สรุป ข่าวเด่นรอบวัน 25 ส.ค. 2561

กลับมาพบกับการสรุปข่าวเด่นรอบวัน ประจำวันเสาร์ ที่ 25 ส.ค. 2561 กันอีกแล้ว ในวันนี้ มีหลายประเด็นที่น่าสนใจเช่นเคย

    กลับมาพบกับการสรุปข่าวเด่นรอบวัน ประจำวันเสาร์ ที่ 25 ส.ค. 2561 กันอีกแล้ว ในวันนี้ มีหลายประเด็นที่น่าสนใจเช่นเคยซึ่งสำนักข่าวทีนิวส์ได้รวบรวมมา 5 ประเด็นหลักใหญ่ด้วยกันดังนี้

 

    เริ่มกันที่ประเด็นข่าวแรกกับความคืบหน้าจากคดี จากคดีที่ ทางนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน พร้อมพวก เป็นผู้ต้องหาฆ่า น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส อายุ 20 ปี ที่เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี  ซึ่งหลังจากที่ ทางการไทยได้ดำเนินการ ประสานงานกับประเทศกัมพูชา เพื่อขอตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน กลับมาดำเนินคดีในไทย ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดจากประเด็นดราม่าที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม เกี่ยวกับเหตุจูงใจที่นำมาซึ่งการบงการฆ่าของเสี่ยอ้วนในครั้งนี้เรื่องการโอนเงินจำนวนกว่า 7,000,000 บาท ที่ล่าสุดรายการทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ ได้เปิดเผยภาพบัญชีเงินฝากและไลน์ของน้องสปายที่มีสลิปธนาคารอยู่ด้วย ส่วนทางครอบครัวของน้องสปายก็ยืนยันว่า เงินที่ถูกโอนเข้าในบัญชี ไม่เคยมีเงื่อนไขใด ๆ ว่าการโอนคือการหมั้นหมาย และครอบครัวก็พร้อมที่จะคืนเงินทั้งหมดให้กับเสี่ยอ้วน ถ้าหากมีการชี้แจงยอดที่แท้จริงในการโอนเข้าบัญชี และย้ำอีกครั้งว่า เงินจำนวน 7,000,000 บาท ในบัญชีไม่มีอยู่จริง

 

 

สรุป ข่าวเด่นรอบวัน 25 ส.ค. 2561

    

    จากกรณีดังกล่าว สังคมเริ่มตั้่งคำถามว่า ประเด็นการโอนเงินในครั้งนี้จะนำไปสู่การบรรเทาโทษเสี่ยอ้วนหรือไม่ โดยใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ที่ว่าด้วย เหตุบรรเทาโทษ ผู้กระทำความผิดเป็นผู้โฉดเขลา เบาปัญญาตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส และอาจต่อสู้ลดจากประหารชีวิตนั้น แต่ล่าสุด ด้าน ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้แสดงความคิดเห็นกรณีนี้ว่า เรื่องเงินจำนวน 7 ล้านบาท หากเป็นเงินที่ให้โดยเสน่หา เสี่ยอ้วน ไม่สามารถเรียกคืนได้ เว้นแต่ว่าทางครอบครัวน้องสปาย มีการบังคับ ขู่เข็ญ หรือกระทำอันใดให้มีความลำบากใจจนต้องโอนเงินจำนวน 7 ล้านบาทให้ ส่วนประเด็นโอนเงินก็ไม่สามารถบรรเทาโทษได้แน่นอน เพราะการฆ่าของเสี่ยอ้วนนั้น เป็นการกระทำโดยตั้งใจ และไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว 

 

ถัดมากับข่าวที่สองจากกรณี  พลทหารคชา พะชะ อายุ 21ปี ทหารเกณฑ์ ผลัดแรก เข้ามาประจำการที่หน่วยรบ ร.31พัน 3 รอ.จ.ลพบุรี  ถูกทหารรุ่นพี่3คนซ้อมในค่าย อาการปางตาย ถูกส่งตัวด่วนเข้าห้องไอซียู รพ.อานันทมหิดล จ.ลพบุรี เมื่อคืนวันที่ 21 ส.ค. ต่อมาพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท. ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า  ไม่ใช่เป็นการซ่อม แต่เท่าที่ทราบเป็นการวิวาทกันระหว่างพลทหารด้วยกัน และบาดเจ็บ โดยขณะนี้อยู่ที่โรงพยาบาล พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท  ยืนยันว่า ระบบซ่อมต่างๆ ไม่มีแล้ว อาจจะเป็นไปได้คนอยู่ด้วยกันทุกวันอาจทะเลาะเบาะแว้ง ชกต่อยกัน เป็นเรื่องเฉพาะตัว ซึ่งหน่วยก็ดำเนินการไปแล้ว ส่วนกรณีญาติไป ร้องต่อนายกรัฐมนตรีนั้น ผบ.ทบ. กล่าวว่า จะตรวจสอบรายละเอียดให้ ไม่ต้องกังวลเรื่องเหล่านี้เป็นนโยบาย เรื่องการซ่อม การทำร้ายร่างกาย ที่ผ่านมา อาจจะมีบ้างที่มีความขัดแย้งในกลุ่มทหารด้วยกันเอง แต่ถ้าใครผิดก็ดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา

    

    จนต่อมาญาติได้ทราบว่า มีการซ่อมพลทหารคชา โดยรุ่นพี่ 3 คน ได้ยอมรับว่าซ่อมจริง และเข้ามอบตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด พ.ท.มนชัย ยิ้มอยู่ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ นำพลทหาร 3 นาย เข้าพบ พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย เกษโกมล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยมีพ่อและแม่ของพลทหารคชาร่วมสังเกตการณ์ เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งการสอบสวน พลทหารทั้ง 3 คน อ้างว่าร่วมกันทำร้ายพลทหารคชาจริง เพราะความหมั่นไส้ แต่นายคมฉัน พะชะ บิดาพลทหารคชา ไม่เชื่อ และเตรียมปรึกษาทนายเพื่อให้ช่วยแจ้งความเพิ่มเติมในข้อหาพยายามฆ่า

 

 

สรุป ข่าวเด่นรอบวัน 25 ส.ค. 2561    

    

    พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าในภาพรวมกองทัพบกมีกำลังพลกว่า 200,000 คน และอาจมีกำลังพลกระทำผิด ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และจะไม่มีการปกป้องผู้กระทำผิด และได้กำชับผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยในการสร้างมาตรฐานทหารที่ดีให้กับสังคม ส่วนผู้บังคับกองพันจะต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่นั้น ต้องรอให้ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงออกมาก่อน    

    ต่อมากับข่าวที่สามกับเหตุการณ์  ตำรวจชุดสยบไพรี กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังเข้าจับกุมนางสมคิด อยู่เลิศ มารดาของนายชัยวุฒิ และนายศรายุทธ ธารีรักษ์ พี่น้องฝาแฝดเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในจังหวัดสระบุรี ที่เคยถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และนายวัฒนา ทองโสม เครือข่ายค้ายาเสพติด ขณะกำลังขึ้นรถขบวนแห่นาคไปอุปสมบท ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาสมคบกันฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด ภายหลังการจับกุมเจ้าหนาที่ตำรวจนำผู้ต้องหาทั้งสอง มาสอบสวนพบว่า ทั้งสองมีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาฝาแฝดทั้งสองคน แต่ได้นำเงินไปฟอกด้วยการแปลงเป็นอสังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สินจำนวนมาก ต่อมาพบว่านายวัฒนา มีหมายจับในคดีค้ายาเสพติดที่สถานีตำรวจภูธรบ้านหมออีก 2 หมายจับ

 

 

สรุป ข่าวเด่นรอบวัน 25 ส.ค. 2561

 

    เหตุการณ์การขยายผลที่นำมาสู่จับกุมครั้งนี้ เริ่มจาก ปฏิบัติการชัยยะ สยบไพรี 61/6 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเพื่อทำลาย เครือข่ายแฝดทมิฬ  และนำกำลังบุกจับกุมตัว นายชัยวุฒิซึ่งภายหลังถูกยิงเสียชีวิต แต่นายศรายุทธกลับไหวไหวตัวทันและหลบหนีไปกบดานในประเทศเพื่อนบ้าน 

 

    เป็นอีกหนึ่งข่าวที่หลายคนให้ความสนใจและติดตามกันอย่างใกล้ชิดกับข่าวที่สี่ จากกรณีนักแสดงรุ่นใหญ่มากความสามารถ ออฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ถูกหามส่งโรงพยาบาล เป็นการด่วนหลังวูบกลางกองละคร ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองตีบ  และตอนนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ด้วยอาการที่ดีขึ้นตามลำดับ ล่าสุด เหมี่ยว ปวันรัตน์ นาคสุริยะ นักแสดงและพิธีกรได้ โพสต์ข้อความลงในอิสตราแกรมของตัวเอง เป็นรูปภาพใบหน้าคนพร้อมแคปชั่นว่า "ไปเยี่ยมพงพัฒน์มา คนป่วยหน้าใสเลยทีเดียว พูดได้เป็นคำๆ ต่อเนื่องเป็นเรื่องเป็นราว ก่อนกลับขอให้เพื่อนเขียนอะไรให้หน่อยเซ็นชื่อก็ได้ เป็นหลักฐานว่าฉันมาเยี่ยมแล้ว มันเลยวาดรูปตัวเองให้มาแบบนี้" ก็ถือได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีเพราะเหล่าแฟนคลับก็ตั้งตาตั้งตารอให้ออฟกลับมาแข็งเรงและถ่ายละครได้ในเร็วๆนี้

 

สรุป ข่าวเด่นรอบวัน 25 ส.ค. 2561

     และสำหรับประเด็นข่าวสุดท้ายสำหรับวันนี้ จากกรณี 24 ส.ค.61 กรมขนส่งทางบกร่วมแถลงข่าวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการแก้กฏหมายเพิ่มโทษเกี่ยวกับใบขับขี่รถ หวังเพิ่มความตระหนักและรับผิดชอบต่อสังคม 
ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่กลับกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง ว่าบทลงโทษในรูปแบบการเสียเงินค่าปรับมีความเหมาะสมกับโทษที่ได้กระทำหรือไม่ 

 

สรุป ข่าวเด่นรอบวัน 25 ส.ค. 2561

 

    โดยเฉพาะค่าปรับที่มาจากการลืมพกใบขับขี่ หรือกรณีใบขับขี่หมดอายุที่ มีโทษ ปรับโทษสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท จากเดิมตาม พรบ.รถยนต์ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท และพรบ.ขนส่ง ปรับไม่เกิน 5,000 บาท อย่างไรก็ดี พ.ร.บ.การขนส่งทางบกฉบับใหม่นี้ก็อยู่ในระหว่าง การนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนส่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อไป ล่าสุดทนายชื่อดัง ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสต์บนเฟสบุ๊กตัวเองถึงกรณีข้างต้น ว่า 

 

 

สรุป ข่าวเด่นรอบวัน 25 ส.ค. 2561

 

"ฟังกรมขนส่งทางบก และ สตช. แถลงข่าว เกี่ยวกับการเพิ่มโทษปรับ กรณี ลืม /ถูกพัก หรือ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ที่มีโทษปรับ และจำคุกสูงขึ้น โดยหลักการเป็นเรื่องที่ดี และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าเพิ่มโทษสูงสุด แล้ว ไม่ได้ผล หรือ อุบัติเหตุไม่ลดลงจากเดิม เพิ่มเติมอาจมี ทุจริต / คอรับชั่นมากขึ้น ...ต่อไปจะทำอย่างไร .? จะเพิ่มโทษปรับขึ้นเป็นแสน โทษจำคุกให้เพิ่มขึ้นเป็น 5 ปี เพื่อที่ผู้ขับขี่จะได้เกรงกลัว..ถ้าไม่ได้ผลอีก จะเพิ่มโทษปรับเป็นล้าน หรือเพิ่มโทษเป็นประหาร ไปเลยหรือไม่ ถ้าไม่ได้ผล...ใครจะรับผิดชอบครับ !!"

 

สรุปข่าวเด่นประจำวันขอจบไว้เพียงเท่านี้ สำหรับพรุ่งนี้จะมีประเด็นใดน่าสนใจก็ต้องติดตามกันต่อไป