ด่วนๆ หมายจับแล้ว 2 แอดมินเพจดังปั่นข่าว "สาวอังกฤษ" โดนขืนใจเกาะเต่า "ปรเมศวร์" หนุนบินสอบเหยื่อก่อนสรุปโกหก

เป็นประเด็นอื้อฉาวที่เกิดขึ้นบนเกาะเต่าอีกครั้ง กรณีสาวอังกฤษ วัย 19 ปี ที่เดินทางมาท่องเที่ยวกับเพื่อนที่หาดทรายรี เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ถูกวางยาจนไม่รู้สึกตัวและข่มขืน หลังจากที่นั่งดื่มที่บาร์แห่งหนึ่ง ซึ่งเหตุเกิดใกล้กับจุดที่นักท่องเที่ยวอังกฤษ นายเดวิด มิลเลอร์ และ ฮันนาห์ วิเทอร์ริดจ์ ที่ถูกฆ่าข่มขืนเมื่อปี 2557

 

 

 

 

ทั้งนี้ พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตำรวจภูธรเกาะเต่าและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เดินทางเข้าตรวจสอบ บริเวณหาดทรายรี บนเกาะเต่า ซึ่งเป็นจุดที่แหม่มสาวชาวอังกฤษ อ้างว่าถูกมอมยาและข่มขืน วันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา

 

 

จากการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมด ในขณะนี้ยังไม่พบเหตุการมอมยาและการข่มขืนตามที่ น.ส.อิซาเบล วิคตอเรีย แบคเตอร์ กล่าวอ้างแต่อย่างใด หากมีเหตุเกิดขึ้นจริงก็อยากให้ผู้เสียหายเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อแจ้งความดำเนินคดี พร้อมทั้งนำหลักฐานที่มีไม่ว่าจะเป็นคราบอสุจิที่ติดอยู่กับเสื้อวันที่เกิดเหตุ มาให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : "บิ๊กโจ๊ก" บินตรงเกาะเต่าสอบสาวอังกฤษ ร้องโดนขืนใจตร.ไม่รับแจ้งความ มีหลายปมพิรุธเชื่อคดีไม่มีมูล)

 

ล่าสุด เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว ศาลจังหวัดเกาะสมุย  ออกหมายจับ น.ส.ซูซาน อิมเมอร์รี สัญชาติอังกฤษ แอดมินเพจสมุยไทม์ และเพจ CSI LA ในฐานความผิดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและหมิ่นประมาท ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุยเลขที่ 61/2561 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2561 หลังจากเป็นผู้นำเสนอข่าว นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษถูกข่มขืนในพื้นที่เกาะเต่า แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจละเลยไม่แจ้งความ จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก รวมทั้งคนที่แชร์ข้อมูลอีกประมาณ 20 คน  ในฐานความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์

 

 

สำหรับแหม่มสาวคนดังกล่าวที่อ้างว่าถูกข่มขืนนั้น ขณะนี้ทางการอังกฤษได้สอบปากคำ สาวชาวอังกฤษ ที่อ้างว่าถูกข่มขืนที่เกาะเต่า  และตรวจดีเอ็นเอที่เสื้อผู้เสียหายแล้ว รอผลตรวจเพื่อส่งมาตามช่องทางทางการทูตให้กับตำรวจไทย คาดว่า ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หากมีหลักฐานชัดเจนหรือมีมูล ก็จะทำการสืบสวนต่อไป ส่วนการสอบปากคำพยานแวดล้อม เสาะหาหลักฐาน ผลการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างสรุปส่งให้ พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 เพื่อเสนอต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.

 

 

อย่างไรก็ตาม ทางด้าน นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด  แสดงความเห็นถึงกรณีดังกล่าวในเฟซบุ๊กว่า... "เห็นด้วยอย่างยิ่งกับ ผบ.ตร.ที่จะไปสอบผู้เสียหายเกาะเต่าที่อังกฤษ อย่าด่วนสรุปเลยครับ เพราะยังไม่ได้คุยกับ "ผู้เสียหาย" (ดูวิอาญา ม.๑๓๓) สรุปเร็วเพื่อปกป้องการท่องเที่ยวหรือเจ้าหน้าที่รัฐก็แล้วแต่ แต่อาจถูกมองว่าเราไม่ให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยว การไม่รับแจ้งความนั้นก็มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ เราก็รู้ พอสรุปว่าไม่มีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริงเสียแล้ว แล้วเขาจะเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมเราเหรอครับ ทั้งไม่ควรจะไปตั้งหลักว่าจะดำเนินคดีกับเขาในเรื่องแจ้งความเท็จ เราควรอธิบายให้สังคมโลกเข้าใจดีกว่าว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไรเมื่อสอบสวนครบถ้วน 

 

 

ถ้าจำได้กรณีสาวฮ่องกงแจ้งความว่าถูกสามล้อข่มขืนที่หน้าสวนสัตว์ สุดท้ายก็ไม่จริง เราก็อธิบาย ต่างประเทศก็เข้าใจ ถ้าเรามุ่งปกป้องตนเองที่ดำเนินคดีกับเขา ก็เท่ากับเรากำลังขจัดนักท่องเที่ยวไม่ให้มาเที่ยวบ้านเรา เพราะเราปกป้องตัวเราเองมากเกินไป ส่วนเรื่องอายุความนั้น ไม่ต้องกลัวครับ ถ้าได้ความว่าเขาแจ้งแล้ว แล้วเราไม่รับ "การร้องทุกข์" ก็เกิดขึ้นแล้ว เข้าใจครับว่า "โจ๊ก" ตั้งใจทำงาน เป็นคนเก่ง และเป็นตำรวจน้ำดี ผลงานการจับมีมากมาย แต่เชื่อเถอะ งานสอบสวนนะช้าลงอีกนิดครับ จะดีกว่า ด้วยความปราถนาดีนะครับ"

 

cr.FB ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม

 

ก่อนหน้านั้น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้นำหลักฐานเข้าพบกงสุลใหญ่ สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทยเพื่อประสานขอข้อมูล พร้อมนำพยานหลักฐานทั้งหมดที่ค่อนข้างมีความขัดแย้ง.