อ่านเกมให้ขาด เทคนิคอยู่ให้รอดในที่ทำงาน เปิดวิธีการเป็นนางเอก (สู้คน) เพื่อความก้าวหน้า

อ่านเกมให้ขาด เทคนิคอยู่ให้รอดในที่ทำงาน เปิดวิธีการเป็นนางเอก (สู้คน) เพื่อความก้าวหน้า

การดำเนินชีวิตในยุคที่เดิมพันด้วยความเร่งเรีบและการแข่งขัน แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะประคับประคองตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย โดยเฉพาะกับมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานออฟฟิศอย่างเราๆ ท่านๆ ในทุกๆ วันต้องต่อสู้กับสภาพการจราจร โดยเฉพาะหากอยู่ในเมืองใหญ่อย่างกทม. ชั่วโมงเร่งด่วนที่รถแทบไม่ขยับจะต้องใช้ความอดทนเป็นพิเศษ แต่ก็ต้องดิ้นรนให้ทันเวลาเข้างาน

 

ซึ่งสำหรับบางคนไม่ใช่เรื่องง่าย ร้ายไปกว่านั้นไม่ใช่ทุกคนที่จะได้งานทำ หลายคนอยู่ในสถานการณ์สมัครงาน มองหางาน กว่าจะได้ทำงานในองค์กรหนึ่งก็ต้องผ่านบททดสอบหลายอย่าง ทั้งการสัมภาษณ์ หรือบางองค์กรมีนโยบายให้สอบเข้า เชื่อเถอะว่าคนที่มีงานทำอยู่แล้วจงยินดี และดีใจกับตัวเองเพราะมีอีกหลายๆ คนอยากมีโอกาสแบบคุณ 

 

และเมื่อคุณกลายเป็นหนึ่งนักสู้ที่ได้เข้าทำงานในองค์กรใดองค์กรหนึ่งแล้วต่อจากนั้นคือชีวิตจริงที่คุณต้องเจอและรับมือ กับบุคคลากรในองค์กร เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน และงานที่คุณได้รับมอบหมายจะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบที่จะเข้ามาให้คุณได้ศึกษาว่าคุณจะสอบผ่าน หรือไม่ผ่าน

 

ในวันนี้สำนักข่าวทีนิวส์ได้รวบรวมข้อมูล เคล็ดลับวิธีการวางตัวในที่ทำงานให้เพื่อนร่วมงานและเจ้านายรัก กระทั่งคนที่เป็นเจ้านาย หรือหัวหน้างานเองต้องวางตัวอย่างไรให้คนเคารพ ยอมรับ และเต็มใจที่จะร่วมงานด้วย พร้อมแนะวิธีการเป็นนางเอกที่สู้คนในออฟฟิศ เพราะการวางตัวอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณเป็นคนที่ใครๆ ก็รัก ไว้วางใจ และสบายใจที่จะร่วมงานด้วย ซึ่งจะส่งผลอย่างยิ่งให้อนาคตการทำงานของคุณไปได้ไกล ไร้กังวลกับปัญหาในที่ทำงาน

 

อ่านเกมให้ขาด เทคนิคอยู่ให้รอดในที่ทำงาน เปิดวิธีการเป็นนางเอก (สู้คน) เพื่อความก้าวหน้า
 

1. เทคนิคการวางตัวสำหรับพนักงานใหม่
- เรียนรู้กฎระเบียบ กระบวนการทำงานขององค์กร และปรับตัวให้คุ้นเคยโดยเร็ว
เมื่อเราฟันฝ่าแย่งชิงตำแหน่งพนักงานใหม่มาจากคู่ต่อสู้คนอื่นๆ ได้แล้ว บทเรียนแรกที่เราต้องเรียนรู้ให้แม่นคือกฎระเบียบ ข้อกำหนดของแต่ละองค์กรเมื่อเรารู้แล้วก็พยายามทำตามอย่างเคร่งครัด ถึงแม้กฎบางอย่างจะขัดแย้งกับเราก็ควรต้องปรับตัวให้ได้ เพราะเมื่อเราได้มีโอกาสอยู่ไปนานๆ เราจะเรียนรู้เทคนิคยืดหยุ่นได้เอง

 

- รับผิดชอบต่อคำพูดและการกระทำ
ต้องเข้าใจว่าทุกคนย่อมทำสิ่งผิดพลาดได้ด้วยกันทั้งนั้น แต่ตัวชี้วัดสำคัญคือภายหลังจากที่เราทำสิ่งผิดพลาดนั้นแล้วเราปฏิบัติต่อมันอย่างไร ซึ่งหากคุณเลือกที่จะยืดอก ยอมรับแทนที่จะหาทางปกปิดความผิดนั้นเชื่อเถอะว่า หัวหน้าที่ดีย่อมต้องเข้าใจและให้อภัยคุณได้ แต่สุดท้ายแล้วแม้ว่าคุณจะต้องเจอกับผลลัพธ์ที่เลวร้าย มันก็จะเป็นแค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งต่อจากนั้นความซื่อสัตย์จะเป็นเกราะปกป้องคุณจากความเสื่อมเสียชื่อเสียงในระยะยาว

 

- การขอคำแนะนำจากผู้ใหญ่เป็นทางออกที่ดีที่สุด
เมื่อเกิดปัญหาต่างๆ กับการทำงานแม้ว่าคุณจะได้แสดงความรับผิดชอบไปแล้ว และพยายามหาทางแก้ไข แต่หากงานนั้นใหญ่เกินความสามารถของคุณอย่าพยายามรั้นว่าคุณจะสามารถแก้มันเองได้ ณ เวลานี้ให้คุณรีบขอคำแนะนำจากหัวหน้างาน ในฐานะที่หัวหน้ามีประสบการณ์และพาวเวอร์ในการตัดสินใจที่มากกว่า ก่อนที่เรื่องนั้นจะบานปลายใหญ่โต

 

2. เทคนิคการวางตัวในที่ทำงานของพนักงานทั่วไป
- ทำงานแบบฉบับมืออาชีพ
ข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะชี้วัด ประเมินผลการเลื่อนตำแหน่งของคุณได้ เพราะการทำงานอย่างมืออาชีพคือ แม้ว่าคุณจะหงุดหงิดหรืออารมณ์เสียมาจากไหนคุณต้องปฏบัติหน้าที่ของคุณให้ดีต่อไป เพราะการแยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงานมันสะท้อนให้เห็นว่าคุณ "เป็นผู้ใหญ่" พอ และพร้อมที่จะเผชิญได้กับในทุกๆ ปัญหา ซึ่งสิ่งที่ต้องระวังคือการไม่ระบายอารมณ์ด้วยการบ่น หรือนินทาคนอื่นเพราะมันอาจจะสร้างความขัดแย้ง โกรธแค้นกันมากยิ่งขึ้น

 

- เรื่องส่วนตัว ไม่ควรเอามาเกี่ยวกับการทำงาน
ข้อนี้ขยายความต่อจากการทำงานเป็นมืออาชีพ เพราะการไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับเรื่องงานหมายรวมไปถึง การไม่คุยโทรศัพท์ด้วยเรื่องส่วนตัวในระหว่างการทำงาน (แต่หากเป็นเรื่องจำเป็นหรือคอขาดบาดตายจริงๆ อันนี้หยวนๆ กันได้) โดยสิ่งที่ควรระวังอีกอย่างคือการไม่เล่าปัญหาทางบ้านหรือปัญหาชีวิตตัวเองให้ใครต่อใครฟัง เพราะพวกเขาเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็แค่อยากรู้เรื่องของคุณไม่ได้อยากช่วยคุณจริงๆ หรอก และหากบางองค์กรที่มีความเคร่งครัดมากคุณไม่ควรชวนเพื่อนหรือคนในครอบครัวของคุณไปที่ทำงานเพราะอาจจะทำให้เพื่อนร่วมงานเกิดความอึดอัด ลำบากใจได้

 

- เรื่องชู้สาวในที่ทำงาน
จริงอยู่ที่ความรักเป็นสิ่งสวยงาม และการที่คุณมีความรักในที่ทำงานถือเป็นเรื่องโรแมนติกไม่น้อย แต่ถ้าความรักของคุณไปทำให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ รู้สึกอึดอัดกับพฤติกรรมที่คุณและคู่รักแสดงออกไป อาจทำให้คุณเสื่อมเสียและโดนนินทาลับหลังได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากความรักที่เกิดขึ้นในที่ทำงานของคุณไม่ได้ลงเอยด้วยการเป็นคู่ชีวิตกันตลอดไป หายนะจะมาเยือนคุณทั้งคู่เพราะการต้องทำงานร่วมกับอดีตคนรัก หรือแฟนเก่าคงกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย ยิ่งถ้าคู่ไหนที่จบกันไปแบบไม่ดีด้วยแล้ว บอกเลยงานนี้มีแต่พัง กับ พัง

 

- ประนีประนอม คำนี้ท่องให้ขึ้นใจ
ความมั่นใจและการยึดมั่นในความคิดของตัวเองเป็นเรื่องที่ดี แต่การยึดมั่นในความคิดตัวเองทุกๆ เรื่อง อาจทำให้คุณดูเป็นบุคคลเจ้าปัญหาและไม่เป็นมืออาชีพ จะตามมาซึ่งความขัดแย้งโดยไม่จำเป็นการลองเปิดใจเพิ่มความยืดหยุ่นคือทางออกที่ดีที่สุด

 

3. สิ่งที่หัวหน้าจำเป็นต้องรู้
- เรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำ ไม่ใช่ เจ้านาย
ก่อนที่คุณจะถูกเลือกให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าได้ คุณย่อมต้องเคยผ่านการเป็นลูกน้องมาแล้ว และบทเรียนนี้เองที่สามารถสอนคุณได้หากคุณลองมองย้อนกลับไปถึงหน้าคนเก่าๆ ของคุณ ว่าพฤติกรรมแบบใดที่พวกเขาทำแล้วลูกน้องอย่างคุณรู้สึกแย่ นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรนำมาทำเมื่อคุณเป็นหัวหน้า เพราะสิ่งที่คุณควรทำคือการวางตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกน้อง เป็นโค้ชที่พร้อมจะคอยสอนงาน และเป็นที่ปรึกษาช่วยเหลือให้คำแนะนำ สิ่งสำคัญคือการแสดงความเป็นเพื่อน เป็นมิตรที่ดีรู้จักหาเวลาร่วมสังสรรค์กันบ้างเป็นครั้งคราว เพราะข้อนี้สำคัญที่จะทำให้คุณผูกมิตรและรู้จักตัวตนที่แท้จริงกับลูกน้องของคุณมากยิ่งขึ้น

 

- ถามให้ชัดถึงขอบเขต และเป้าหมายงาน
การขึ้นมารับตำแหน่งใดๆ ก็ตามล้วนต้องศึกษาให้ชัดเจนว่าหน้าที่ของตนคืออะไรขอบเขตการทำงานอยู่ตรงไหน มีเรื่องใดที่ต้องให้ผู้บริหารตัดสินใจซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือการคุยกับผู้บริหารโดยตรง สอบถามให้ชัดเจนถึงเป้าหมายที่คุณจะต้องทำให้สำเร็จในระยะเวลาที่กำหนด หากมีเป้าหมายที่ชัดเจนคุณจะเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่าต้องทำอะไรซึ่งหมายถึงการวางแผนงานต่อจะเป็นเรื่องง่ายขึ้น

 

- เลือกใช้คนให้ถูกกับงาน ผลลัพธ์ที่ได้วิน วิน
แต่ละคนมีความถนัด ความชอบ และความสามารถที่แตกต่างกัน หากคุณที่เป็นหัวหน้าเอาแต่จะสั่งงานลูกน้องโดยไม่พิจารณาว่าลูกน้องของคุณถนัดในงานเหล่านั้นหรือไม่ย่อมจะไม่ส่งผลดีกับทุกฝ่าย ควรแบ่งเวลาเพื่อศึกษาลูกทีมของคุณว่าแต่ละคนมีทักษะด้านไหน จุดแข็ง จุดอ่อน และสไตล์การทำงานเป็นอย่างไร วิธีนี้นอกจากจะทำให้คุณได้คนที่เหมาะกับงานที่สุดแล้ว คุณอาจเจอความสามารถพิเศษบางอย่างที่หลบซ่อนอยู่ในตัวลูกน้องที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน เป็นเรื่องน่าเศร้าที่บางคนเสียเวลาทำสิ่งที่ไม่ถนัดมาตลอดชีวิต แต่พอได้เปลี่ยนไปทำในสิ่งที่ชอบกลับได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

 

- โฟกัสความสัมพันธ์ในทีม
การที่เรามีคนเก่งๆ อยู่ในทีมทำงานถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าขาดซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันก็ไร้ประโยชน์ นิสัยใจคอของแต่ละคนแตกต่างกันซึ่งคุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพวกเขาเหล่านั้นได้ แต่สิ่งที่คุณควรคิดคือจะทำอย่างไรให้พวกเขาเหล่านั้นทำงานร่วมกันได้ดี ประชุมทีมเพื่ออธิบายถึงบทบาทหน้าที่ชี้ให้ทุกคนเห็นถึงเป้าหมายเดียวกันและทุกคนต้องช่วยเหลือกันเพราะเป็นทีมเดียวกัน หลังจากนั้นคุณอาจจะสอบถามถึงปัญหา ความไม่สบายใจต่างๆ ของลูกน้องเพื่อตกลงหาจุดที่ลงตัวของแต่ละฝ่าย

 

- มองภาพให้ใหญ่และไกลกว่าเดิม ปรับมุมมองของความคิด
แต่ก่อนตอนที่คุณเป็นลูกน้อง คุณมีหน้าที่ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองแต่เมื่อใดที่เปลี่ยนบทบาทมาเป็นหัวหน้า การทำงานของตัวเองอย่างหนักคงไม่เพียงพอ เพราะคุณยังมีหน้าที่ต้องดูแลรับผิดชอบลูกน้องในทีมอีก เพราะฉะนั้นคุณต้องมองให้แตกว่าใครสมควรทำงานส่วนไหน แบบใด นอกจากการดูแลงานในภาพรวมแล้ว คุณยังต้องมองไปข้างหน้าว่ามีอุปสรรคใดอีกบ้างเพื่อที่คุณจะได้วางแผนรับมือกับสถานการณ์อย่างทันท่วงที

 

อ่านเกมให้ขาด เทคนิคอยู่ให้รอดในที่ทำงาน เปิดวิธีการเป็นนางเอก (สู้คน) เพื่อความก้าวหน้า

4. การเป็นนางเอก (สู้คน) ในออฟฟิศ
สังคมแห่งการทำงานเป็นสังคมที่ต้องฟาดฟัน แข่งขันกันตลอดเวลาบางครั้งเราอาจเห็นพฤติกรรมของเพื่อนร่วมงานที่ผิดเพี้ยนไปจากปกติ อย่างการใช้คำพูดห้ำหั่นกัน หลอกลวง ว่าร้าย นินทาลับหลัง หรือบางกรณีหนักๆ ถึงขั้นทำร้ายผู้อื่นเพื่อให้ตนเองได้กลายเป็นที่หนึ่งสำหรับงาน หากเราต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นคงไม่ใช่เรื่องตลก วันนี้สำนักข่าวทีนิวส์ จึงได้รวบรวมวิธีในการรับมืออย่างนางเอก เพื่อเอาตัวรอดจากเพื่อนร่วมงานและเจ้านายร้ายๆ มาฝากกัน

 

- มีจุดยืนอย่างมุ่งมั่น
หากเป้าหมายของการทำงานเราคือ การผลิตงานที่ได้มาตรฐานมีคุณภาพ เมื่อเราตั้งใจทำและคิดว่าสิ่งนั้นคือสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ส่งผลกระทบกับใครก็จงยืนหยัดในจุดยืนของเราด้วยความตั้งใจ มองข้ามการถูกนินทา ความอิจฉาริษยาของคนอื่นออกไป เพียงแค่เราเชื่อมั่นในตนเองก็จะสามารถผ่านไปได้ในทุกๆ อุปสรรค

 

- ความรับผิดชอบคือสิ่งสำคัญ
เมื่อเราไม่สามารถเปลี่ยนใครๆ ให้ทำดีกับเราได้ เราก็ควรทำตัวเองให้ดีมีความรับผิดชอบ รู้จักรับผิดเมื่อเกิดความผิดพลาดจากการทำงานพร้อมที่จะแก้ไขด้วยความเต็มใจ เมื่องานสำเร็จเราอาจจะได้รับคำชื่นชมเพราะฉะนั้นควรทำงานที่ได้รับผิดชอบอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ คิดไว้เพียงว่าคนทำดีย่อมมีคนอิจฉา อย่าแคร์

 

- จริงจัง จริงใจ เต็มที่
หากเราอยู่ในสังคมการทำงานที่มีแต่คนพูดจาให้ร้าย เสียดสีกัน ความจริงใจและการตั้งใจทำงานอย่างจริงจังคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด บางครั้งการไม่สุงสิงกับใครมากไปตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ไม่คิดเอาเปรียบใคร และจริงใจกับทุกคน ในช่วงแรกๆ อาจจะต้องต่อสู้กับคำนินทา แรงริษยาจากผู้ไม่หวังดี แต่เมื่อทุกคนเห็นความจริงใจของเราและรู้แน่แล้วว่าไม่มีใครหรือคำพูดใดจะมาทำร้ายเราได้ทุกอย่างก็จะเป็นไปได้ด้วยดี

 

- เป็นมิตรกับทุกคน หมั่นสร้างรอยยิ้มจากหัวใจ
เพียงประโยคสั้นๆ ของการทักทายกันถือเป็นวิธีผูกมิตรที่ง่ายที่สุด และไม่ต้องลงทุนอะไรเลยซึ่งเราสามารถทำได้กับทุกคนในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน แม่บ้าน หรือ รปภ. วิธีนี้ยังช่วยลดศัตรูได้อย่างดีอีกด้วย

 

- วางตัวดี
วิธีนี้ถือว่าสำคัญมาก เคยได้ยินประโยคที่ว่า หากเราอยากให้ใครปฏิบัติกับเราแบบไหน เราก็ควรปฏิบัติกับคนอื่นแบบนั้น ทฤษฎีนี้ยังคงสามารถยึดถือและนำมาใช้ได้ เพราะการวางตัวที่เหมาะสม รู้กาลเทศะ รู้จักมารยาทในสังคม จะช่วยลดการกระทบกระทั่งกับคนอื่นๆ ได้

 

- เจอเรื่องแย่ๆ ก็แค่ทำใจ และเห็นใจ
ร้อยพ่อ พันแม่มารวมกันอยู่ในที่ทำงานแน่นอนว่าย่อมต้องเกิดปัญหาซึ่งต้องคิดให้ได้ว่ามันเป็นเรื่องปกติ ธรรมดา ไม่มีใครทำอะไรได้ดั่งใจเราไปทุกเรื่องสิ่งสำคัญคือเราต้องพยายามที่จะเข้าใจคนอื่นบ้าง เรื่องไหนที่ไม่สำคัญก็ควรปล่อยวางและหัดทำใจยอมรับกับเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมได้

 

- ตัดทัศนคติเชิงลบทิ้ง ปรับเปลี่ยนความคิดให้สมดุล
อย่าหัดเป็นคนตื่นตูม บางครั้งเรื่องแย่ๆ อาจมาจากการคิดไปเองของเราทั้งที่แท้จริงแล้วเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น อย่าวิตกเกินเหตุว่างานนี้เราทำไม่ได้ งานยากเกินไปควรให้คนอื่นทำ หรือตัดสินคนจากลักษณะภายนอก ลองให้เหตุผลที่เป็นกลาง มองโลกในแง่บวกมากขึ้นหากทำผิดพลาดก็แก้ไข ถ้าไม่ใช่อย่างที่คิดก็แค่ยอมรับและปรับความคิด เพียงเท่านี้เราก็จะอยู่ในสังคมคนทำงานได้อย่างสวยๆ ไม่เจ็บตัว

 

อ่านเกมให้ขาด เทคนิคอยู่ให้รอดในที่ทำงาน เปิดวิธีการเป็นนางเอก (สู้คน) เพื่อความก้าวหน้า


ขอบคุณ : jobsdb.com , jobthai.com