ความจริงหรือบิดคดี "เสี่ยอ้วน" เปิดปากจ่าย 7 ล้านให้พ่อแม่สปาย แรงแค้นชนวนฆ่า2ชีวิต

สืบเนื่องจากกรณีคดีสะเทือนขวัญที่ นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี พร้อมพวก วางแผนร่วมกันฆ่า น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอส อายุ 20 ปี ที่เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี โดยภายหลังก่อเหตุเสี่ยอ้วนได้หลบหนีออกนอกประเทศ แต่ในที่สุดก็ถูกจับกุมได้หลังจากที่ ทางการไทยได้ดำเนินการประสานงานกับประเทศกัมพูชา ซึ่งทางเสี่ยอ้วนสารภาพว่าลงมือก่อเหตุฆ่าทั้งสอง คือ น.ส.ปวีณา และนายอนันตชัยจริง โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวเสี่ยอ้วนไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดต่าง ๆ

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว นายปัญญา หรือ เสี่ยอ้วน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ 332/2561 ในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในพื้นที่เขตเมืองพัทยา และสัตหีบ รวม 5 จุด

 

 

 

โดยต่อมา ที่ สภ.นาจอมเทียน จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 ได้ทำการสอบสวนเสี่ยอ้วน โดยเจ้าตัวสารภาพว่า ได้ให้เงินผู้เป็นแม่น้องสปายไปจำนวน 7 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าสินสอดในการหมั้น รวมทั้งบ้าน รถ เฟอร์นิเจอร์ และค่าไถ่ถอนโฉนดที่ดิน แต่แล้วทางฝั่งของน้องสปายกลับไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้ตนรู้สึกไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งความตั้งใจในตอนแรกคือจะให้ทนายทำการฟ้องร้องฝั่งน้องสปาย แต่ด้วยความแค้นจึงได้วางแผนก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งการลงมือสังหารไม่ได้พุ่งเป้าแค่น้องสปาย-น้องฟอสแค่สองคน แต่ได้วางแผนจะฆ่าแม่น้องสปายด้วยแต่ไม่สำเร็จ 

 

 

"ทำไปเพราะความแค้นที่น้องสปายไม่รับรัก หลังทุ่มเทให้ทั้งเงินและความรัก จึงตัดสินใจก่อเหตุ โดยเสี่ยอ้วนเปิดเผยว่า ยอมเสียเงิน 7 ล้าน ที่โอนไปให้น้องสปายกับพ่อ เพื่อหวังใช้เป็นเงินสินสอดแต่งงาน แต่กลับมาถูกหลอกหักหลัง จึงไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี และไม่ขอให้กฎหมายเป็นผู้ตัดสิน จึงขอใช้ความตาย ตัดสินปัญหาปมรักปมแค้น"

 

ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่าอีกว่า เสี่ยอ้วนจะมอบหมายให้ทนายทำเรื่องฟ้องร้องแม่น้องสปาย เพื่อให้ชดใช้ทรัพย์สินเงินสดที่มีการโอนไปให้ โดยได้มีการนำหลักฐานเป็นสลิปการโอนมอบให้ตำรวจด้วย อย่างไรก็ตาม ภายหลังสอบสวนเสร็จสิ้น จะได้นำตัวเสี่ยอ้วนส่งศาลฝากขังต่อไป

 

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องประเด็นการโอนเงินจำนวนหลายล้านบาทนั้นได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมายจากผู้คนในสังคม โดยก่อนหน้านั้นนางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ แม่ของน้องสปาย เปิดเผยเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางการเงินในบัญชีของครอบครัวด้วยว่า ตนไม่กังวลหากหลังจากนี้เสี่ยอ้วนจะเปิดเผยหลักฐานการโอนเงินอีก และครอบครัวกล้าเปิดเผยบัญชีให้กับสังคมได้เห็น “เขาโอนมาเอง เลขบัญชีแม่ก็ไม่เคยให้ใคร”

 

แม่น้องสปายชี้แจงอีกด้วยว่าเสี่ยอ้วน โอนเงินมาเพียงครั้งเดียว คือยอด 1,000,000 บาท ซึ่งการอ้างถึงเงินจำนวน 4,000,000 ตามที่เป็นข่าวนั้น ตนยืนยันว่าไม่มี พร้อมกับยืนยันว่าตนไม่เคยให้เลขบัญชีกับใคร มีเพียงพ่อ แม่ และน้องสปาย เท่านั้นที่ทราบเลขบัญชีนี้

 

 

 

ก่อนหน้านั้น ชุดจับกุมยังเปิดเผยด้วยว่า ระหว่างการเข้าจับกุมนั้นเสี่ยอ้วน มีอาการหวาดผวาตลอดเวลา และพูดแต่คำว่า “ขอโทษ ๆ มีวิญญาณน้องฟอส น้องสปาย ตามอยู่” บางครั้งก็เอ่ยปากว่า “อย่าตาม อย่าตาม” เหมือนเห็นวิญญาณของเหยื่อกระสุนทั้งคู่