สรุปวีรกรรมทำเพื่อหวย ย้อนไทม์ไลน์ก่อนจบคดีอลเวงหวย 30 ล้าน ก่อนพูดได้เต็มปาก ใครกันโกหกคำโต

ต่อจากฉบับที่แล้ว http://www.tnews.co.th/contents/475888

ต่อจากฉบับที่แล้ว http://www.tnews.co.th/contents/475888 

    มาตามกันต่อกับกรณีหวย 30 ล้าน กรณีที่นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหา ยักยอกทรัพย์ รับของโจร ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดทั้ง 2 ฝ่าย มาไต่สวนมูลฟ้อง นัดแรก เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. นัดที่สอง, วันที่ 29 มิ.ย. นัดที่สาม, วันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้นัดไต่สวนมูลฟ้องอีกครั้งหนึ่ง

 

    ในครั้งนี้สำนักข่าวทีนิวส์จะพาไปย้อนดูวีรกรรมและนานาสารพัดคำพูดของครูปรีชา ผู้ที่เข้าแจ้งความว่าหวยของตนเองหาย จนตามมาซึ่งความอลเวงและคดีความ แต่ทุกอย่างกำลังจะคลี่คลายในเร็ววันนี้

 

    ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายเป็นคดีต่อเนื่องและยาวนาน จนหลายคนเริ่มที่จะเลิกติดตามและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนทางกฏหมาย โดยทางฝั่งครูปรีชานั้น มีพยานหรือตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในคดีนี้ ประกอบไปด้วย
1. นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ผู้อ้างว่าซื้อสลากฯ ที่ถูกรางวัลที่ 1 แต่ทำหล่นหาย

 

สรุปวีรกรรมทำเพื่อหวย ย้อนไทม์ไลน์ก่อนจบคดีอลเวงหวย 30 ล้าน ก่อนพูดได้เต็มปาก ใครกันโกหกคำโต

 

2. นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น แม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ตลาดเรดซิตี้ อ้างว่าเป็นผู้ขายสลากฯ ให้ครูปรีชา

 

สรุปวีรกรรมทำเพื่อหวย ย้อนไทม์ไลน์ก่อนจบคดีอลเวงหวย 30 ล้าน ก่อนพูดได้เต็มปาก ใครกันโกหกคำโต

3. นางพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช เจ้าของแผงสลากฯ ที่เจ๊บ้าบิ่นรับสลากฯ ไปขายต่อให้ครูปรีชาอีกทีหนึ่ง

 

สรุปวีรกรรมทำเพื่อหวย ย้อนไทม์ไลน์ก่อนจบคดีอลเวงหวย 30 ล้าน ก่อนพูดได้เต็มปาก ใครกันโกหกคำโต

 

4. นางปณัญชญา สุขพูล หรือเจ๊เกียว แม่ค้าขายสลากอีกคน ผู้ยืนยันว่าเห็นครูปรีชาทำการซื้อขายสลากฯ กับแผงของเจ๊บ้าบิ่นจริง

 

สรุปวีรกรรมทำเพื่อหวย ย้อนไทม์ไลน์ก่อนจบคดีอลเวงหวย 30 ล้าน ก่อนพูดได้เต็มปาก ใครกันโกหกคำโต

 

    และยืนยันเพิ่มเติมว่าตนนั้นเห็นหมายเลขบนสลากฯ ทั้ง 6 ตัว ว่าเป็นสลากฯ ที่ถูกรางวัลที่ 1 อย่างแน่นอน ซึ่งต่อมาภายหลัง ได้กลับคำพูดว่า เลขที่ตนเห็นนั้นมีแค่ 3 ตัว คือ 726 ไม่ได้บอกว่าเห็นทั้ง 6 ตัว อย่างที่เป็นข่าวในตอนแรก

 

    ความเคลื่อนไหวของทางครูปรีชาเริ่มขึ้น เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2560 ได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจว่าตนได้ทำสลากฯ หาย และสลากฯ ของตนที่ทำหายนั้นคือสลากฯ หมายเลข 533726 ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 โดยอ้างว่า ตนเป็นคนชอบเสี่ยงดวงและมักสั่งซื้อสลากฯ ทางไลน์เป็นประจำกับเจ๊บ้าบิ่น ซึ่งต่อมาทางฝั่งเจ๊บ้าบิ่นก็ออกมายืนยันว่าตนขายสลากให้ครูปรีชาจริง

 

    แต่ครูปรีชาให้สาเหตุที่ทำสลากฯ หายว่า เพราะใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อและทำหล่น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วหากครูปรีชาทำสลากฯ หล่นจริงก็ควรจะต้องหล่นข้างหน้าและครูปรีชาจะต้องมองเห็น ประเด็นนี้จึงเป็นที่ถูกตั้งข้อครหาว่าครูปรีชาพูดจริงหรือไม่

 

    เมื่อสลากฯ หมายเลข 533726 หาย ครูปรีชาจึงรีบโทรหาเจ๊บ้าบิ่นว่าสลากฯ ของตนนั้นหายไป โดยให้เหตุผลที่ซื้อสลากฯ หมายเลขนี้ว่า 533 นั้นเป็นเลขทะเบียนรถของตน ตั้งใจซื้อเพราะต้องการถูกรางวัลเลข 3 ตัวหน้า ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทะเบียนรถจักรยานยนต์ของครูปรีชา คือ เลข 833 จึงไม่เป็นความจริง

 

 

สรุปวีรกรรมทำเพื่อหวย ย้อนไทม์ไลน์ก่อนจบคดีอลเวงหวย 30 ล้าน ก่อนพูดได้เต็มปาก ใครกันโกหกคำโต

 

    ครูปรีชาบอกว่าตนนั้นซื้อสลากฯ มา 4 ใบ หมายเลข 533726 542326 541226 และ 076126 ด้วยการให้เจ๊บ้าบิ่นไปรับมาจากเจ๊พัช อีกทีหนึ่ง แต่จากรายการ "โหนกระแส" แม่ค้าทั้งสองคนยืนยันว่าตนขายสลากฯ ไป 3 ใบ เท่านั้น คำถามคือครูปรีชาเอาเลข 076126 มาจากไหน นั่นจึงหมายความได้ว่าสิ่งที่ครูปรีชาพูด ไม่เป็นความจริง

    ครูปรีชาอ้างว่า ตนซื้อสลากฯ ที่ถูกรางวัลที่ 1 แต่ภายหลังตำรวจโอนสำนวนคดีไปให้กองปราบฯ รับผิดชอบและได้ทำการแกะรอย กู้ไฟล์คลิปเสียงสนทนา ระหว่างครูปรีชาและเจ๊บ้าบิ่น จึงได้หลักฐานบทสนทนาที่เจ๊บ้าบิ่นแสดงความยินดีกับครูปรีชาว่าถูกรางวัลที่ 1 แต่ครูปรีชากลับบอกว่า "ไม่ใช่เลขที่ซื้อ"  จึงเป็นที่น่าสงสัยได้ว่า ครูปรีชาเคยมีสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 อยู่กับตัวจริงหรือไม่ พร้อมกับมีอีกสายสนทนา ที่ครูปรีชาก็ปฏิเสธว่า "ไม่ถูกรางวัล" เช่นกัน

 

    นอกจากคำให้การและหลักฐานที่ดูจะย้อนแย้งในตัวเองของทางฝั่ง ครูปรีชา แล้ว เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2560 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั๊ม ทนายความของทางฝั่งลุงจรูญ คู่กรณีของครูปรีชาได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก กล่าวถึงการรับสารภาพของครูปรีชามีใจความว่า "ปรีชารับสารภาพแล้ว!! คลิปคนก้มเก็บหวยไม่ใช่ลุงจรูญ ใครก็ไม่รู้เป็นเงาตะคุ่มๆ ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร เลยไม่ขอยื่นเป็นพยานหลักฐานในศาล ส่วนคลิปที่เคยกล่าวหาว่า ลุงจรูญรับสารภาพที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2560 ก็ไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยินมาก่อน"  พร้อมติดแฮชแท็ค ปิดเกมส์ปรีชา หวย 30 ล้าน ก็มีแนวโน้มว่าอาจมีข่าวดี ที่คดีนี้อาจปิดฉากและสิ้นสุดลงในเร็ววัน ภายหลังการพิจารณาคดีในชั้นศาลอีกครั้ง

 

    แต่แล้วล่าสุดในวันที่ 21 ส.ค. 2561 ภายหลังทนายความของฝั่งลุงจรูญ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด โพสต์ข้อความได้ไม่นานนัก ทางฝั่งครูปรีชา ก็โพสต์ เหน็บในทำนองว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด "มโน" เรื่องทั้งหมดขึ้นมาเอง และจ่อเตรียมที่จะฟ้องทันที พร้อมให้เหตุผลว่าตนเป็นฝ่ายโจทก์ที่ยื่นฟ้อง ไม่ใช่ฝ่ายจำเลยคือลุงจรูญจะทำการสารภาพได้อย่างไร และพร้อมที่จะแจ้งความเพิ่มในกรรมเดียวกัน แต่ต่างวาระ และยืนยันว่าทางฝั่งตนนั้นไม่เคย มีการโต้ตอบ หรือปะทะคารมกับทางฝั่งตรงข้ามแต่อย่างใด และครูปรีชาได้กล่าวอีกว่า ตนจะมีพยานร่วมไต่สวนถึง 4 ปากด้วยกัน ในการไต่สวนครั้งต่อไป วันที่ 24 ก.ย. 2561 ที่จะถึงนี้

 

สรุปวีรกรรมทำเพื่อหวย ย้อนไทม์ไลน์ก่อนจบคดีอลเวงหวย 30 ล้าน ก่อนพูดได้เต็มปาก ใครกันโกหกคำโต

 

    เหมือนจะจบแต่ไม่จบ เมื่อสุดท้ายแล้วครูปรีชา ได้ออกมาแก้คำที่ทนายฝ่ายลุงจรูญกล่าวอ้าง ว่าตนเอง (ครูปรีชา) ไม่เคยพูดหรือรับสารภาพใดๆ ซ้ำยังแสดงทีท่ามั่นใจว่าตนจะชนะคดีอย่างแน่นอน ซึ่งอย่างไรก็ตามงวดเข้ามาทุกทีแล้วกับคดีหวยอลเวง เมื่อถึงวันนั้นเราจะได้ทราบกันสักทีว่าใครกันที่ โกหกคำโต มาตลอด