ธาตุแท้ "เพื่อไทย" พรรคประชาธิปไตย หรือพรรคส่วนตัวของ"ทักษิณ"?

พรรคเพื่อไทย มักจะบอกกับสาธารณชนอยู่เสมอว่า ตอนเองพรรคประชาธิปไตย แต่มี่ผ่านมาการกระทำกับไม่สอดคล้องกับคำพูด แต่พรรคดูทีท่าคล้ายกับเป็นพรรคส่วนตัวของทักษิณ?

 

ที่ผ่านมาคนในพรรคเพื่อไทย มักจะพูดอยู่เสมอๆนั้นว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคแห่งประชาธิปไตย การต่อสู้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจวบจนปัจจุบันของเพื่อไทยเป็นตามครรลอง ของประชาธิปไตย แต่หากลองพิจารณาข้อเท็จจริงนับตั้งแต่ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้หลบหนีคดีไปต่างประเทศ ซึ่งสังเกตได้ว่าบทบาทของนายทักษิณ กับพรรคเพื่อไทย รวมพรรคพลังประชาชน ที่ถูก ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคพลังประชาชน จากปมฉาวทุจริตการเลือกตั้ง เรียกได้ว่าบทบาทของนายทักษิณกับพรรคการเมืองเหล่านี้ แยกจากกันไม่ขาดเลยทีเดียว

 

วาทกรรม ที่อาจจะเข้าข่ายครอบงำพรรคหรือไม่นั้น หากไล่ดูเพียงที่เกิดเฉพาะภายในปี61 ซึ่งก็ได้มีอยู่หลายครั้งหลายคราวเช่นกัน อาทิ

วาทกรรม ที่อาจจะเข้าข่ายครอบงำพรรคหรือไม่นั้น หากไล่ดูเพียงที่เกิดเฉพาะภายในปี61 ซึ่งก็ได้มีอยู่หลายครั้งหลายคราวเช่นกัน อาทิ

 

เมื่อครั้งที่กลุ่มอดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส.เพื่อไทย กว่า 50 คน เดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อพบนายทักษิณ เมื่อช่วงเดือนพ.ค. มีรายงานว่า การพูดคุยระหว่างวงเลี้ยงข้าว นายทักษิณ พูดถึงสถานการณ์การเมืองไทยว่า ไม่กังวลกับเรื่องพลังพลังดูดนักการเมืองของพรรคทหาร เพราะเป็นเรื่องปกติในวงการเมืองที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และมองว่า นักการเมืองที่ตัดสินใจไป ก็เป็นกลุ่มสีเทา ที่มองเห็นประโยชน์ ดูดไปก็จะกลายเป็นปัญหากับ คสช. ท้ายที่สุดก็ยังคงเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยจะกลับมาได้ชัยชนะในการเลือกตั้งอยู่ดี ไม่ได้แค่ชนะเลือกตั้งเท่านั้น แต่เขาใช้คำว่า "แลนด์สไลด์" คือ ชนะถล่มทลาย

 

"ผมจะทวิตเตอร์ขอบคุณ ส.ส. ที่ลาออกจากพรรคไป ถือว่าเป็นการเสียสละอย่างยิ่ง ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มาเป็นผู้แทน ส่วนใครที่ออกจากพรรคไปมี 2 ประการ คือ 1. ต้องรีบไปเก็บสตางค์แล้วเลิกเล่นการเมือง เพราะพวกนี้หน้าโง่จ่ายแพง 2. มั่นใจในตัวเอง ลืมไปเลยว่าคะแนนตัวเองสู้คะแนนพรรคไม่ได้ ถือเป็นการดีเพราะจะได้เอาเด็กรุ่นใหม่มาแทน ทั้งโคราชและเลย ผมมันเป็นพวกไมค์ ภิรมย์พร "ไปดีเถอะนะพี่ขออวยพร" (ร้องเพลง)  นายทักษิณ กล่าว เมื่อครั้งเลี้ยงฉลองวันเกิดน้องสาว อย่าง น.ส.ยิางลักษณ์ ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ เมื่อช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่าน

 

ธาตุแท้ "เพื่อไทย" พรรคประชาธิปไตย หรือพรรคส่วนตัวของ"ทักษิณ"?

 

และล่าสุดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา  นายทักษิณ -น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมายังเกาะฮ่องกง พบปะพูดคุยกับอดีตส.ส. โดยเฉพาะกับกลุ่มอดีตส.ส.จากภาคอีสาน  โดยมีสาระสำคัญช่วงหนึ่งนายทักษิณ ได้กล่าวเอาไว้ว่า 

 

“อยากบอกทุกคนว่าถ้าเราไม่ยอมแพ้ คำว่าแพ้มีได้ 2 กรณี คือ 1.แพ้เพราะตาย กับ 2.แพ้เพราะยอมไปเอง ถ้าเรายังสู้อยู่เราก็จะไม่แพ้ นั่นก็คือ มีแต่แบทเทิล ไม่มีวอร์ วอร์มันจะเอนด์ต่อเมื่อทุกอย่างมันจบ แต่สู้กันกี่ยกๆ นี่คือแบทเทิล ซึ่งวอร์ยังไม่จบ เรายังต้องทำต่อไป”

 

ธาตุแท้ "เพื่อไทย" พรรคประชาธิปไตย หรือพรรคส่วนตัวของ"ทักษิณ"?

 

ข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาการที่พรรคเพื่อไทยได้แต่พร่ำเพ้อถึงประชาธิปไตย นั้นไม่ได้จบหรือหยุดที่การเลือกตั้ง  แต่การเลือกตั้งนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง เป็นรากฐานให้สมาชิกหรือคนในสังคมนั้นๆ มีส่วนร่วม มาจากความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจร่วมกัน โดยผ่านเป็นมติพรรค รวมไปถึงนโยบายต่างๆที่ออกมา ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ชี้ขาด มีอำนาจเสมือนเจ้าของพรรคเป็นคนบงการ ผลักดันนโยบายต่างๆ   ดังที่ในอดีตที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทย 

ภาพที่นายทักษิณ  ที่วีดีโอลิงค์จากต่างประเทศเข้ามายังเวทีการหาเสียงใหญ่ พรรคเพื่อไทย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ภายใต้ชื่องาน “เพื่อไทยพร้อมบริหารประเทศ” เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2554 ระหว่างการหาเสียงก่อนเลือกตั้งทั่วไป

ธาตุแท้ "เพื่อไทย" พรรคประชาธิปไตย หรือพรรคส่วนตัวของ"ทักษิณ"?

นอกจากนี้ในวันที่ 23 ตุลาคม 2555 นายทักษิณ ยังให้สัมภาษณ์นิตยสารฟอร์บ ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกี่ยวกับนโยบายจำนำข้าว นโยบายที่ได้สร้างความเสียหายให้กับชาติหลายแสนหลายบาท ว่า เป็นคนคิดนโยบายนี้เอง เหมือนกับสโลแกนตอนหาเสียงที่ว่า ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ

 

ธาตุแท้ "เพื่อไทย" พรรคประชาธิปไตย หรือพรรคส่วนตัวของ"ทักษิณ"?

 

สุดท้ายข้อถกถียงกันที่ว่า เพื่อไทย เป็น พรรคแห่งประชาธิปไตย หรือพรรคส่วนตัวของทักษิณ   อาจได้ข้อสรุปจากปากของ และเป็นอดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์  อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อย่างนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ  แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ให้สัมภาษณ์พิเศษใน เว็บไซต์ประชาไท ช่วงหนึ่งได้ตอบคำถามที่ว่า  " คุณจะปฏิเสธก็ได้ แต่คนภายนอกมอง พรรคเพื่อไทยยังเป็นของคุณทักษิณและตระกูลชินวัตร เมื่อไหร่พรรคเพื่อไทยจะก้าวข้ามคุณทักษิณและตระกูลชินวัตรไปสู่ความเป็นสถาบันเสียที"

 

โดยนายณัฐวุฒิ  ตอบว่าคำว่า ก้าวข้าม มันฟังดูแล้วไม่เป็นบวก เพราะต้องยอมรับคุณูปการของการเป็นนายกฯ ทักษิณ มันสำคัญมากที่ทำให้พรรคเพื่อไทยยังคงอยู่ในใจของประชาชนมาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้น แทนที่จะบอกว่าก้าวข้ามก็เป็นเพียงว่าแต่ละส่วนจัดวางสถานะหรือบทบาทอย่างเหมาะสม ผมว่าเป็นไปได้มากกว่า

 

"จะบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีทักษิณ ผมก็มองไม่ออกเหมือนกันว่าคุณจะเดินไปยังไงในสนามเลือกตั้ง แต่ถ้าบอกว่ายี่ห้อทักษิณ นโยบายทักษิณ ประชาชนเชื่อใจและเชื่อมั่น ในขณะที่จะไปบอกว่าพรรคเพื่อไทยมีทักษิณอย่างเดียว ไม่มีประชาธิปไตยก็ไม่ได้อีก เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่การจะเป็นสถาบันการเมืองของพรรคเพื่อไทยจะจัดวางสิ่งที่มีคุณค่าเหล่านี้อย่างไร ซึ่งส่วนตัวผม ผมคาดหวังว่าจะเห็นในรอบของการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงว่าจะจัดวางสถานะบทบาทกันอย่างไร"

 

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่าจะบอกว่าเพื่อไทยไม่ใช่ทักษิณ ผมไม่เห็นด้วยนะครับ คุณจะปฏิเสธสิ่งที่คุณเกิด คุณเติบโตมาได้อย่างไร เพราะถ้าไม่ใช่ไทยรักไทย ไม่ใช่นโยบายที่มีนายกฯ ทักษิณเป็นผู้นำ ผู้บริหาร พรรคไทยรักไทยอาจจะเหลือแต่ชื่อตั้งแต่รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ผมจึงไม่เห็นว่าพรรคเพื่อไทยต้องปฏิเสธการดำรงอยู่ของนายกฯ ทักษิณ แต่ขณะเดียวกัน เพื่อการไปสู่ความเป็นสถาบันทางการเมือง จะจัดวางสถานะนี้อย่างไร

 

"ถ้ามีใครในพรรคเพื่อไทยเสนอจะก้าวข้ามทักษิณ ผมเห็นต่างครับ ผมคิดว่าพรรคการเมืองที่เป็นพรรคใหญ่ที่สุดของประเทศมายาวนานต้องมีมิติทางความคิดที่คมคายและลึกซึ้งกว่านั้น ที่จะจัดวางสิ่งที่มีคุณค่าที่มีอยู่ทั้งหมดให้ลงตัวและเดินไปข้างหน้าทางการเมืองได้ ผมว่านั่นแหละเป็นสิ่งที่แสดงความเหนือชั้นกว่าแค่คิดว่าจะก้าวข้ามหรือไม่ก้าวข้ามทักษิณ"