"แรมโบ้อีสาน"สวน"ณัฐวุฒิ"ถามมาฟังตอนสาบานหรือ?? แฉ"เพื่อไทย"ไม่เคยเห็นค่า ไม่ใยดีตอนตกระกรรมลำบาก!!!

ในเร็ววันนี้ ผมจะไปจุดธูปบอกกับย่าโมว่า ผมขออนุญาตถอนคำสาบานกลับเข้าสู่การเมืองอีกครั้งเพื่อรับใช้ประชาชน ซึ่งผมก็เชื่อว่าย่าโมเข้าใจและไม่มีปัญหาเพราะผมคือลูกหลานย่าโม

จากกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับกระแสข่าวที่กลุ่มสามมิตรเดินสายทาบทามอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และได้พาดพิงไปถึง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. เจ้าของฉายา “แรมโบ้อีสาน” 

 

โดย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เท่าที่จำได้ นายสุพร ได้ประกาศยุติบทบาททางการเมืองและได้สาบานที่อนุสาวรีย์ย่าโม หลังจากการยึดอำนาจของ คสช. ได้ไม่นาน จากนั้นก็ไม่ได้พบกับนายสุพรอีกเลย

“ถ้าเขาตัดสินใจร่วมกับพรรคพลังประชารัฐก็เป็นสิทธิ์โดยชอบของ นายสุพร แต่ทั้งนี้ความเป็นนปช.ต้องดำรงอยู่ตามหลักการประชาธิปไตย เมื่อใดก็ตามที่ใครทิ้งหลักการนี้ หรือไปสนับสนุนขบวนการสืบทอดอำนาจก็ถือว่าสิ้นสภาพความเป็น นปช. ไม่ใช่ตนหรือแกนนำเป็นคนตัดสินแต่อยู่ที่หลักการเป็นคนตัดสิน”

 

ล่าสุดวันนี้ ( 19 ก.ค. ) นายสุภรณ์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้นายณัฐวุฒิ  เรื่องที่เคยสาบานต่อหน้าอนุสาวรีย์ย่าโมแล้วว่า จะไม่เล่นการเมืองแต่กลับแปรพักตร์ไปเข้ากับกลุ่มสามมิตรเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งโดยระบุว่า ...

 

ไม่ทราบว่าตอนที่กล่าวคำสาบานต่อหน้าย่าโมนั้น นายณัฐวุฒิ ได้มาฟังคำพูดของตนหรืออย่างไร ที่ผ่านมาตนได้ยื่นใบลาออกจากพรรคเพื่อไทยตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยมานานกว่า 5 ปีแล้ว และผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยก็ไม่เคยเห็นคุณค่าของตน และไม่เคยติดต่ออะไรมาเลย ในยามที่ตนตกระกรรมลำบากตลอดระยะเวลา 4-5 ปี ตนลงพื้นที่มาตลอดไม่เคยทอดทิ้งประชาชน 

 

มาวันนี้ตนทนกระแสเรียกร้องให้กลับมาทำงานการเมืองจากประชาชนไม่ไหว ประกอบกับมีผู้ใหญ่เห็นคุณค่า และอยากให้ตนกลับมาช่วยกันทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองและประเทศชาติ ซึ่งตนเองก็พร้อมที่จะร่วมงานกับกลุ่มสามมิตรเพราะเห็นว่า ณ วันนี้การเมืองนิ่งบ้านเมืองสงบสุขแล้ว

“แรมโบ้อีสาน” ยังกล่าวต่อด้วยว่า ..“ในเร็ววันนี้ ผมจะไปจุดธูปบอกกับย่าโมว่า ผมขออนุญาตถอนคำสาบานกลับเข้าสู่การเมืองอีกครั้งเพื่อรับใช้ประชาชน ซึ่งผมก็เชื่อว่าย่าโมเข้าใจและไม่มีปัญหาเพราะผมคือลูกหลานย่าโม

 

เป็นคนโคราชโดยกำเนิด ส่วนคนที่จะไม่เข้าใจและมีปัญหา คือ คนที่ไม่อยากให้ผมกลับมาเล่นการเมืองและพยายามหาข้ออ้างมาโจมตีต่างๆนานา ผมจะกลับมาเล่นการเมืองแน่นอนและสามารถอธิบายเหตุผลให้ประชาชนเข้าใจได้ไม่ต้องมาห่วงหรือมาแคร์อะไรกับผม”

ในส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยระบุว่ากลุ่มสามมิตรต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตรงข้ามกับอุดมการณ์ของ นปช. นายสุภรณ์ ตอบว่า วันนี้อยากขอร้องให้ทุกกลุ่มทุกสีลืมเรื่องอดีตที่เจ็บปวดไปเสีย แล้วหันหน้ามาปรองดองร่วมมือหาทางออกให้กับประเทศชาติและสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงและขอให้ทุกคนเห็นแก่แผ่นดินไทย 

 

ตนเชื่อว่าคนไทยทุกคนรักแผ่นดินไทยบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเรา ฉะนั้นนับแต่วันนี้จงอย่าแบ่งแยกสีแยกกลุ่มกันอีกเลยทำอย่างไรประเทศชาติจะสงบสุข ทำอย่างไรบ้านเมืองจะเจริญและก้าวไปข้างหน้าได้พวกเรามาร่วมมือกันทำสิ่งเหล่านี้ดีกว่า