ย้อนอดีต 5 คดีดัง รักด้วยเลือด สะเทือนขวัญสังคมไทย

    จากบทประพันธ์นี้สามารถนำมาเป็นข้อเปรียบเทียบได้ในชีวิตจริง ไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยใดก็ตาม เมื่อมีรักเกิดขึ้นมาในใจก็สามารถทำสิ่งไม่คาดฝันได้เสมอขอแค่ได้ความรักมาแม้เจ็บกาย

ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน 
ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคใดใด 
ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้ 
ก็โลดออกจากคอกไป บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง 
ถึงหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง 
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ หวนคิดถึงเจ็บกาย

        จากบทประพันธ์นี้สามารถนำมาเป็นข้อเปรียบเทียบได้ในชีวิตจริง ไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยใดก็ตาม เมื่อมีรักเกิดขึ้นมาในใจก็สามารถทำสิ่งไม่คาดฝันได้เสมอขอแค่ได้ความรักมาแม้เจ็บกาย เจ็บใจเพียงใด ก็ขอได้ครอบครอง จนความรักของบางคนกลายเป็นคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญผู้คน วันนี้สำนักข่าวทีนิวส์จะพาทุกท่านไปย้อนรอย 5 คดีดังในอดีตเกี่ยวกับความรัก จะสยองขนาดไหนไปติดตามกันเลย

 

1.คดีฆ่าหันศพเจนจิรา

 

ย้อนอดีต 5 คดีดัง รักด้วยเลือด สะเทือนขวัญสังคมไทย

ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์เพราะผู้ต้องหาคือนักศึกษาแพทย์ นายเสริม สาครราษร์ วัย 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์วชิระพยาบาล ฆาตกรฆ่าหั่นศพ น.ส.เจนจิรา พลอยองุ่นศรี นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 5 มหาวิทยาลัยมหิดล แฟนสาว นับเป็นคดีฆ่าชำแหละศพคดีแรกๆ ที่เปิดเผยขึ้นมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2541 แต่มาเป็นข่าวใหญ่เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2541 หลังจากพ่อแม่ของเจนจิรา แจ้งความว่า ลูกสาวหายตัวไปอย่างลึกลับ พร้อมกับรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่า สีเขียว หมายเลขทะเบียน 8 ษ-8580 กรุงเทพมหานคร

ตำรวจเชิญตัว เสริม สาครราษฎร์ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มมาสอบปากคำ เสริมรับว่าอยู่กับเจนจิรา ในวันที่ 26 มกราคม เพราะนัดพบกันที่ห้างเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (ปัจจุบัน-เซ็นทรัลเวิลด์) แต่แยกกันไป และไม่ได้เจอกันอีก ตำรวจสอบพบว่าระยะหลังทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง เนื่องจากฝ่ายหญิงต้องการเลิกรา แต่เสริมไม่ยอม

เจ้าหน้าที่เริ่มสืบประวัติของเสริม และต้องตกตะลึงกับความ อัจฉริยะ เพราะเสริม ไม่ใช่นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 ธรรมดา แต่มีดีกรีวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วย โดยสามารถสอบเข้าเรียนตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี หลังเรียนจบ ก็สอบเอนทรานซ์ใหม่ เข้าเรียนที่คณะแพทยศาสตร์ ตามที่ครอบครัวร้องขอ นี่เป็นเพียงคดีแรกและถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์จนโด่งดังเนื้อหาเชิงสืบสวนไขคดีจากความรักกลายเป็นความแค้น

 

2.คดีหนุ่มบุกยิงพยาบาลสาวดับคาโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า

 

ย้อนอดีต 5 คดีดัง รักด้วยเลือด สะเทือนขวัญสังคมไทย

เหตุเกิดเมื่อวันที่วันที่ 26 มิ.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิตบริเวณศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี พบศพ น.ส.ศิริขวัญ ทองเล็ก อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ธุรการห้องล้างไต ถูกยิงเข้าที่หน้าอก ท้อง แก้ม รวม 3 นัด นอนเสียชีวิตอยู่กับพื้นห้อง ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายเกรียงไกร อยู่ไพร อายุ 41 ปี เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ระดับ 6 มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ ขมับขวา 1 นัด บาดเจ็บสาหัส

      โดยปมของการก่อเหตุในครั้งนี้มาจากนายเกรียงไกร  ตามง้อขอคืนดีกับน.ส.ศิริขวัญ หลังเลิกรากันได้ 2-3 เดือน แต่นายเกรียงไกรยังรัก น.ส.ศิริขวัญ ด้วยความคิดที่ว่าอดีตภรรยาอาจมีรักใหม่จึงเกิดความหึงหวง 
ก่อนเกิดเหตุนายเกรียงไกร ได้สั่งเสียกับเพื่อนก่อนมาก่อเหตุ ซึ่งไม่มีใครคาดฝันว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้ น.ส.ศิริขวัญ เสียชีวิต ด้านนายเกรียงไกรได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

 

 

3.คดีฆ่าสาววุฒิศักดิ์

 

ย้อนอดีต 5 คดีดัง รักด้วยเลือด สะเทือนขวัญสังคมไทย

 

ถือเป็นอีกคดีหนึ่งที่เกิดขึ้นจากความรัก แอบชอบแม้ฝ่ายหญิงจะไม่เคยรู้กับคดีนี้ เมื่อนายธีระพงศ์ อดิษฐ์ศร อายุ 29 ปี อาศัยอยู่ในคอนโดแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี  เกิดหลงรัก น.ส.ประภาพร วรวงศ์ หรือน้องเมย์ อายุ 19 ปี พนักงานคลินิกเสริมความงาม ที่อาศัยอยู่ห้องใกล้กัน 

จนเมื่อวันที่ 24 มิ.ย 2560 นายธีระพงศ์ เห็นว่าเป็นจังหวะเหมาะ จึงงัดห้องเข้าไปขโมยกุญแจห้องของน้องเมย์ จนในช่วงเย็นเมื่อเห็นน้องเมย์กลับมาจึงไขกุญแจไปแอบในห้องน้ำ ก่อนบุกจากด้านหลังเข้าข่มขืนน้องเมย์ แต่เหยื่อเกิดขัดขืนจึงใช้มีดที่พกมาด้วยแทงน้องเมย์กว่า 20 แผล อย่างโหดเหี้ยม 

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาเบาะแสคนร้าย ได้พบพิรุธ นายธีระพงศ์ ชายร่วมคอนโด จึงนำมาซึ่งการสอบสวนในที่สุด จนนายธีระพงศ์ จำนนต่อหลักฐานรับสารภาพว่าทำไปเพราะแอบชอบผู้ตาย และไม่ได้ตั้งใจทำร้ายน้องเมย์ถึงแก่ชีวิต

ด้านประวัติของนายธีระพงศ์ นั้นเคยก่อคดีพยายามฆ่ามาแล้ว 1 ครั้งในท้องที่ของสภ.เมืองนนทบุรี ก่อนจะพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2559 และยังเคยมีประวัติเกี่ยวกับการเสพยาเสพติดอีกด้วย

4.หนุ่มรักขมฆ่าสาวราชภัฏ

 

ย้อนอดีต 5 คดีดัง รักด้วยเลือด สะเทือนขวัญสังคมไทย

ความรักใคร่ในวัยรุ่นเป็นอีกความรักหนึ่งที่ทำให้เกิดคดีฆาตกรรมได้หลายต่อหลายครั้ง ล่าสุดกับคดีสลดเกี่ยวกับรัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2561 เมื่อนายภัคพงษ์ จิตตารมย์ อายุ 24 ปี อดีตแฟนหนุ่มของ น.ส.ณัจฉรีญา ทาประจิตร อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะโลจิสติกส์และซัพพลายเชน สาขาธุรกิจพาณิชยนาวี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดนครปฐม ตามง้อ น.ส.ณัจฉรีญา แต่กลับถูกปฎิเสธ เนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.ณัจฉรีญา ผู้ตายจับได้ว่านายภัคพงษ์ แอบคบหญิงอื่นด้วยจึงขอเลิก แต่นายภัคพงษ์ไม่ยอมและมีปากเสียงกัน 

จากนั้นเดือน มี.ค. 2561 นายภัคพงษ์ขับรถมาหา ผู้ตายและทำร้ายร่างกายซ้อมทุบตีจนหน้าตาบวมปูด โดยในวันเกิดเหตุสลด น.ส.ณัจฉรีญา และเพื่อนกำลังเดินไปขึ้นรถที่ปากซอยเพื่อไปเรียน นายภัคพงษ์ผู้ก่อเหตุขับรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีบรอนซ์เงิน มาดักรออยู่กลางทางพยายามของ้อคืนดี

แต่ผู้ตายไม่ยอมฟังเอาแต่เดินหนี ทำให้นายภัคพงษ์โมโหชักอาวุธปืนที่ถือเตรียมไว้ยิงใส่ทันทีจนเสียชีวิต ส่วนนายภัคพงษ์เดินไปข้างๆ น.ส.ณัจฉรีญา พร้อมนอนกอด แล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่คางใส่ตัวเองหวังตายตาม แต่กระสุนปืนไม่โดนจุดสำคัญจึงบาดเจ็บสาหัส ส่วน น.ส.ณัจฉรีญา ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

5.คดีสาวผมแดงถูกฆ่า

ย้อนอดีต 5 คดีดัง รักด้วยเลือด สะเทือนขวัญสังคมไทย

 

เป็นอีกหนึ่งคดีที่สะเทือนขวัญไม่แพ้คดีฆ่าหั่นศพ เจนจิรา ที่ผู้ก่อเหตุเป็นแฟนของผู้ตายเอง ส่วนเหตุเกิดจากหญิงรายนี้ต้องการตีจากแฟนคนปัจจุบันเพื่อกลับไปหาอดีตคนรักเก่าจึงเป็นชนวนฆ่าในคดีนี้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 22 มิ.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุพบศพ หญิงสาวถูกหั่นแยกชิ้นระหว่างส่วนหัวและลำตัว ใส่ถุงกระสอบปุ๋ย 2 - 3 กระสอบ ทิ้งอยู่ในป่าซอยสามวา ตรงข้ามโรงงานที่นอนดาริ่ง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา สภาพศพมีบาดแผลจากรอยมีดหั่นหลายจุด 

ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.ลักขณา หรือเมย์ อดีตพนักงานบัญชีบริษัทพริ้นต์วิท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสอบสวนแกะรอยทีละจุดจนในที่สุด ก็พบเบาะแสบางอย่าง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวรจรปิด ที่บันทึกภาพของน้องเมย์ครั้งสุดท้าย พบว่าน้องเมย์หายเข้าไปในห้องพักนายธนกฤต ก่อนที่อีก 2 วัน นายธนกฤต จะออกมาจากห้อง พร้อมลากกระสอบปริศนาออกมาพด้วย จากเบาะแสนี้เองทำให้ นำมาซึ่งการสอบนายธนกฤต อย่างหนัก ก่อนที่นายธนกฤตจะรับสารภาพว่าได้ลงมือสังหารน้องเมย์ 

ปมเลือดครั้งนี้มาจากความหึงหวงเกรงว่าผู้เสียชีวิตจะกลับไปคบกับอดีตสามี โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2561 น้องเมย์เหยื่อคดีนี้ ได้เดินทางมาหาที่ทำงานเพื่อมาขอกุญแจห้องนายธนกฤต โดยให้เหตุผลว่าจะไปเก็บของแต่นายธนกฤต ไม่ยอมให้รอจนถึงเวลาเลิกงานก่อนออกอุบายให้ไปที่ห้องพักพร้อมกันเมื่อถึงที่หมายทั้งคู่เกิดมีปากเสียงจนฝ่ายชายเกิดบรรดาลโทสะใช้ค้อนกระหน่ำทุบไปที่ศีรษะของฝ่ายหญิงจนเสียชีวิตและซ่อนร่างไว้ภายในห้อง 

จากนั้นเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2561 ได้ใช้อาวุธมีดจำนวน 6 เล่ม ที่สั่งซื้อจากเพจเฟซบุ๊กมาก่อนหน้านี้เพื่อนำมาชำแหละศพ แยกออกเป็นส่วนๆ เนื่องจากนายธนกฤตมีความชำนาญจากอาชีพเชฟ และคนเชือดไก่ ซึ่งเป็นอาชีพเก่า ก่อนนำศพยัดใส่กระเป๋าเป้และกระสอบปุ๋ย

จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 14 มิ.ย. ได้ขนย้ายขึ้นรถจักรยานยนต์ ขี่นำไปทิ้งภายในป่าพงพญ้า บริเวณซอยสามวา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. รวมจำนวน 2 ครั้ง ก่อนมีผู้มาพบชิ้นส่วนศพช่วงกลางดึกของวันที่ 22 มิ.ย. 2561

 

5 คดีนี้ถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคดีสะเทือนขวัญที่มีจุดเริ่มต้นเพราะความรัก ยังมีอีกหลายคดีที่เราไม่ได้เอ่ยถึง จากหลายมูลเหตุไม่ว่าจะเป็น การเลิกรา , ตามง้อขอคืนดี , หรือการแอบรัก ทั้งหมดนี้คือชนวนเหตุสำคัญ ทำให้หลายคนที่อนาคตกำลังสดใส มืดดับลงในชั่ววูบ และสิ่งที่น่าตกใจคือคดีเกี่ยวกับการแย่งสามี ภรรยา ในสังคม มีความทวีมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนเป็นหลายเท่า ทั้งนี้อาจเกิดจากความสัมพันธ์
ของหนุ่มสาวสมัยใหม่ที่เจอกันได้ง่ายขึ้นในปัจจุบันนั่นเอง

 

อ้างอิง Kapook , sanook ,pantip