ถอดความสำคัญ ใบขับขี่กับกฎหมายใหม่ ก่อนจัดโทษหนักปรับสูงสุดครึ่งแสน

 จากกรณีกรมขนส่งทางบกจะดำเนินการเสนอปรับแก้กฎหมาย พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ.2522 ให้อยู่ในกฎหมายฉบับเดียวกัน อีกทั้งเพิ่มอัตราค่าปรับให้สูงขึ้น ในเรื่องของการขับขี่สำหรับผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่และใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ โดยกรมการขนส่งได้ปรับแก้กฎกมายทั้ง 2 ฉบับ

 

ถอดความสำคัญ ใบขับขี่กับกฎหมายใหม่ ก่อนจัดโทษหนักปรับสูงสุดครึ่งแสน

     จากกรณีกรมขนส่งทางบกจะดำเนินการเสนอปรับแก้กฎหมาย พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ.2522 ให้อยู่ในกฎหมายฉบับเดียวกัน อีกทั้งเพิ่มอัตราค่าปรับให้สูงขึ้น ในเรื่องของการขับขี่สำหรับผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่และใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ โดยกรมการขนส่งได้ปรับแก้กฎกมายทั้ง 2 ฉบับ ให้เป็นกฎหมายเดียวกัน เพื่อง่ายต่อการกำกับดูแล รวมทั้งปรับปรุงรายละเอียดของกฎหมาย ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการขับขี่ของคนเมืองในปัจจุบัน

 

โดยพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ตามกฎหมายใหม่ ที่กรมฯ นำเสนอได้มีการแก้ไขปรับเพิ่มโทษสำคัญๆ ใน 3 มาตรา ประกอบด้วย  

1. มาตรา 64 ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท แต่กฎหมายใหม่เสนอให้ปรับเพิ่มโทษเป็น จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท

 

2. มาตรา 65 ขับรถในระหว่างใบอนุญาตสิ้นอายุ ถูกพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตหรือถูกยึดใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมลงโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่กฎหมายใหม่ เสนอให้เพิ่มโทษจำคุกเข้ามาด้วย คือ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ส่วนโทษ ปรับเพิ่มขึ้นเป็นสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท

 

3. มาตรา 66 ขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่ตามกฎหมายใหม่ เสนอให้ปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

 

 

     อย่างไรก็ตามด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาเผยถึงร่างกฎหมายฉบับแก้ไขใหม่ ตอนนี้ได้ผ่านความเห็นชอบ จากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อย ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หากผ่านแล้วต้องนำไปประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาก่อน และจะมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาครบ 1 ปี

 

      ทั้งนี้ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมีความพร้อมในการปฎิบัติหน้าที่ และจะใช้กฎหมายเพิ่มใหม่ฉบับนี้อย่างมีประสิทธิภาพ และเที่ยงธรรม เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างที่สุด ในเบื้องต้นหากเริ่มประกาศใช้จะเน้นประชาส้มพันธ์ให้ประชาชนนั้นทราบ ก่อนจะเพิ่มระดับความเข้มงวดตามมาตรการของข้อกฎหมายต่อไป

 

     ในส่วนของการเพิ่มโทษตามกฎหมายใหม่นี้ คาดว่าจะสามารถเพิ่มโทษได้ ตามมาตรา 161 พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 เกี่ยวกับการยึด และ การพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ เมื่อผู้ขับขี่กระทำผิดและถูกบันทึกคะแนนความประพฤติตามกำหนด  และสามารถนำมาตรการการยึดใบขับขี่และตัดคะแนนความประพฤติการขับรถมาใช้บังคับอย่างเป็นผล

ผู้ขับขี่ที่ถูกสั่งยึด หรือสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถ จะไม่กล้าฝ่าฝืนขับรถในขณะที่ถูกสั่งยึดหรือพักใช้อีกเพราะหากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีและถูกฟ้องต่อศาลทันที 

 

หลายคนอาจจะกลัวหากตอนนี้ยังไม่มีใบอนุญาตในการขับขี่อย่างถูกต้องหรือใบอนุญาตหมดอายุลง สำหรับกฎเกณฑ์ในการต่อใบขับขี่รถยนต์ และรถจยย. นั้นมีด้วยกัน 2 แบบ คือ

 

1. การต่อใบขับขี่แบบชั่วคราว 1 ปี กรณีผู้ที่ได้รับใบอนุญาตก่อนวันที่  23 มีนาคม 2561 เราจะสามารถยื่นเรื่องขอต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ ครบ 1 ปี หรืออาจต่อใบอนุญาตก่อนปี 62 ที่จะหมดอายุก่อนล่วงหน้าได้ 60 วัน

 

2. การต่อใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราว 2 ปี กรณีผู้ที่ได้รับใบอนุญาตก่อนวันที่ 23 มีนาคม 2561 สามารถยื่นเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตแบบ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ใบอนุญาตหมดอายุ หรือล่วงหน้าได้ 3 เดือน หากปล่อยให้ใบอนุญาตหมดอายุ เกิน 1 ปี แต่ยังไม่ถึง 3 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ทั้งหมด ถ้าเกิน 3 ปี ถือว่าต้องเข้าสอบภาคปฎิบัติตามที่กรมขนส่งกำหนดเสมือนว่าเป็นผู้มาขอใบอนุญาตครั้งแรกนั่นเอง
 

 

ถอดความสำคัญ ใบขับขี่กับกฎหมายใหม่ ก่อนจัดโทษหนักปรับสูงสุดครึ่งแสน

ถอดความสำคัญ ใบขับขี่กับกฎหมายใหม่ ก่อนจัดโทษหนักปรับสูงสุดครึ่งแสน

     ทั้งนี้หลายคนคงสงสัยถึงความสำคัญของใบขับขี่ว่าเหตุใดถึงต้องมีไว้ในครอบครอง เนื่องจากใบขับขี่นั้นมีความเกี่ยวข้องทางด้านการประกันภัย และกรรมธรรม์ประกันรถยนต์ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวผู้ขับขี่รถ พร้อมทั้งเป็นเครื่องยืนยันว่าผู้ขับขี่นั้นสามารถขับรถได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากขับรถโดยที่ทำประกันไว้แต่ผู้ขับขี่ ไม่มีใบขับขี่ บริษัทประกันจะทำการรับผิดชอบเฉพาะแค่รถยนต์เท่านั้นไม่รวมค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ที่บาดเจ็บด้วย 

 

      ในกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจแต่ผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเพิ่มโทษ จากเดิมคือจำคุก 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000  บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ เป็นจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 -10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับได้ หากใบอนุญาตการขับขี่หมดอายุจะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามที่กฎหมายกำหนดเช่นนี้เพื่อให้ผู้ขับขี่มีความเกรงกลัว ไม่ทำผิดวินัยการขับขี่ 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เคยเกิดกรณีที่เป็นข่าวโด่งดังในปี 2559 กับคลิปของหนุ่ม รายหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เรียกตรวจขอดูใบขับขี่ และมีการถกเถียงกันอย่างใหญ่โต เนื่องจากมีการยึดรถจากทางเจ้าหน้าที่เกิดขึ้น เพราะหนุ่มรายนี้ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจดูใบขับขี่ พร้อมอ้างว่าใบขับขี่ของตนนั้นอยู่บ้านไม่ได้พกมา จนทำให้ถูดยึดรถในที่สุด

   หรือในกรณีคดีสะเทือนขวัญเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553  กับแพรวา 9 ศพ หรือ นางสาวอรชร  เทพหัสดิน ณ อยุธยา  สาวน้อยวัย 16 ปี  ที่ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนดา ซิวิคสีขาวพุ่งชนกับรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก  ในตอนนั้นเธอถูกตั้งข้อหา ขับรถโดยประมาณจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับบาดเจ็บ และข้อหาขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เนื่องจากกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522ว่าด้วยเรื่องใบขับขี่นั้น ระบุไว้เด่นชัดว่า


1.ผู้ที่จะถือใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
2.ผู้ที่จะถือใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
3.ผู้ที่จะถือใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ ใบขับขี่รถยนต์สามล้อสาธารณะ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 22 ปีบริบูรณ์
4.ผู้ที่จะถือใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
5.ผู้ที่จะถือใบขับขี่รถบดถนน ใบขับขี่รถแทรกเตอร์ และใบขับขี่รถชนิดอื่นตามมาตรา 43 ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
แต่ถ้าเป็นผู้ขอใบขับขี่รถจักรยานยนต์ชั่วคราว สำหรับรถจักรยานยนต์ที่มีกระบอกสูบรวมกันไม่เกิน 110 ลูกบาศก์เซนติเมตร ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์

 

    ซึ่งในตอนนั้นแพรวามีอายุเพียง 16 ปี ถือว่ายังขาดวุฒิภาวะเป็นอย่างมาในการขับขี่ จากอุบัติเหตุครั้งนี้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบต่อนางสาวอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือแพรวา อย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ ขณะที่ชาวเน็ตบางกลุ่มเรียกร้องให้รัฐดำเนินกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างโปร่งใสและเป็นกลางอีกทั้งยังส่งผลให้รัฐพิจารณาออกกฎระเบียบบังคับให้ผู้โดยสารรถสาธารณะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกคนด้วย