อันตราย!! 7 ผลข้างเคียง...ยาลดความดัน

การใช้ยาเพื่อรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่อาการที่ไม่พึงประสงค์ที่เกิดกับคนไข้เมื่อใช้ยาในขนาดที่ใช้ในการรักษา โดยไม่ได้ทานยาเกินขนาดหรือเป็นผลที่เกิดจากการทานยาร่วมกับยาตัวอื่น มีสาเหตุจากการที่ยาไม่มีผลเฉพาะเจาะจงกับอวัยวะเป้าหมายที่ต้องการรักษา แต่ยายังไปมีผลต่ออวัยวะส่วนอื่นๆที่ไม่ต้องการให้ยาออกฤทธิ์ด้วย

การใช้ยาเพื่อรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่อาการที่ไม่พึงประสงค์ที่เกิดกับคนไข้เมื่อใช้ยาในขนาดที่ใช้ในการรักษา โดยไม่ได้ทานยาเกินขนาดหรือเป็นผลที่เกิดจากการทานยาร่วมกับยาตัวอื่น มีสาเหตุจากการที่ยาไม่มีผลเฉพาะเจาะจงกับอวัยวะเป้าหมายที่ต้องการรักษา แต่ยายังไปมีผลต่ออวัยวะส่วนอื่นๆที่ไม่ต้องการให้ยาออกฤทธิ์ด้วย

1.กลุ่มยาขับปัสสาวะ  ได้แก่ ยาไฮโดรคลอโรไทอาไซด์(hydrochlorothiazide) ยาฟูโรซีไมด์ ยาอะมิโลรายด์ (amiloride) เป็นต้น ยาจะออกฤทธิ์โดยการขับเกลือออกจากร่างกาย ทำให้ปัสสาวะบ่อ ทั้งนี้เพื่อลดการเกิดภาวะโปแทสเซี่ยมในเลือดต่ำ ทำให้ไตขับน้ำส่วนเกินออกมา ใช้ลดความดันโลหิต และภาวะบวมน้ำที่เกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคตับ ชื่อทางการค้า

ผลข้างเคียงของยากลุ่มนี้คือ อาจจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ระดับโปแตสเซียมในเลือดผิดปกติ ระดับไขมันในเลือดสูง จุกเสียดกระเพาะอาหหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องร่วง เบื่ออาหาร มีลมในกระเพาะอาหาร ปัสสาวะบ่อย มึนงง ปวดศีรษะ หายใจลำบาก อ่อนแรงแขนขา

2.กลุ่มยาปิดกั้นการไหลของแคลเซียมเข้าสู่เซลล์
จากการปิดกั้นการไหลของแคลเซียมเข้าสู่เซลล์นี้เอง จะเป็นผลให้กล้ามเนื้อที่หลอดเลือดคลายตัวและนำไปสู่การขยายตัวของหลอดเลือด ทำให้ความดันโลหิตลดลงตามมา
ยาแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์สามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง/อา การข้างเคียง) ดังนี้ เช่น มีอาการปวดศีรษะ ความดันโลหิตต่ำ บวมตามปลายแขนและขา หัวใจ เต้นเร็ว วิงเวียน รู้สึกระคายเคืองในทางเดินอาหาร และท้องผูก

3.กลุ่มยายับยั้งการสร้างแอนจิโอแทนซิน
เรียกย่อๆ ว่ากลุ่มยาเอซีอีไอ (ACEI) ซึ่งย่อมาจาก angiotensin converting enzyme ได้แก่ ยาอินาลาพริล (enalapril) ยาแคปโตพริล (captopril) ยาไลสิโนพริล (lisinopril) เป็นต้น ยาจะออกฤทธิ์โดยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่สร้างแอนจิโอแทนซิน (angiotensin) ซึ่งมีผลทำให้หลอดเลือดหดตัว ดังนั้นเมื่อไม่มีแอนจิโอแทนซิน การหดตัวของหลอดเลือดจึงเกิดน้อยลง ทำให้ความดันโลหิตลดลงได้
ผลข้างเคียงของยากลุ่มนี้ได้แก่ ไอแห้งๆ เกิดภาวะโปแตสเซียมในเลือดสูง

4.กลุ่มยาขัดขวางการจับตัวรับแอนจิโอแทนซิน
อาการไม่พึงประสงค์(ผลไม่พึงประสงค์/ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) จากการใช้ยาโรคหัวใจ เช่น

    1.ยากลุ่ม Anticoagulants และกลุ่ม Antiplatelets: เช่น อาจทำให้มีเลือดออกง่ายในอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย เกิดภาวะเลือดออกมากผิดปกติ โดยมีจ้ำเลือด/ห้อเลือดใต้ผิวหนัง มีเลือดออกที่ตาขาว/เลือดออกใต้เยื่อตา อุจจาระเป็นเลือดปัสสาวะเป็นเลือด เลือดออกตามไรฟัน/เลือดออกที่เหงือก ประจำเดือนมามากผิดปกติ
    2.ยากลุ่ม ACE Inhitors: ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ ทำให้เกิดอาการไอแห้งๆ อาการอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตต่ำ การรับรสเปลี่ยนไป ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง
    3.ยากลุ่ม ARBs: มีอาการไม่พึงประสงค์เช่นเดียวกันกับยากลุ่ม ACE Inhibitors ยกเว้นไม่มีอาการไอแห้งๆ
    4.ยากลุ่ม Beta blockers: อาจทำให้เกิดภาวะความดันต่ำได้ โดยเฉพาะเมื่อผู้ป่วยได้รับยานี้ครั้งแรก หรือมีการปรับขนาดยาเพิ่ม อาการอื่นๆ เช่น หัวใจเต้นช้า มึนงง เหนื่อยล้า อ่อนแรง ภาวะบวมน้ำ และน้ำตาลในเลือดสูง
    5.ยากลุ่ม Calcium channel blockers: อาจทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ ปวดศีรษะ บวมที่อวัยวะต่างๆ เช่น ข้อเท้าหรือเท้า การมองเห็นหรือการได้ยินเปลี่ยนแปลงไป
    6.ยา Digoxin: อาจทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย เหนื่อยล้า มึนงง สับสน ปวดศีรษะ บ้านหมุน การมองเห็นเปลี่ยนไป เช่น เห็นแสงวูบวาบ ภาพ/ตาพร่ามัว การมองภาพเห็นสีเปลี่ยนไป เช่นเห็นเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว เมื่อยล้า และกล้ามเนื้ออ่อนแรง
    7.ยาขับปัสสาวะ: อาจทำให้เกิดความผิดปกติของระดับเกลือแร่(Electrolyte)ในร่างกาย (Electrolyte imbalance), ยา Furosemide อาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูง เป็นพิษต่อหู โดยความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นถ้าใช้ร่วมกับยาที่มีโอกาสเกิดพิษต่อหูได้เช่นกัน คือ ยาปฏิชีวนะในกลุ่ม Aminoglycosides, นอกจากนี้ ยา Spironolactone อาจทำให้เกิดภาวะเต้านมโตในเพศชาย (Gynecomastia)
    8.ยาขยายหลอดเลือด: อาจทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ หน้าแดง หมดสติ ปวดศีรษะ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว อ่อนแรง
    9.ยาลดไขมัน: อาจทำให้มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ค่าน้ำตาลในเลือดสูง ตับอักเสบ(พบได้น้อย) สับสนและมีปัญหาด้านความจำ(พบได้น้อย)

5.กลุ่มยาปิดกั้นเบต้า
ยาเบต้า บล็อกเกอร์สามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ดังนี้ เช่น มีภาวะหัวใจเต้นช้า เจ็บหน้าอก ความดันโลหิตต่ำ หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก มีอาการคล้ายหอบหืด ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน มดลูกบีบรัดตัวมาก อ่อนเพลีย เป็นตะคริว ฝันร้าย ประสาทหลอน วิงเวียน ซึมเศร้า น้ำตาลในเลือดต่ำ ไขมันในเลือดชนิดเฮชดีแอล (HDL) ลดต่ำลง ในขณะที่ไขมันชนิดแอลดีแอล (LDL) เพิ่มสูงขึ้น เหงื่อออกมาก บวมตามผิวหนัง และระคายเคืองตา

6.กลุ่มยาปิดกั้นแอลฟ่า
ลุ่มยากลุ่มแอลฟา-บล็อกเกอร์อาจก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง/อาการข้าง เคียง) ดังนี้ เช่น ไอ เหงื่อออกมาก ปัสสาวะสีคล้ำ มีไข้ มีภาวะความดันโลหิตต่ำ ผื่นคัน เท้าและขาบวม วิงเวียนศีรษะ เป็นลม ท้องผูก อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ แน่นจมูก น้ำหนักตัวเพิ่ม ท้องเสีย ซึมเศร้า หัวใจเต้นช้า เบื่ออาหาร เป็นต้น

7.กลุ่มยาขยายเส้นเลือดแดง
ผลข้างเคียงของยาขยายหลอดเลือด มีดังนี้ อาการเจ็บหน้าอก อาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว น้ำคั่งภายในร่างกาย คลื่นไส้ หรือ อาเจียน มึนงง ปวดหัว หน้ามืด มีขนขึ้นมากผิดปกติ คัดจมูก


ขอบคุณข้อมูลจาก : siamhealth,haamor,honestdocs