เอาจริง !! กยศ. เตรียมจัดหนัก ลูกหนี้เบี้ยวจ่าย ทำ " ครูวิภา " ทุกข์ระทม พร้อมแฉรายชื่อศิษย์ทรยศ(คลิป)

 

         จากกรณีที่ "ครูวิภา บานเย็น "  ครูโรงแรงแห่งหนึ่งภายใน จ.กำแพงเพชร ถูกยึดบ้านและที่ดินขายทอดตลาด โดยเป็นผลจากคดีที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องและบังคับคดีในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้กยศ. ให้กับนักเรียนจำนวนกว่า 60 คน โดยต่อมา น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี ได้ประสานไปยังนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ผู้จัดการ กยศ.เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาเร่งด่วนก่อนหน้านั้น ครูวิภา กล่าวว่า ตนได้เคยค้ำประกันให้กับนักเรียน ม.4 และ ม.5 จำนวน 60 คน ในระยะเวลา 2 ปี หลังจากนั้น ม.6 ผู้ปกครองของน้อง ๆ ก็จะค้ำประกันเอง เมื่อประมาณปี 2541 ถึง 2542ต่อมาตนเองได้ไป กยศ .จึงทราบว่า เด็กนักเรียนที่ค้ำประกันไปให้นั้น จำนวน 30 คน ไม่ได้ส่งเงินชำระคืนให้ กยศ. ตอนนี้ที่ตนเองโดนฟ้อง 20 กว่าคน "ตนตั้งใจสอนลูกศิษย์ให้ทำความดี เรียนจบแล้วให้มีความรับผิดต่อสังคม แต่สิ่งที่ได้รับนั้นมันคนละเรื่องกับที่ได้สอนลูกศิษย์ อยากวอนให้ลูกศิษย์ที่ตนเองได้ค้ำประกัน กยศ.ให้นั้นได้รับรู้ภาระที่ครูได้รับอยู่นี้ก็อยากให้ลูกศิษย์ที่มีงานทำแล้วช่วยมาแบ่งเบาให้บ้าง"  " อ่านข่าว จุกหัวใจ!!"ครูวิภา"โดนหมายศาลยึดบ้านที่ดิน ค้ำประกันเงินกู้ลูกศิษย์คิดทรยศ ล่าสุดๆกยศ.+กรมบังคับคดีร่วมช่วยเหลิอด่วน!??"

 

 

          ด้าน นาย ชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาเปิดเผยว่า จากกรณีที่ครู วิภา บานเย็น ได้เป็นผู้ค้ำประกันให้แก่นักเรียนที่เป็นผู้กู้ยืมตั้งแต่ปี 2541 ถึง 2542 จำนวน 60 ราย แต่มีลูกศิษย์ที่ค้างชำระหนี้ กยศ. จนถึงขั้นบังคับคดีครูที่เป็นผู้ค้ำประกันนั้น กองทุนได้ตรวจสอบสถานะ คดีของผู้กู้ยืมที่ครูวิภาได้เป็นผู้ค้ำประกันแล้วพบว่ามีจำนวน 60 ราย จากจำนวนดังกล่าวมีผู้กู้ที่ชำระหนี้ปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว 29 ราย ชำระหนี้ตามปกติ 10 รายถูกฟ้องดำเนินคดีทั้งสิ้น 21 ราย ในจำนวนคดีที่ถูกฟ้องร้องมีการยึดทรัพย์แล้ว 4 ราย ซึ่งทั้ง 4 รายนี้ครูวิภาได้มาชำระหนี้ในส่วนที่ค้ำประกันเรียบร้อยแล้วซึ่งกองทุนจะดำเนินคดีการถอนการยึดทรัพย์ต่อไป ในส่วนคดีอีก 17 นาทีที่เหลือนั้นอยู่ในขั้นตอนการบังคับคดีซึ่งทั้ง 17 รายนี้คิดเป็นเงินต้นที่ค้ำประกันประมาณ 190,000 บาท สำหรับการช่วยเหลือครูวิภาในส่วนของคดีที่รอการบังคับคดีนั้นกองทุนจะดำเนินการไกล่เกลี่ยก่อนการยึดทรัพย์ ซึ่งภาระหนี้ดังกล่าวจะไม่ถึงกับล้มละลายตามที่เป็นข่าวกองทุนขอชื่นชมคุณครูที่ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบและเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง สำหรับผลการไกล่เกลี่ยในเบื้องต้นได้ข้อตกลงร่วมกันว่า กยศ.จะระงับการบังคับคดีและขายทอดตลาดในเดือนส.ค.นี้ไว้ชั่วคราว เพื่อให้ฝ่ายกฎหมายเพิ่มความเข้มข้นในการติดตามตัวและทรัพย์ของลูกหนี้รวมถึงผู้ค้ำประกันรายอื่นที่มีความสัมพันธ์เป็นญาติหรือผู้ปกครองของลูกหนี้. ทั้งนี้เพื่อรวบรวมทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด ก่อนนำมาหักกับส่วนที่ครูเป็นผู้ค้ำประกัน และกรณีที่มีการผ่อนชำระหนี้ต้องหักลบหนี้ในส่วนของผู้ค้ำประกันออกก่อน  " อ่านข่าว กาหัวไว้เลย..เจอกันแน่!! กยศ.เตรียมไล่บี้ลูกศิษย์เบี้ยวหนี้ ทำ"ครูวิภา"รับเคราะห์โดนฟ้องยึดทรัพย์!??.  "

 

.

 

      ครูวิภา เผยว่า ตอนเซ็นค้ำประกัน ตอนสอนโรงเรียนมัธยมอยู่ จ.กำแพงเพชร ตนเริ่มเซ็นค้ำประกันหนี้ให้นักเรียนใน ปี 2541 กับ 2542 เพราะตอนนั้นตนเป็นที่ครูปรึกษาของนักเรียนและสอนถึง 2 ห้อง รวมกว่า 60 คน ตอนนั้นไม่ได้มีการคุยกับลูกศิษย์และไม่ได้นึกถึงว่า อีก 10-20 ปี จะเกิดอะไรขึ้น ตนคิดเพียงว่าเซ็นเพื่อให้เด็กได้เรียนหนังสือ ซึ่งตนเพิ่งรู้ตัวตอนปี 2551 ที่ได้รับหมายศาลฉบับแรกให้ไปไกล่เกลี่ยหนี้ก็รู้ทันทีว่าเป็นเรื่อง กยศ. ตนก็ตกใจและสงสัยว่าลูกศิษย์จะได้หมายศาลด้วยหรือไม่ ตนจึงไปตามที่บ้านของลูกศิษย์ แต่ไม่เจอตัวของลูกศิษย์เพราะตอนนั้นไปเรียนที่อื่นแล้วลูกหนี้ กยศ. หนึ่งในลูกศิษย์ ของครูวิภา คุณวาสนา ผู้กู้ กยศ. ที่ครูวิภาค้ำประกันให้ เปิดเผยว่า ตนได้ติดตามข่าวครูวิภาแล้ว ขณะที่เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา ครูได้ติดต่อมาให้ตนเข้าไปเช็กยอดชำระหนี้ ซึ่งทราบว่าทาง กยศ. ไม่ให้ทยอยจ่ายแล้ว แต่ให้ปิดบัญชีโดยจ่ายคืนทั้งหมด ซึ่งตนติดหนี้ กยศ. รวมดอกเบี้ย จำนวน 15,000 บาท โดยกู้ตั้งแต่เรียนชั้น ม.4 ที่ จ.กำแพงเพชร จากการเช็กยอดเงินต้นที่กู้จำนวน 11,000 บาท และตนกู้เพียงเทอมเดียวเท่านั้น โดยครูวิภา บอกตนว่าโดนบังคับยึดทรัพย์ ต่อมาวันรุ่งขึ้นครูไปออกทีวี ตนก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ ซึ่งทราบว่าครูเซ็นค้ำประกันให้ศิษย์กู้ กยศ. ถึง 60 คน ตอนนั้นด้วยความเป็นเด็ก ตนก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้ตนก็คิดว่าเหตุใด ทำไมครูถึงกล้าค้ำให้เด็กถึง 60 คนคุณวาสนา ยืนยันว่า ตนไม่คิดจะเบี้ยวจ่าย กยศ. ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างหาเงินมาปิดเต็มจำนวน ขณะที่ผ่านมา ตนไม่เคยรู้เรื่องนี้จากครู และไม่ได้ติดต่อครู ตนทราบว่าครูโดนฟ้องตั้งแต่ปี 2550คุณวาสนา กล่าวว่า เมื่อเช้าตนได้โทรศัพท์ไปหาครูแล้ว แต่ครูไม่ได้รับสาย ตนคิดว่าคงยุ่งอยู่ ทั้งนี้ คุณวาสนากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “หนูเสียใจ ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้” อีกทั้งตนก็เห็นข่าวที่ครูวิภาก็ปกป้องลูกศิษย์เหมือนกัน ซึ่งตอนนี้ตนก็จะต้องหาเงินมาปิดยอดเงินกู้ 15,000 บาทให้ได้ ซึ่งตอนนี้ตนทำงานอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร " อ่านข่าว ฟังจากปาก "แก๊งค์ลูกศิษย์" ครูวิภาเบี้ยวหนี้ กยศ. โต้กลับขอเวลาหาเงิน ส่วนอีกราย รู้โทรถามเรื่องหนี้ รีบกดตัดสาย!!! "

     ล่าสุดเฟซบุ๊กแฟนเพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return" ได้มีการโพสต์ภาพพร้อมข้อมูลระบุว่า... #รายชื่อต่อไปนี้รบกวนติดต่อขอชำระหนี้ให้ครูด่วน
1 นายสุวิชา (ขอสงวนนามสกุล)
2 น.ส.ภัสรา (ขอสงวนนามสกุล) ปิดยอดแล้ว
3 น.ส.รัชนก (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 52
4 นส.อำภา (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 55
5 นายไกรสร (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 57
6 นส.วรรณภา (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 58
7 นายกฤษณะชนม์ (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 58
8 นส.ลูกจันทร์ (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 59
9 นส.วาสนา (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 53
10 นส.ยอดสน (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 59
11 นส.ศรีไพร (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 50
12 นายวิโรจน์ (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 51
13 นายสมพล (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 52
14 นายพีรพล (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 54
15 นายศรายุทธ (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 54
16 นายวัชรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 59
17 นายกฤษณะ (ขอสงวนนามสกุล) ฟ้องปี 61

         ภาพที่ปีปรากฏนี้ คือบุคคลที่คุณครูได้ใช้หนี้แทน หรือ 1 ใน 4 นั่นเอง หากที่เหลือยังดื้อที่จะรั้นต่อไปก็ขอให้ดูเป็นตัวอย่าง บุคคลนี้ได้ติดต่อไปหาคุณครูเรียบร้อยแล้วแต่ในรายละเอียดไม่ทราบ 4 คนนี้ถือว่าเป็นบุคคลที่เห็นแก่ตัวมากที่สุด กินหรูอยู่สบาย ภายใต้คราบความทุกข์ใจของครู หากครูไม่ไปจ่ายแทน 4 คนนี้ วันนี้ครูจะไม่มีบ้าน ไม่มีที่ดิน ไม่มีอาชีพ เป็นบุคคลล้มละลาย เคยรู้กันไหม? หาก 3 คนที่เหลือยังไม่ติดต่อเข้าพบคุณครู แอดมินขออนุญาติไม่เบลอหน้า หรือเบลอทรัพย์สินใด ๆ ทั้งสิ้น  อ่านข่าว "ขีดเส้นตาย!! เพจดังแฉครบรายชื่อ "ศิษย์ทรยศ" เบี้ยวหนี้กยศ. ทำ "ครูวิภา" ทุกข์ระทมโดนฟ้องยึดบ้านที่ดิน!??" 

 

 

.

.

.