- 10 ก.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีที่มีเด็กนักกีฬานักฟุตบอลและโค้ช รวม 13 ชีวิต ได้สูยหายเข้าไปในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 มิถุนายน 2561) และไม่กลับออกมาอีกเลย ในขณะนี้หน่วยซีลและเจ้าหน้าที่ ได้พบเด็กๆและโค้ชทั้ง 13 ชีวิต และทุกคนปลอดภัยดี โดยจุดที่พบอยู่ห่างจากพัทยาบีช 400 เมตร
เมื่อวานนี้ (9 กรกฎาคม 2561) เจ้าหน้าที่และหน่วยซีลได้ช่วยเหลือทีมหมูป่า ออกมาจากถ้ำได้อย่างปลอดภัยอีก 4 คน นำส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ส่วนคนอื่น อีก 5 ชีวิต ที่เหลือยังอยู่ที่จุดเนินนมสาว ท่ามกลางการให้กำลังใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่เฝ้าติดตามชมข่าวสาร
จากที่เมื่อวานได้มีประเด็นของร่มขนาดใหญ่ที่ใช้บังขณะที่นำเด็กขึ้น ฮอ. ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ทางเฟสบุ๊ค Sakda Chaiviwat ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีร่มดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า
บอกมีเงื่อนงำ ถ้าเอาเด็กออกมาได้จริง ทำไมต้องปิดหน้า
อันนี้ก็เข้าใจนะว่า เวลาระดับคนเก่ง ที่เป็นผู้นำระดับประเทศเขาคิดกัน ทำกันนะ สมองบางคนมันก็คิดตามไม่ทันหรอก อันนี้เป็นที่เข้าใจได้ เด็กออกมาได้ไม่ได้ อีก ไม่กี่วันก็ต้องรู้ เพราะยังไงก็ครบ 13 คน แล้ว ถ้าครบ 13 คนนี่ ยังไงต่อ เงิบงำไปเลยใช่ไหม
เขาแค่ไม่อยากให้ผู้ปกครองของเด็กที่ยังไม่ออกมากังวล หรือรู้สึกน้อยใจว่าทำไมลูกฉันยังไม่ได้ออกมา ลองคิดดูสิ ว่า ถ้าสื่อรู้ ว่าเด็กคนไหนยังไม่ออกมา ผู้ปกครองของเด็กคนนั้นรับรอง สื่อคงตามจิก ยื่นไมค์ไปถาม ว่ารู้สึกยังไง ที่ลูกของพี่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือออกมา ทางการมีแจ้งไหมว่าตอนนี้ลูกพี่ไม่ปกติใช่ไหม ถึงยังนำออกมาไม่ได้ หรือถามต่ออีกว่า น้อยใจไหม ที่ลูกถูกพาออกมาทีหลัง (อันนี้ผมเสือกถามตามแพทเทิร์นดราม่าที่นักข่าวเขาชอบ เสือกถามกันน่ะครับ) คงไม่ใช่เรื่องมโนหรอก เพราะขนาดถามออกอากาศว่าลูกมาเข้าฝันไหม แล้วยังมีเลย
จากนั้นก็จะดราม่าต่อ ไม่ถามผู้ปฏิบัติ เอากฏเกณฑ์อะไรมาเป็นตัวตัดสินว่าใครต้องออกก่อนออกหลัง ขนาด มโนชื่อว่าเป็นมงคลได้ออกก่อนยังมีเลย ต่อด้วยอะไร ต่อสายผู้รับผิดชอบจากนั้นก็ให้ พ่อแม่ถามต่อหน้าผ่านกล้องเลย โห ได้ซีนน้ำตาดราม่าฝุดๆ แถมได้ฉากดาร์คๆ กดดันผู้ปฏิบัติงานอีก ดีไม่ดี ที่ห้องส่ง บี้ต่อ ขยี้ต่อ ต่อสายรัฐมนตรีเลย ยิงคำถามแทนผู้ปกครองเลย ท่านครับผู้ปกครองเขาถามว่าทำไมไม่เอาลูกเขาออกมาพร้อมกัน
จากนั้น รัฐมนตรีสมัยก่อนๆ ก็ต้องบ้าจี้ โทรเลยบอก ผมสั่งการแล้วครับ ว่าจะต้องเอาออกมาในวันนี้ ฉิบหาย จะต้องมีซิลกี่คนอีกที่ต้องเสี่ยงเพราะความหน้าบางของรัฐมนตรี แถมดีไม่ดี เด็กก็เสี่ยงด้วย หากเกิดไรขึ้น เอาเว่ยเฮ่ย สื่อมีข่าวให้เล่นต่อ กระหน่ำการทำงานผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานกันสนุก แถมยังได้ไปถามพ่อแม่อีก รู้สึกอย่างไรที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถช่วยชีวิตลูกได้ ได้ฉากดราม่าในงานศพเลย
....5555 ขยี้มาเป็นฉากๆ นี่ไม่ใช่มโนขึ้นมาเองนะ แต่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน มีครั้งนี้แหละที่เจ้าหน้าที่ทำงานได้โดยปราศจากแรงกดดันจากภายนอก เพราะสามารถรับมือกับสื่อได้เบ็ดเสร็จ นี่ไม่ใช่การปฏิวัติวงการสื่อ แต่เป็นปฏิวัติการรับมือกับ เสื่อม ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในประวัติการณ์ ประเทศไทย
ปล รูปร่มเอามาประกอบ จริงๆ เขาเอามาบังแดดกันสายตาเด็กโดนแดด
ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟสบุ๊ค Sakda Chaiviwat
ขอบคุณคลิปจาก : เพจ LiveStream Entertainment