"บิ๊กโจ๊ก" บินตรงเกาะเต่าสอบสาวอังกฤษ ร้องโดนขืนใจตร.ไม่รับแจ้งความ มีหลายปมพิรุธเชื่อคดีไม่มีมูล

เป็นประเด็นอื้อฉาวที่เกิดขึ้นบนเกาะเต่าอีกครั้ง กรณีสาวอังกฤษ วัย 19 ปี ที่เดินทางมาท่องเที่ยวกับเพื่อนที่หาดทรายรี เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ถูกวางยาจนไม่รู้สึกตัวและข่มขืน หลังจากที่นั่งดื่มที่บาร์แห่งหนึ่ง ซึ่งเหตุเกิดใกล้กับจุดที่นักท่องเที่ยวอังกฤษ นายเดวิด มิลเลอร์ และ ฮันนาห์ วิเทอร์ริดจ์ ที่ถูกฆ่าข่มขืนเมื่อปี 2557

 

"บิ๊กโจ๊ก" บินตรงเกาะเต่าสอบสาวอังกฤษ ร้องโดนขืนใจตร.ไม่รับแจ้งความ มีหลายปมพิรุธเชื่อคดีไม่มีมูล

 

"บิ๊กโจ๊ก" บินตรงเกาะเต่าสอบสาวอังกฤษ ร้องโดนขืนใจตร.ไม่รับแจ้งความ มีหลายปมพิรุธเชื่อคดีไม่มีมูล

 

 

"บิ๊กโจ๊ก" บินตรงเกาะเต่าสอบสาวอังกฤษ ร้องโดนขืนใจตร.ไม่รับแจ้งความ มีหลายปมพิรุธเชื่อคดีไม่มีมูล

 

ทั้งนี้ สาวอังกฤษ วัย 19 ปี อ้างว่า ตัวเธอพยายามจะแจ้งความเรื่องนี้กับตำรวจเกาะพะงัน แต่ตำรวจก็ไม่บันทึกข้อมูลว่าเธอถูกข่มขืน แค่ลงว่าโทรศัพท์ไอโฟน 7 กับเงินสด 3,000 บาท หาย เธอขอร้องให้ตำรวจดูกล้องวงจรปิดที่บาร์ แต่ตำรวจก็อ้างว่ากล้องวงจรปิดเสีย และทางตำรวจไทยก็พยายามปิดข่าวนี้ให้เงียบ เธอจึงเอาเรื่องทั้งหมดไปแจ้งกับตำรวจอังกฤษ จนกลายเป็นประเด็นอื้อฉาวในโลกโซเชียล ก่อน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เผยว่า ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะทางตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จะทราบผลภายใน 7 วัน อีกทั้ง จะส่งพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐ.) ลงพื้นที่ตรวจสอบ

 

"บิ๊กโจ๊ก" บินตรงเกาะเต่าสอบสาวอังกฤษ ร้องโดนขืนใจตร.ไม่รับแจ้งความ มีหลายปมพิรุธเชื่อคดีไม่มีมูล

 

ล่าสุด เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตำรวจภูธรเกาะเต่าและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เดินทางเข้าตรวจสอบ บริเวณหาดทรายรี บนเกาะเต่า ซึ่งเป็นจุดที่แหม่มสาวชาวอังกฤษ อ้างว่าถูกมอมยาและข่มขืน วันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา

โดยพลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมด ในขณะนี้ยังไม่พบเหตุการมอมยาและการข่มขืนตามที่ น.ส.อิซาเบล วิคตอเรีย แบคเตอร์ กล่าวอ้างแต่อย่างใด หากมีเหตุเกิดขึ้นจริงก็อยากให้ผู้เสียหายเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อแจ้งความดำเนินคดี พร้อมทั้งนำหลักฐานที่มีไม่ว่าจะเป็นคราบอสุจิที่ติดอยู่กับเสื้อวันที่เกิดเหตุ มาให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่

 

"บิ๊กโจ๊ก" บินตรงเกาะเต่าสอบสาวอังกฤษ ร้องโดนขืนใจตร.ไม่รับแจ้งความ มีหลายปมพิรุธเชื่อคดีไม่มีมูล

 


ด้านนางสาวภัทรา แจ่มตระกูล เจ้าของ ดิไฮฟ์ โฮสเทล เล่าว่าก่อนเกิดเหตุแหม่มสาวได้เข้ามาพักที่โรงแรมของตนเอง กับเพื่อนชายอีก 4 คน รวม5 คน ตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย. - 26 มิ.ย. จนกระทั่งช่วงเช้าของวันสุดท้าย ได้พบ น.ส.อิซาเบล วิคตอเรีย แบคเตอร์ ได้มาบอกกับตนเองว่า ถูกข่มขืน โดยตนเองได้แนะนำให้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทาง น.ส.อิซาเบล วิคตอเรีย แบคเตอร์  ไม่ยอมไปแจ้งความ พร้อมกับบอกว่าจะต้องรีบเดินทางไปเกาะพงัน เพื่อร่วมงานฟูลมูนปาร์ตี้กับแฟนหนุ่ม ก่อนจะมีการเข้าแจ้งความกับตำรวจสถานีตำรวจภูธรเกาะพงัน ในเรื่องทรัพย์สินสูญหายเท่านั้น

 

"บิ๊กโจ๊ก" บินตรงเกาะเต่าสอบสาวอังกฤษ ร้องโดนขืนใจตร.ไม่รับแจ้งความ มีหลายปมพิรุธเชื่อคดีไม่มีมูล

 

อย่างไรก็ตาม ได้มีเพื่อนชายที่อยู่ร่วมกลุ่มเดียวกัน ได้ย้อนกลับมาแจ้งความว่า น.ส.อิซาเบล วิคตอเรีย แบคเตอร์ ถูกข่มขืน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับแจ้งความเนื่องจากไม่ได้เป็นผู้เสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ตามที่แหม่มสาวกล่าวอ้าง แต่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกไว้ได้เพียง 7 วัน ทำให้ข้อมูลถูกลบไปแล้ว

 

"บิ๊กโจ๊ก" บินตรงเกาะเต่าสอบสาวอังกฤษ ร้องโดนขืนใจตร.ไม่รับแจ้งความ มีหลายปมพิรุธเชื่อคดีไม่มีมูล

 

"บิ๊กโจ๊ก" บินตรงเกาะเต่าสอบสาวอังกฤษ ร้องโดนขืนใจตร.ไม่รับแจ้งความ มีหลายปมพิรุธเชื่อคดีไม่มีมูล


สำหรับในส่วนเว็บที่ปล่อยข่าวบิดเบือนข้อมูล เข้าข่ายความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษจำคุก 5 ปี เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า 14 คนที่ชมและแชร์วิจารณ์สร้างความเสียหายให้กับประเทศด้านการท่องเที่ยวซึ่ง อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยในวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.) จะเดินทางพบกงศุลอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อชี้แจงข้อมูลให้ทราบต่อไป.

 

"บิ๊กโจ๊ก" บินตรงเกาะเต่าสอบสาวอังกฤษ ร้องโดนขืนใจตร.ไม่รับแจ้งความ มีหลายปมพิรุธเชื่อคดีไม่มีมูล

 

"บิ๊กโจ๊ก" บินตรงเกาะเต่าสอบสาวอังกฤษ ร้องโดนขืนใจตร.ไม่รับแจ้งความ มีหลายปมพิรุธเชื่อคดีไม่มีมูล