โป๊ะแตก! นักวิชาการป่าไม้ สอบแล้วศรีมหาโพธิ์ไม่ได้ยืนต้นตาย พบใบอ่อนแตก จี้มส.ปลดเจ้าอาวาส

จากกรณีต้นศรีมหาโพธิ์ขนาดใหญ่อายุ 60 ปี บริเวณจุดชมวิวด้านทิศตะวันออกด้านหลังป้ายแสดงประวัติที่มีพระนามาภิไธยย่อ ภปร.และ สก. บนเขาช่องกระจก  ประจวบคีรีขันธ์ ถูกตัดโค่นสภาพเหลือแต่ตอ และต่อมาวัดธรรมิการรามวรวิหารได้นำตอไม้ที่ขุดขึ้นมาปลูกไว้ในจุดเดิมเพื่อให้ฟื้นสภาพ โดยต้นศรีมหาโพธิ์ดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีรักธาตุไว้ในสถูปเจดีย์ และทรงปลูก เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินขึ้นเขาช่องกระจก เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2501 

 

 

 

ต่อมาพระราชสุทธิโมลี เจ้าอาวาสวัดธรรมิการราม พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุติ ยอมรับว่า ตนเองและลูกศิษย์วัดเป็นผู้ตัดโค่นต้นศรีมหาโพธิ์ โดยไม้ได้แจ้งให้หน่วยงานใดทราบล่วงหน้า เนื่องจากพบว่าที่ผ่านมาหลังเดือนตุลาคม 2559 ต้นไม้มีสภาพทรุดโทรม เริ่มจากปลายยอดเหี่ยวเฉาและทรุดโทรมอย่างต่อเนื่อง จากนั้นวัดได้บำรุงรักษา เพราะเข้าใจว่าอาจมีปัญหาขาดน้ำจากสภาวะภัยแล้งหรือมีปัญหาจากลิงเขาช่องกระจกหักยอดใบ แต่ต่อมาพบว่าสภาพต้นศรีมหาโพธิ์ยังไม่ฟื้น แต่วัดไม่ได้แจ้งให้หน่วยงานของรัฐรับทราบเพื่อช่วยเหลือ กระทั่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เข้าไปตรวจสอบพบว่ายังมีแขนงส่วนโคนแตกใบอ่อนแต่ไม่เติบโตและยอมรับว่าไม่สามารถเยียวยาได้

 

 

 

 

ขณะที่นายพัลลภ สิงหเสนี  ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ออกมาเปิดเผยว่า  ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงสำนักพระราชวังเพื่อกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษ  จากกรณีต้นศรีมหาโพธิ์ทรงปลูกถูกตัดโค่น และ จังหวัดไม่ได้รายงานให้หน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องรับทราบมาก่อนตามธรรมเนียมปฏิบัติ

 

 

“ ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้ขึ้นเขาช่องกระจกเพื่อกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพบว่า ต้นศรีมหาโพธิ์ทรงปลุกมีสภาพทรุดโทรมจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแจ้งถึงทีมหมอต้นไม้ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญจากกรมป่าไม้ ซึ่งตรวจสอบพบว่าได้แจ้งไปเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบก็ไม่คาดคิดว่าเจ้าอาวาสวัดจะตัดและขุดรากขึ้นมาทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าท่านอาจจะมองจากลักษณะภายนอก  แต่เปลือกนอกยังมีสีเขียวดังนั้นต้นไม้อาจจะยังไม่ตาย   โดยการกระทำดังกล่าวท่านไม่ได้ปรึกษาใคร ถ้าท่านบอกผมก่อน ก็คงไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ไม่มีความเสียหายกระทบความรู้สึกของประชาชน” นายพัลลภ กล่าว

 

 

ล่าสุดเมื่อวาน(2 ก.ย.61)ที่ผ่านมา นางชนิษฐา จันทโชติ หัวหน้าศูนย์เรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหน้าสถานีวนวัฒนวิจัยประจวบคีรีขันธ์) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้นำส่วนรากของต้นพระศรีมหาโพธิ์ มาปลูกในธรรมชาติที่บริเวณด้านหน้าอาคารศูนย์เรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ จ.ประจวบฯ เพื่อทำการอนุบาลและฟื้นฟูสภาพให้มีต้นอ่อนโดยมีการติดตั้งตาข่ายกรองแสงรักษาความชื้น คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน

 

 

“ก่อนหน้านี้ตนได้ร่วมประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัดที่สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2560 เนื่องจากสื่อมวลชนรายงานข้อมูลต้นพระศรีมหาโพธิ์มีสภาพทรุดโทรม ใบร่วง จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบช่วงต้นเดือนมกราคม 2561 พบว่า ต้นศรีมหาโพธิ์ ยังผลิใบอ่อนก่อนที่ต้นไม้จะถูกตัดโค่นได้เดินทางไปตรวจสอบเมื่อเดือน พ.ค. - มิ.ย.สภาพโดยรวมของต้นไม้ไม่ต้องเร่งฟื้นฟูในทันที และได้รายงานข้อเท็จจริงพร้อมภาพให้กรมป่าไม้รับทราบ

 

 

กระทั่งวันที่ 31 ก.ค.ได้ทำหนังสือแจ้งทีมนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ หรือหมอต้นไม้ให้เดินทางมาตรวจสอบเพื่อฟื้นฟูสภาพจากการวิเคราะห์องค์ประกอบทุกด้าน แต่ภายหลังทราบว่าต้นไม้ถูกตัดโค่นจากการนำเสนอของสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 29 ส.ค.61 ยืนยันว่า ที่ผ่านมาผู้บริหารระดับจังหวัดทราบข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และจากการประเมินสภาพต้นพระศรีมหาโพธิ์ไม่ได้ประสบภาวะวิกฤตยืนต้นตาย” นางขนิษฐา กล่าว

 

 

ล่าสุดวันนี้(3 ก.ย.61) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกมาเรียกร้องให้เจ้าคณะภาคเสนอมหาเถรสมาคม (มส.) พิจารณาปลดพระราชสุทธิโมลี เจ้าอาวาสวัดธรรมิการราม พระอารามหลวง เจ้าคณะ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่ให้พระสงฆ์ทั่วประเทศกระทำการในลักษณะดังกล่าว เนื่องจากต้นศรีมหาโพธิ์ทรงปลูกถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวประจวบคีรีขันธ์และคนไทยทั้งประเทศ หลังจากที่ผ่านมาเจ้าอาวาสใช้อำนาจโดยพละการสั่งการให้มีการตัดโค่นต้นพระศรีมหาโพธิ์ทรงปลูกในเขตอภัยทานเมื่อวันที่ 6 ส.ค.61 โดยไม่แจ้งให้หน่วยงานใดทราบและวัดไม่ได้ยื่นขอใช้ประโยชน์จากที่ดินบนเขาช่องกระจกซึ่งเป็นพื้นที่ป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484

 

 

“ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์เพื่อขอให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย เนื่องจากพบว่ามีการแผ้วถาง ทำลายต้นไม้ หากไม่ดำเนินการเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปที่ถูกลงโทษในกรณีเดียวกัน ถือว่าเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และปัญหาจากการตัดต้นพระศรีมหาโพธิ์ ขอให้เจ้าอาวาสวัดธรรมิการาม อธิบดีกรมป่าไม้และผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ร่วมกันชี้แจงว่าเบื้องต้นจะแสดงความรับผิดชอบกับความรู้สึกของประชาชนอย่างไร นอกเหนือจากการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ” นายศรีสุวรรณ กล่าว