- 16 ก.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เวิลด์คัพฉบับรัสเซีย ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางความปลื้มอกปลื้มใจของพลพรรค “ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส ที่สามารถคว้าแชมป์โลกไปครอง จบเกม ฝรั่งเศส เอาชนะ โครเอเชีย 4-2 คว้าแชมป์โลกไปครองเป็นสมัยที่ 2 ส่วน โครเอเชียได้แค่รองแชมป์แต่ก็ถืเป็นผลงานดีที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังเคยได้อันดับ 3 ในปี 1998 ตอนนี้ได้มีการเปิดเผยเงินรางวัลของทั้ง 32 ชาติ ที่จะได้รับออกมาเรียบร้อยแล้ว
โดยในฟุตบอลโลก 2018 นี้ มีรายงานว่าทีมที่เข้าร่วมแข่ง จะได้รับเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งหากเทียบกับเมื่อปี 2014 ที่บราซิล เป็นเจ้าภาพ เงินรางวัลรวมทั้งหมดอยู่ที่ 358 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 11,814 ล้านบาท) แต่ในปี 2018 เงินรางวัลรวมสูงถึง 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ( ราว 13,200 ล้านบาท) ขณะที่แชมป์โลก 2014 อย่าง อินทรีเหล็ก เยอรมัน ได้เงินรางวัล 35 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1,155 ล้านบาท) แต่แชมป์โลกปีนี้จะได้รับเงิน 38 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,254 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 3 ล้านเหรียญสหรัฐ
เงินรางวัล “ฟุตบอลโลก 2018”
เงินโบนัสสำหรับชาติที่เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 32 ชาติ – 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ/ทีม (49.5 ล้านบาท)
ตกรอบแบ่งกลุ่ม – 8 ล้านเหรียญสหรัฐ/ทีม (264 ล้านบาท)
ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย – 12 ล้านเหรียญสหรัฐ/ทีม (396 ล้านบาท)
ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย – 16 ล้านเหรียญสหรัฐ/ทีม (528 ล้านบาท)
อันดับ 4 – 22 ล้านเหรียญสหรัฐ (726 ล้านบาท)
อันดับ 3 – 24 ล้านเหรียญสหรัฐ (792 ล้านบาท)
รองแชมป์ – 28 ล้านเหรียญสหรัฐ (924 ล้านบาท)
แชมป์โลก – 38 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,254 ล้านบาท)
นอกจากนี้รายงานยังระบุว่า ฟีฟ่า ทำเงินได้มหาศาลจากศึกฟุตบอลโลกโดยในปี 2014 ทำเงินได้ 2,096 ล้านดอลลาร์ ซึ่งแบ่งเอามาจ่ายเป็นเงินรางวัลเพียง 358 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ส่วนในปีนี้ ยังไม่มีการเปิดตัวเลขรายได้ทั้งหมด
ขอบคุณข้อมูลจาก : springnews
ขอบคุณภาพจาก : FIFA