ติดตามได้ที่เพจปาฎิหาริย์

อย่าสั่งแต่ไหว้ตามผู้อื่น เพียงเพราะต้องการบุญ !! ต้องอ่าน 9 วิธีสวดมนต์  ให้เกิดกุศล..รับพุทธคุณสูงสุด ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองตลอดไป

 

มาดู! 9 วิธีสวดมนต์  ให้เกิดกุศล..รับพุทธคุณสูงสุด !!

อย่าสั่งแต่ไหว้ตามผู้อื่น เพียงเพราะต้องการบุญ !! ต้องอ่าน 9 วิธีสวดมนต์  ให้เกิดกุศล..รับพุทธคุณสูงสุด ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองตลอดไป

 

 

9 วิธีสวดมนต์ ที่ทำแล้วชีวิตจึงดี มีสุข

 

1. ก่อนสวดให้เลือกเวลาและสถานที่ที่จะมีสิ่งรบกวนน้อยที่สุด เช่น ห้องนอนของตัวเองในเวลาก่อนนอน, ห้องนอนของตัวเองในเวลาตื่นนอน ไม่จำเป็นต้องไปถึงวัดก็ได้ “เพราะการทำดี ทำได้ทันทีโดยไม่ต้องเลือก ไม่ต้องรอ”

2. ขจัดความคิดและจิตใจให้ปลอดโปร่งที่สุด อะไรที่ทำให้คิดมาก จิตตก รู้สึกแย่ โกรธเคือง โยนทิ้งออกไปก่อน เพราะ “การสวดมนต์เพื่อหวังจะลบความรู้สึกแย่ในใจ ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น” มันจะเหมือนกับเศษตะกอนที่อยู่ในน้ำ ต่อให้เติมน้ำที่กลั่นมาใสสะอาดเท่าไหร่มันก็ยังขุ่นอยู่อย่างนั้น ถ้าไม่พร้อมจะสวดจริง ๆ อย่าเพิ่งสวด

3. ความยาวของคาถาไม่ได้การันตีว่าชีวิตจะดีขึ้นจริง ๆ สำคัญคือคาถาที่เชื่อมสมาธิให้กับตัวของเราได้ 3-5 นาทีเป็นอย่างต่ำ เช่น สวดอะระหังสัมมาฯ+คาถาชินบัญชร, สวดอะระหังสัมมาฯ+อิติปิโสฯ+พาหุงฯ+ชินบัญชร สุดแท้แต่ที่จะเลือกมาสวดเพราะคาถาทุกบทล้วนมีความหมายที่ดี

4. ระหว่างสวด“ห้ามคิดว่าจะต้องได้ลาภยศ หรืออะไรก็ตาม” ต่อให้คาถานั้นมีความหมายถึงลาภยศสรรเสริญอยู่จริง เพราะนั่นทำให้เราหมกมุ่นยึดติดกับกิเลส สิ่งที่ทำต้องทำเพื่อสมาธิและจิต ให้ว่างเปล่า บริสุทธิ์ พร้อมจะคิดอะไรใหม่ ๆ ดี ๆ เพิ่มขึ้นมาได้ (คิดดี ทำดี เป็นรากฐานก็การได้รับสิ่งดี)

 

 

อย่าสั่งแต่ไหว้ตามผู้อื่น เพียงเพราะต้องการบุญ !! ต้องอ่าน 9 วิธีสวดมนต์  ให้เกิดกุศล..รับพุทธคุณสูงสุด ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองตลอดไป

5. ไม่เกร็ง ควรอยู่ในท่าที่สบาย ขัดสมาธิก็ได้ พับเพียบก็ได้ แต่ก็ให้เป็นท่าที่สามารถอยู่นิ่งได้นาน ไม่ปวดทรมาน ไม่เหน็บชา จนต้องขยุกขยิกบ่อย ๆ ให้เสียสมาธิ

6. เคล็ดลับการนั่งสวดมนต์ (ไปจนถึงนั่งสมาธิ) นาน ๆ ก็คือ ควรนั่งให้หลังตรง ไม่ค่อมตัว ไม่แอ่นตัว เพื่อเปิดทางเดินหายใจให้โล่งพร้อมรับลมหายใจที่ไหลเวียนได้สะดวก (ออกซิเจนมีผลต่อระบบร่างกายเรา หากไม่ได้รับในปริมาณที่เพียงพอ เพียงแค่เรานั่งผิดองศา เราจะง่วงซึม ปวดเมื่อย) ผลพลอยได้จากการนั่งหลังตรง ไม่เพียงแต่สมาธิที่ดี แต่ยังได้บุคลิกภาพที่สง่างามด้วย

7. ในขณะที่สวดมนต์จะเปล่งออกเสียง หรือพูดแบบกระซิบก็ได้ “ขอให้ปากได้ขยับตามบทสวดแบบชัดถ้อยชัดคำ” อย่าบ่นงึมงำไม่ได้ศัพท์เหมือนเด็กหัดพูด เพื่อให้รู้ตัวว่ากำลังสวดมนต์อยู่ในขณะนี้ ปัจจุบันนี้ จิตไม่ได้ล่องลอยไปไหน (ในทางความเชื่อ การสวดให้ชัดถ้อยชัดคำ ก็เพื่อให้พระท่านรับรู้ว่าเราต้องการจะสื่อสารอะไร ท่านจะได้ประทานพรได้ถูก แต่ถ้ามองในทางวิทยาศาสตร์หรือจิตวิทยา เสียงที่เปล่งออกมา ปากที่ขยับ มันคือการฝึกจิตให้จดจ่ออยู่กับปัจจุบันที่สุด)

 

 

อย่าสั่งแต่ไหว้ตามผู้อื่น เพียงเพราะต้องการบุญ !! ต้องอ่าน 9 วิธีสวดมนต์  ให้เกิดกุศล..รับพุทธคุณสูงสุด ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองตลอดไป

 

 

8. สวดมนต์แล้วอย่าลืมนั่งสมาธิเพื่อภาวนา แผ่เมตตาให้กับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย และสิ่งที่มองไม่เห็น ใครหรืออะไรก็ตามที่มีผลต่อชีวิตเรา ทั้งในด้านดีและด้านร้าย ทั้งในด้านที่เป็นมิตรและเป็นศัตรู ขอให้พยายามนึกเรื่อย ๆ … กล่าวขอบคุณ, ขอโทษ และให้อภัยพวกเขาในขณะที่หลับตา (ในทางพุทธศาสนา คือ การนึกถึงเรื่องเวรกรรมบาปบุญ สร้างบุญให้กับตนเองและผู้อื่น แต่ในทางจิตวิทยา คือ การชำระจิตให้สะอาดกว่านี้ ไม่ให้รู้สึกว่าติดค้างอะไร แถมยังได้กำลังใจจากการนึกถึงแต่สิ่งดี ๆ อีกด้วย)

9. หลังจากสวดมนต์จบแล้ว พยายามดัดนิสัยไม่ให้ตัวเองผิดศีล 5 ถ้าเป็นเวลานอน (สวดมนต์ก่อนนอน) สวดมนต์-นั่งสมาธิแผ่เมตตาเสร็จแล้วก็รีบนอนเลย เพื่อว่างเว้นจากการประพฤติผิดศีล และเพื่อให้นอนฝันดีที่สุดจากจิตที่เพิ่งชำระสะอาดมาหมาด ๆ

         ถ้ายังต้องมีกิจกรรมอื่นหลังจากสวดมนต์-นั่งสมาธิจบแล้ว เช่น จะต้องออกไปทำงาน  หรืออะไรก็ตาม ให้ตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่ผิดศีล 5 เลยภายในกี่ชั่วโมงก็ว่ากันไปตามแต่สะดวก อาจพัฒนาจากไม่กี่ชั่วโมงเป็นทั้งวันได้ยิ่งดี

 

 

อย่าสั่งแต่ไหว้ตามผู้อื่น เพียงเพราะต้องการบุญ !! ต้องอ่าน 9 วิธีสวดมนต์  ให้เกิดกุศล..รับพุทธคุณสูงสุด ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองตลอดไป

 

เลือกปฏิบัติกันได้แล้วแต่คุณจะสะดวก อาจจะไม่ทุกวัน แต่ขอให้สม่ำเสมอจนเป็นนิสัย … สุขภาพกายและสุขภาพจิตดี ผลตอบแทนที่ดีจะเกิดแก่ตัวท่านเอง

 

ที่มา :share-si.com