- 01 ก.ย. 2561
ต่อจากฉบับที่แล้ว อีกหนึ่งความอภิรมย์ เมื่อได้ก้าวเข้าสู่ดินแดนต่างถิ่นนั้น แน่นอนว่าย่อมเป็นการที่ได้ลิ้มรสอาหารประจำท้องถิ่น
ต่อจากฉบับที่แล้ว ต้องมนต์เสน่ห์ ใต้สุดแดนสยาม เมืองงามชายแดน เพราะ ที่นี่ "เบตง
อีกหนึ่งความอภิรมย์ เมื่อได้ก้าวเข้าสู่ดินแดนต่างถิ่นนั้น แน่นอนว่าย่อมเป็นการที่ได้ลิ้มรสอาหารประจำท้องถิ่น
ที่นอกจากจะมีรสชาติอันโอชะ ยากที่จะลืมเลือนยังทำให้เราได้สัมผัสถึงการผสมผสานวัฒนธรรมและปรุงแต่งด้วยวิถีชีวิตของชาวเบตง ผ่านเมนูอาหารได้อย่างกลมกล่อมและลงตัว และในฉบับนี้ ขอเชิญทุกท่านร่วมทัศนาหลากหลายเมนูอาหาร ที่เราภูมิใจนำเสนอให้ท่านได้รับชมดังนี้
"ไก่เบตง" เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก ใครที่ไปถึงถิ่นย่อมไม่พลาดอย่างแน่นอน นอกจากไก่เบตงแล้ว ยังมี อาหารอื่นที่หากินที่อื่นคงไม่มี ไม่ว่าจะเป็น
"เคาหยก" เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของเบตง ทำจากเนื้อหมูกับเผือก มีวิธีการปรุงที่พิถีพิถันสลับซับซ้อน แต่ก่อนที่จะรับประทานต้องนำไปนึ่งอีกครั้ง แล้วโรยหน้าด้วยผักชี เพื่อดับกลิ่นคาว
"ปลาจีนนึ่งบ๊วย" ปลาจีน นำมาปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่น แกงส้มปลาจีน ปลาจีนทอดกรอบ ปลาจีนนึ่งบ๊วย ฯลฯ ผู้ที่ได้รับประทานปลาจีนจะติดใจในรสหวาน และความนุ่มอร่อยของเนื้อปลาจีน โดยเฉพาะปลาจีนนึ่งเป็นอาหารชั้นหนึ่งจองภัตตาคารใหญ่ ๆ ในอำเภอเบตง ปลาจีนเป็นชื่อที่ใช้เรียกปลา 3 ชนิด คือ ปลาเฉาฮื้อ หรือปลากินหญ้า ปลาลิ่น หรือปลาลิ่นฮื้อ หรือปลาเกล็ดเงิน และ ปลาซ่งฮื้อ หรือ ปลาหัวโต ปลาจีนมีลักษณะคล้ายปลากระบอกแต่มีขนาดโตกว่า เหตุที่เรียกว่าปลาจีนเพราะเป็นปลามาจากประเทศจีน ซึ่งส่งมาขายในมาเลเซีย ภายหลังชาวเบตงได้ซื้อลูกปลาจากแหล่งขายพันธุ์ปลาบริเวณชายแดน และนำมาเลี้ยงจนแพร่หลายในที่สุด
"ผัดผักน้ำ" มีลักษณะคล้ายผักชีล้อม มีการเจริญเติบโตคล้ายผักบุ้ง ใบเล็ก ลำต้นมีลักษณะอวบน้ำ ชอบขึ้นในที่ที่มีอากาศเย็น มีการเจริญเติบโตได้ดีในหน้าฝน และหน้าหนาว หรือที่มีอุณหภูมิไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส มีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา และต้องเป็นน้ำที่ไหลมาจากภูเขา โดยเฉพาะน้ำที่ไหลมาจากซอกหิน ชาวเบตงนิยมนำมาประกอบอาหารหลายอย่าง เช่น ผัดผักน้ำ ทำแกงจืด ต้มจิ้มกับน้ำพริก ต้มกับกระดูกหมู เป็นต้น นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังมีสรรพคุณเป็นยาแก้ร้อนในอีกด้วย
"หมี่เบตง" เป็นอาหารขึ้นชื่อของเบตง มีคุณสมบัติพิเศษคือ เส้นเหนียวนุ่ม เมื่อนำไปผัดเส้นจะไม่ขาด หมี่เบตงมี 2 ชนิด คือ หมี่สีเหลืองเหมือนหมี่ทั่วไป
"ส้มโชกุน" เป็นส้มที่มีคุณสมบัติเด่น เช่น กลิ่นหอม รสหวานอมเปรี้ยว ชานนิ่มและไม่ขม เปลือกบาง ซึ่งหากนำมาคั้นจะให้น้ำมากกว่าส้มทั่วไป มีลักษณะคล้ายส้มเขียวหวาน การเจริญเติบโตก็คล้าย ๆ กับส้มเขียวหวาน เหตุเพราะว่าเป็นส้มที่ผสมผสานพันธุ์โดยธรรมชาติ ระหว่างส้มเขียวหวาน และส้มแมนดารินจากประเทศจีน ปัจจุบันส้มโชกุนมีการเพาะปลูกในทุกภาคของไทย แต่หากต้องการลิ้มลองรสชาติแท้ๆของส้มโชกุนต้องมายังที่เบตงเพียงแห่งเดียวเท่านั้น
สำหรับใครที่จะเดินทางไปเที่ยวอำเภอเบตง นอกจากทางรถยนต์แล้ว สามารถเดินทางโดยรถไฟ ไปลงที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ หรือ สถานีรถไฟยะลา จากนั้นก็เดินทางต่อทางรถยนต์ ในส่วนของการเดินทางทางอากาศ ท่านสามารถเดินทางมาลงท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ แล้วเดินทางทางบกเป็นระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง หรือสามารถเดินทางมาลงท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง ประเทศมาเลเซีย แล้วเดินทางทางบกเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันอำเภอเบตงไม่มีท่าอากาศยานที่ทำให้เดินทางตรงมายังอำเภอเบตงได้
แต่ในอนาคตอีกไม่นานเกินรอ อำเภอเบตง จะเปิดใช้สนามบินเบตง โดยเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2558 คณะรัฐมนตรี เห็นชอบโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง เพื่อแก้ไขปัญหาการคมนาคมในพื้นที่อำเภอเบตงที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชันไม่สะดวกต่อการเดินทาง และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม การเมือง ตามนโยบายสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ทั้งนี้ เมื่อการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตงแล้วเสร็จ จะทำให้การคมนาคมขนส่งภายในจังหวัดยะลา และการเชื่อมต่อสู่ประเทศมาเลเซียที่ด่านเบตงและพื้นที่ใกล้เคียงจะสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเพิ่มขึ้นจากปีละ 600,000 คน เป็น 1,000,000 คนต่อปี และมีรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี
อำเภอเบตง ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว ที่น่าสนใจอีกมากมาย แม้กระทั่งในยามค่ำคืนของตัวอำเภอ ก็มีผู้คนมาออกมานั่งจิบน้ำชา ดื่มด่ำกับบรรยากาศ ที่สงบ ไม่พลุกพล่าน และไม่ได้มีความน่ากลัว แต่กลับมีเสน่ห์ เชื่อเถอะว่า ถ้าหากคิดจะเที่ยวภาคใต้ ไปสัมผัสธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เป็นอีกจังหวัด ที่พลาดไม่ได้
ทั้งหมดนี้เป็นการฝานเอาแต่ส่วนหนึ่ง มาให้ทุกท่านได้รับชมเท่านั้น "เบตง" ยังมีเรื่องราวให้ได้ค้นหาอีกมากนักขอเพียงทุกท่านโปรดอย่าได้ตัดสินหนึ่งใน 3 จังหวัด ชายแดนใต้ จากการมองผ่านมายาคติ เพราะหลากหลายมิติในดินแดนแห่งนี้ หาใช่เป็นอย่างที่เราได้คิดไว้ไม่ ความสวยงามที่แท้จริง มิได้มาจากการตัดสินจากเปลือกภายนอกฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น หากทุกท่านพร้อมที่จะเปิดใจ แพ็คกระเป๋าเดินทาง และสัมผัสจากคลองจักษุด้วยตัวท่านเอง เพราะ "ใต้สุดแดนสยาม" แห่งนี้ สามารถที่จะมอบประสบการณ์และความทรงจำดีๆให้แก่ทุกท่านได้อย่างแน่นอน ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ควรค่าแก่การไปสัมผัส เพราะ ที่นี่ "เบตง" . . .