โคตรระทึก ! เผยวินาที "แก๊งหมูป่า" หนีตายในถ้ำหลวง? ไม่มีแม้แต่อาหาร ใช้มือตะกุยทรายหนีน้ำ ก่อนเผยเรื่องชี้เป้นชี้ตาย ไม่มี"โค้ชเอก"คงแย่แน่

โคตรระทึก ! เผยวินาที "แก๊งหมูป่า" หนีตายในถ้ำหลวง? ไม่มีแม้แต่อาหาร ใช้มือตะกุยทรายหนีน้ำ ก่อนเผยเรื่องชี้เป้นชี้ตาย ไม่มี "โค้ชเอก" คงแย่แน่!!?

นับตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2561 ที่นักฟุตบอลและผู้ช่วยโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย รวม 13 คน ได้ประสบอันตรายติดอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย รัฐบาลได้รวบรวมสรรพกำลังเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยการบูรณาการความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่ได้ร่วมมือกันเสียสละ อดทน ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มขีดความสามารถด้วยสติปัญญาและความกล้าหาญ ประกอบกับกำลังใจจากทั่วทุกมุมโลก ทุกชาติศาสนาที่ส่งมายังประเทศไทย จนบัดนี้ ภารกิจการค้นหาและกู้ภัยได้สำเร็จลุล่วงลงแล้ว รวมใช้เวลาทั้งสิ้น 17 วัน ส่งผลให้ผู้ประสบภัย ทั้ง 13 คน และหน่วยกู้ภัยประสบความสำเร็จ ออกจากวนอุทยานถ้ำหลวงได้อย่างปลอดภัย

 

โคตรระทึก ! เผยวินาที "แก๊งหมูป่า" หนีตายในถ้ำหลวง? ไม่มีแม้แต่อาหาร ใช้มือตะกุยทรายหนีน้ำ ก่อนเผยเรื่องชี้เป้นชี้ตาย ไม่มี"โค้ชเอก"คงแย่แน่

 

วันนี้ (12/07/2561) ที่บ้านเลขที่ 776/1 หมู่ 1 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย  นายบรรพต ก้อนคำ อายุ 45 ปี บิดาของ ด.ช.ดวงเทพ พรมเทพ น้องดอม อายุ 13 ปี นักเรียนโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ ซึ่งเป็นกัปตันทีมหมูป่าอะคาดามีแม่สาย 1 ใน 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา และได้รับการช่วยเหลือออกจากถ้ำไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา

โดยนายบรรพต กล่าวว่า หลังจากแพทย์อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมดูอาการของเด็กๆ ที่ชั้น 8 อาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน 14 ชั้น โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทางตน และนางธนพร พรมมา ภรรยา ได้เข้าไปเยี่ยมดูอาการของ น้องดอม แล้ว และได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกในช่วงสั้นๆ ก็ได้รับทราบเหตุการณ์ว่าในวันเกิดเหตุนั้นทั้ง 13 คน ได้เข้าไปในถ้ำโดยตั้งใจว่าจะเข้าไปนานเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะกลับออกมา จึงไม่ได้เตรียมอาหารหรือขนมไปด้วยตามที่ปรากฎเป็นข่าว และเมื่อไปถึงบริเวณสามแยกห่างจากปากถ้ำประมาณ 3 กิโลเมตรแล้ว ปรากฎว่าได้มีน้ำหลากมาอย่างแรงและจำนวนมากทำให้ต้องทิ้งกระเป๋าและรองเท้าเอาไว้ที่ปากโพรงเพื่อหนีน้ำทำให้เป็นหลักฐานที่ทำให้ผู้ติดตามได้พบเห็นบริเวณปากโพรง

นายบรรพต กล่าวด้วยว่า เมื่อหนีน้ำไปในโพรงตรงสามแยกก็มีเนินทรายที่ปิดกั้นด้านหน้า จึงพากันใช้มือตะกุยทรายเพื่อเปิดทางจนเกิดร่องรอยการตะกุยให้ผู้ติดตามได้พบเห็นเพิ่มเติม ก่อนจะพากันหนีลึกเข้าไปจนถึงเนินนมสาวแล้วรอคอยคนมาช่วยเหลือ 

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาร่วม 10 วันดังกล่าวน้องดอม บอกว่าไม่ได้มีอาหารรับประทานเลย เพราะหนีน้ำเข้าไปได้แต่ตัวและไฟฉายโดยแม้แต่กระเป๋าที่นำไปด้วยก็ต้องทิ้งเอาไว้ที่ปากโพรง ทำให้ทุกคนยังชีวิตอยู่ด้วยน้ำ โดยนายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก คอยช่วยเหลือโดยให้ทุกคนอยู่รวมตัวกันและหากใครหิวก็ให้เปิดไฟฉายแล้วไปกินน้ำที่หยดลงมาจากหินงอกหินย้อยที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า