ตีแสกหน้าสังคม!?! มหาวิทยาลัยดัง-หน่วยงานราชการอย่าบ้าจี้ ?!? ปล่อยเด็กๆกลับสู่ชีวิตเดิม จบแค่นี้…อย่าพาพวกเขาเข้าถ้ำมืดแห่งใหม่???

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

จากกรณีรายงานซึ่งได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากเมื่อ มหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก โดยศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังษี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เรื่องการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับโค้ชและนักฟุตบอลทีมหมูป่า อะคาเดมี หากมีความต้องการและสนใจเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมให้การสนับสนุนการศึกษาให้กับโค้ชและเด็กๆ ทุกคนตลอดการศึกษา

 

 

ตีแสกหน้าสังคม!?! มหาวิทยาลัยดัง-หน่วยงานราชการอย่าบ้าจี้ ?!? ปล่อยเด็กๆกลับสู่ชีวิตเดิม จบแค่นี้…อย่าพาพวกเขาเข้าถ้ำมืดแห่งใหม่???

 

       ล่าสุดวันนี้(13ก.ค.) วินทร์ เลียววาริณ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2556 และนักเขียนดับเบิ้ลรางวัลซีไรต์  ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก วินทร์ เลียววาริณ  เกี่ยวกับกรณีเด็กๆและโค้ชซึ่งกำลังมีกระแสดราม่าหลายอย่าง โดยข้อเขียนของวินทร์ ได้กระตุกเตือนในหลายเรื่องที่น่าสนใจและควรรับฟังอย่างยิ่ง จึงขอนำมาเผยแพร่ต่อเพื่อประโยชน์ต่อสังคมดังนี้

 

 

 

ตีแสกหน้าสังคม!?! มหาวิทยาลัยดัง-หน่วยงานราชการอย่าบ้าจี้ ?!? ปล่อยเด็กๆกลับสู่ชีวิตเดิม จบแค่นี้…อย่าพาพวกเขาเข้าถ้ำมืดแห่งใหม่???

 

เมื่อเกิดเหตุหมูป่า 13 คนติดถ้ำหลวงนั้น คนงานเหมืองชิลีที่เคยผ่านประสบการณ์เดียวกัน ติดอยู่ใต้ดินนาน 69 วัน ได้ติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิด และส่งกำลังใจมาให้โดยตลอด

พวกเขาดีใจและโล่งใจที่เด็กๆ ปลอดภัย

และในฐานะคนที่เคยผ่านประสบการณ์มาก่อน ก็กล่าวเตือนทีมหมูป่า 13 คนและสังคมไทยว่า ระวังเรื่องชื่อเสียงที่ติดตามมา มันเป็นดาบสองคม

หลังจากกู้ภัยเหมืองชิลี พวกเขากลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน บริษัทหนังติดต่อขอทำหนัง ออกรายการต่างๆ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครสนใจอีก ชีวิตหลังจากนั้นคือขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะผลประโยชน์ของการทำหนังและการออกสื่อ ฯลฯ ผ่านไปไม่กี่ปี หลายคนก็จมในห้วงของอาการจิตตกและอื่นๆ สารพัด

พวกเขาบอกว่า อย่าว่าแต่เด็กเลย พวกเขาเป็นผู้ใหญ่แท้ๆ ยังจัดการกับเรื่องต่างๆ ยากมาก

พวกเขาเตือนว่าอย่าไปติดบ่วงของเงินตราและชื่อเสียง

 

ตีแสกหน้าสังคม!?! มหาวิทยาลัยดัง-หน่วยงานราชการอย่าบ้าจี้ ?!? ปล่อยเด็กๆกลับสู่ชีวิตเดิม จบแค่นี้…อย่าพาพวกเขาเข้าถ้ำมืดแห่งใหม่???

 

เวลานี้ผมเริ่มเห็น ดรามาหลังข่าว โผล่มาทีละเรื่องสองเรื่อง ดูเหมือนสังคมกำลังจะทำให้เด็ก 13 คนเป็นวีรบุรุษ หลายคนหลายองค์กรกำลังพยายามเกาะกระแส ไม่ว่าเพื่อชื่อเสียงหรือผลประโยชน์หรือทั้งสองอย่าง

ข่าวเมื่อวานนี้ มีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเสนอให้เด็กๆ เรียนฟรีขึ้นขั้นปริญญา

บริษัทหนังกำลังแย่งกันสร้างหนัง

สื่อทั้งประเทศกำลังรอสัมภาษณ์ และคงจะบุกทะลวงไปถึงบ้าน ถ่ายทำเบื้องหน้าเบื้องหลัง

ชีวิตเด็กทั้งสิบสามคนจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ในความเห็นของผม เด็กทั้งสิบสามคนไม่ใช่วีรบุรุษ และเราไม่ควรทำให้พวกเขาเป็นวีรบุรุษ ไม่ควรลากตัวพวกเขาไปออกรายการโทรทัศน์ เล่าเบื้องหลังความตื่นเต้นของเหตุการณ์ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของเด็ก แต่เพื่อเรทติ้งของรายการ

ไม่ต้องสัมภาษณ์ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น

 

ตีแสกหน้าสังคม!?! มหาวิทยาลัยดัง-หน่วยงานราชการอย่าบ้าจี้ ?!? ปล่อยเด็กๆกลับสู่ชีวิตเดิม จบแค่นี้…อย่าพาพวกเขาเข้าถ้ำมืดแห่งใหม่???

 

ไม่ต้องประกาศว่าวันนี้พวกเขากินข้าวกะเพราไก่หรือข้าวหมูแดงหรือไก่ทอด

หน่วยงานราชการก็ได้โปรดอย่าบ้าจี้ทำตราเกียรติคุณอะไรไปมอบให้ ไม่ต้องทำพิธีอะไรทั้งสิ้น

เราควรปล่อยพวกเขาให้กลับไปสู่ชีวิตแบบเดิม เงียบๆ เรียบง่ายตามเดิม

เพียงเพราะพวกเขาเกิดอุบัติเหตุ อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่ อย่าดรามา

ปล่อยพวกเขาไป อย่าไปทำลายชีวิตของพวกเขาเลย พวกเขามีหนทางของพวกเขาเอง

พวกเขาจะเรียนรู้บทเรียนชีวิตของพวกเขาเอง

ถ้าจะปลดปล่อยพวกเขาเป็นอิสระ ก็ให้เป็นอิสระจริงๆ ไม่ต้องมีข้อแม้

พวกเขาจะตอบแทนคุณสังคมหรือไม่ เป็นเรื่องของพวกเขาเอง อย่าไปคาดหวัง อย่าไปชี้ว่าควรทำสิ่งนี้สิ่งนั้น

จบแค่นี้วันนี้เถอะ

พวกเขาออกจากถ้ำแล้ว อย่าพาพวกเขาไปเข้าถ้ำมืดแห่งใหม่เลย

.……………...

วินทร์ เลียววาริณ

 

ตีแสกหน้าสังคม!?! มหาวิทยาลัยดัง-หน่วยงานราชการอย่าบ้าจี้ ?!? ปล่อยเด็กๆกลับสู่ชีวิตเดิม จบแค่นี้…อย่าพาพวกเขาเข้าถ้ำมืดแห่งใหม่???

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก วินทร์ เลียววาริณ