัก...อยู่ในขณะนี้