เผยเรื่องเล่าจาก "น้องดอม" ใช้มือตะกุยทราย เปิดทางตรงสามแยก หนีตายจากน้ำ

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

นายบรรพต ก้อนคำ อายุ 45 ปี บิดาของ ด.ช.ดวงเทพ พรมเทพ น้องดอม อายุ 13 ปี นักเรียนโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ ซึ่งเป็นกัปตันทีมหมูป่าอะคาดามีแม่สาย 1 ใน 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา และได้รับการช่วยเหลือออกจากถ้ำไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา

โดยนายบรรพต กล่าวว่า หลังจากแพทย์อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมดูอาการของเด็กๆ ที่ชั้น 8 อาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน 14 ชั้น โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทางตน และนางธนพร พรมมา ภรรยา ได้เข้าไปเยี่ยมดูอาการของ น้องดอม แล้ว และได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกในช่วงสั้นๆ ก็ได้รับทราบเหตุการณ์ว่าในวันเกิดเหตุนั้นทั้ง 13 คน ได้เข้าไปในถ้ำโดยตั้งใจว่าจะเข้าไปนานเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะกลับออกมา จึงไม่ได้เตรียมอาหารหรือขนมไปด้วยตามที่ปรากฎเป็นข่าว และเมื่อไปถึงบริเวณสามแยกห่างจากปากถ้ำประมาณ 3 กิโลเมตรแล้ว ปรากฎว่าได้มีน้ำหลากมาอย่างแรงและจำนวนมากทำให้ต้องทิ้งกระเป๋าและรองเท้าเอาไว้ที่ปากโพรงเพื่อหนีน้ำทำให้เป็นหลักฐานที่ทำให้ผู้ติดตามได้พบเห็นบริเวณปากโพรง

นายบรรพต กล่าวด้วยว่า เมื่อหนีน้ำไปในโพรงตรงสามแยกก็มีเนินทรายที่ปิดกั้นด้านหน้า จึงพากันใช้มือตะกุยทรายเพื่อเปิดทางจนเกิดร่องรอยการตะกุยให้ผู้ติดตามได้พบเห็นเพิ่มเติม ก่อนจะพากันหนีลึกเข้าไปจนถึงเนินนมสาวแล้วรอคอยคนมาช่วยเหลือ 

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาร่วม 10 วันดังกล่าวน้องดอม บอกว่าไม่ได้มีอาหารรับประทานเลย เพราะหนีน้ำเข้าไปได้แต่ตัวและไฟฉายโดยแม้แต่กระเป๋าที่นำไปด้วยก็ต้องทิ้งเอาไว้ที่ปากโพรง ทำให้ทุกคนยังชีวิตอยู่ด้วยน้ำ โดยนายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก คอยช่วยเหลือโดยให้ทุกคนอยู่รวมตัวกันและหากใครหิวก็ให้เปิดไฟฉายแล้วไปกินน้ำที่หยดลงมาจากหินงอกหินย้อยที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

ทางด้านนางคำเอ้ย พรมเทพ อายุ 64 ปี ย่าของน้องดอม กล่าวว่า แม่ของน้องดอมมาเล่าให้ฟังว่าพื้นที่ ที่เด็กๆ ไปอยู่เป็นเนินสูงที่คอยหลบหนีน้ำและน้ำจะขึ้นๆ ลงๆ เมื่อน้ำลงเด็กๆ ก็จะพากันมาอยู่ริมน้ำและเมื่อน้ำขึ้นก็จะพากันหนีขึ้นไปอยู่บนเนินอีกเพราะส่วนเนินพื้นไม่เรียบจึงทำให้ทั้งหมดพากันใช้มืดตะกุยพื้นเพื่อให้ราบเรียบสำหรับให้สามารถอาศัยหลับนอนอยู่ได้ในที่สุด กระทั่งเมื่อมีนักประดาน้ำชาวต่างประเทศไปพบจึงพากันวิ่งลงมาแล้วตะโกนว่าหิวๆ และมีคนตกน้ำไป 2 คนดังกล่าว

"หลานชอบกีฬา เขาจะมีจักรยานภูเขา 1 คัน และพื้นราบ 1 คัน รวมทั้งชอบเล่นฟุตบอล เคาะบอลมาตั้งแต่อนุบาล ซึ่งช่วงที่หลานหายไปในถ้ำก็ตกใจและเป็นลมล้มพับไปหลายรอบเพราะเราเลี้ยงเขามาตั้งแต่แรกเกิด แต่ก็เชื่อว่าโค้ชเอกจะดูแลเขาได้และหน่วยชีลที่ตามหาได้ ดังนั้นถ้าหลานออกจากโรงพยาบาล และถ้าอยากบวชก็ให้ไปบวชเพราะบุญคุณที่คนทั้งประเทศและทั่วโลกมาช่วยเรา ขอให้น้องเป็นคนดีเหมือนเดิม แต่สิ่งแรกที่ย่าจะให้ทำก่อนคือไปประกอบพิธีสืบชะตาที่วัดถ้ำผาจมหรือเกาะทรายที่ตั้งอยู่ใกล้กับบ้านของพวกเราก่อน ส่วนตัวก็จะพร่ำสอนให้เป็นคนดีและไม่ให้คิดมากเพราะกลัวว่าหลานจะไขว้เขวคิดมากที่ต้องมาประสบเหตุและทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย” นางคำเอ้ย กล่าว