- 31 ส.ค. 2561
"ทนายตั้ม"มรสุมถล่มหนัก"อัจฉริยะ"รัวเป็นชุดพวกเล่นละคร ล่าสุด"ทนายเดชา"เตือนรูปหล่อต้องระวัง
จากกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้โพสต์ข้อมูลถึงทนายคนหนึ่ง คล้ายไม่พอใจการรับทำคดีของทนายรายนี้ ที่รับทำคดีเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น หมดศรัทธา "นับวันที่เห็นการทำงานของคนรูปหล่อในฐานะนักกฏหมาย พบว่าเขาลืมอุดมการณ์ในการทำงานเพื่อประชาชน มีหลายคดีที่ทางชมรมฯ ต้องรับเรื่องร้องเรียนของเหยื่ออาชญากรรมของนักกฏหมายคนนี้ นอกจากนี้ยังรับงานคดียาเสพติด ช่วยคนที่ค้ายาหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนี้หรือเน็ตไอดอลของประชาชน สิ่งที่ผมเห็นคือการกระทำที่ไม่ต่างอะไรกับนักกฎหมายที่รับจ้างโดยเห็นแก่เงินไม่มีอุดมการณ์เหมือนที่เคยพูดกับผม"
ในเวลาไล่เลี่ยกัน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า โบราณว่าไว้ “ดีได้แต่อย่าเด่นจะเป็นภัย” บางคนสร้างดราม่า กล่าวหาคนนู้นคนนี้ข่มขืน กล่าวหาโรงพยาบาล กล่าวหาตำรวจรับเงิน ผมยังไม่เคยไปยุ่งเล้ย ก็ดีเหมือนกันเปิดหน้าออกมามัวไปสิงอยู่ในกลุ่มดาร์ค ใส่ร้ายผมมานานแล้ว “มินแว่น”
โดยต่อมา ทางด้าน นายอัจฉริยะ ก็ได้โพสต์ข้อความขอยุติบทบาทการทำหน้าที่ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่า...ชมรมจะแถลงเคลียทุกประเด็นและจะประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมและประกาศปิดชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมติดตามการถ่ายทอด Facebook live ครั้งสุดท้ายตามวันเวลาดังกล่าว
ขณะที่ทางด้าน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ก็ได้โพสต์ข้อความอีกด้วยว่า รู้สึกใจหายที่พี่อัจฉริยะประกาศ #ปิดชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม เมื่อก่อนเราเจอกันบ่อย มีระยะหลังที่ต่างคนต่างทำหน้าที่ทำให้ไม่ค่อยได้คุยกัน จึงอาจมีเรื่องทำให้เข้าใจผิด เมื่อวานหลังจากที่พี่อัจฉริยะโพสต์ในทำนอง #หมดศรัทธา ในตัวผม แล้วผมก็ตอบโต้ด้วยการพูดถึงจุดบกพร่องในการทำคดีของพี่อัจฉริยะในทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ผมยอมรับว่าผมใจร้อน พอเห็นข้อความของพี่เค้าก็ตอบโต้ โดยไม่คิดให้รอบคอบ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายอัจฉริยะ เปิดใจว่า สาเหตุที่ตนอยากปิดเพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออชาญากรรม เนื่องจากขณะนี้ตนกำลังเรียนนิติศาสตร์อยู่ ซึ่งการทำงานช่วยเหลือสังคมนั้น ทำให้ตนแทบจะไม่มีเวลาให้กับการเรียนหรือครอบครัว รวมถึงตนรู้สึกท้อกับมรสุมต่าง ๆ เพราะทำงานชมรมมา 7 ปี ถูกฟ้องกว่า 58 คดี ถูกฟ้องละเมิดเรียกเงินกว่า 365 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็จะยังเปิดอยู่ แต่ตนจะลดบทบาทลง และทำแต่คดีที่สำคัญจริง ๆ ส่วนคดีทั่วไปจะให้คนในชมรมเป็นผู้ดูแล
ส่วนข้อพิพาทระหว่างตนกับทนายดัง ก่อนหน้านี้ที่ออกมาเตือนเพราะอยากเตือนในฐานะพี่น้องเท่านั้น แต่ตนก็ยอมรับว่าตนเกลียดคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งตนมองว่าทนายคนดังกล่าวเป็นนักกฎหมายแต่ไปรับคดีเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น อีกทั้งไปทำคดีในนามของมูลนิธิ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง
"ตนไม่ใช่พระเอก และยังทำใจไม่ได้ที่ทนายคนดังกล่าว พิมพ์ข้อความวิจารณ์การทำคดีของตน และไลฟ์สดพูดถึงตนให้เสียหาย แม้ว่าภายหลังทนายคนดังกล่าวจะออกมาโพสต์ขอโทษและให้กำลังใจ ตนก็มองว่าเป็นเพียงการแสดงละคร ไม่มีความจริงใจ"
ด้าน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายชื่อดังเจ้าของเพจ “ทนายคลายทุกข์” ได้โพสต์ข้อความด้วยว่า...ควันหลงจากสงครามน้ำลายประธานชมรมและนักกฎหมายรูปหล่อ และคดีดังอื่น ๆ สอบถามข้อ พร้อมกับไลฟ์สดกล่าวว่า "นักกฎหมายรูปหล่อก็ถล่มผมมาเยอะ ผมเคยด่าเขาต่างคนต่างด่า เรียบร้อยผ่านไป จบกันไป ส่วนน้องอัจฉริยะธรรมดาคนหัวล้านขี้ใจน้อย รู้จักดีทั้งสองคน ส่วนผมกับนักกฎหมายรูปหล่อไม่ถือโทษกัน ผ่านมาแล้ว ซึ่งบางครั้งคนเรากว่าจะดังได้มีวิธีการหลายอย่าง มันเป็นวิถีทางทั้งมืดและสว่าง สุดท้ายอย่างไรก็ตามของบางอย่างมันเหมือนเวรกรรม ต้องระวัง วางตัวให้ดี ไม่จำเป็นอะไรก็อย่าโพสต์บ่อย อย่าใจร้อน"