FB : DEEPS NEWS

จากกรณีเหตุการณ์สะเทือนขวัญเมื่อเฟซบุ๊กผู้ใช้ชื่อว่า "พิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ" ได้รายงานว่า ได้เกิดเหตุฆาตกรรมกลางดึกขึ้น โดยคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงสาวสวยขับรถยนต์เก๋งป้ายแดง จำนวน 3 นัด เสียชีวิตคาเบาะรถ คาดผู้ก่อเหตุอาจเป็นคนใกล้ชิดหรือรู้จักกัน เนื่องจากมีการจอดรถและเปิดกระจกเจรจากัน ก่อนถูกสังหารอย่างเลือดเย็น  ที่หมู่บ้านนาขุม ถนนประปา-นาสร้าง ระหว่างซอย 3 หมู่ 5 ตำบลนครปฐม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

 

 

เปิดชื่อมือยิง6นัดสาวสวยหมกเก๋งป้ายแดง ที่แท้แฟนหนุ่ม ตร.นครปฐมฉับไวออกหมายจับ

 

ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตชื่อ น.ส.นภธร กนกเกษมโสภณ อายุ 24 ปี สภาพศพนั่งเสียชีวิตอยู่เบาะนั่งคนขับ ศีรษะเอนไปที่เบาะผู้โดยสาร สวมเสื้อผ้ารัดรูปสีเนื้อ กางเกงยีนส์ขาสั้น เบื้องต้นตรวจในที่เกิดเหตูกยิงเข้าที่ ศีรษะ 1 นัด หัวไหล่ 1 นัด ชายโครง 1 นัด และตามลำตัวอีก 2-3 นัด

 

เปิดชื่อมือยิง6นัดสาวสวยหมกเก๋งป้ายแดง ที่แท้แฟนหนุ่ม ตร.นครปฐมฉับไวออกหมายจับ

 

เปิดชื่อมือยิง6นัดสาวสวยหมกเก๋งป้ายแดง ที่แท้แฟนหนุ่ม ตร.นครปฐมฉับไวออกหมายจับ

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของน.ส.นภธรพบว่า มีการคุยแชตผ่านเฟซบุ๊กกับนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ คาดว่าเป็นชายที่ผู้ตายคบหาอยู่ ก่อนจะนัดออกมาเคลียร์ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ เนื่องจากฝ่ายชายมีอาการหึงหวง ทั้งนี้คาดว่าสาเหตุการก่อเหตุสังหารโหดครั้งนี้ มาจากเรื่องชู้สาว และจากการตรวจสอบประวัติ พบว่าผู้ตายมีครอบครัวแล้วแต่แยกทางกับสามีเก่าที่เป็นชาวจังหวัดราชบุรี และมีบุตรด้วยกัน 1 คน แต่ผู้ตายมาพักอาศัยที่บ้านเกิดในจังหวัดนครปฐม

 

เปิดชื่อมือยิง6นัดสาวสวยหมกเก๋งป้ายแดง ที่แท้แฟนหนุ่ม ตร.นครปฐมฉับไวออกหมายจับ

 

ล่าสุดเฟซบุ๊ก หนังสือพิมพ์ใต้สันติสุข ได้โพสต์ข้อความพร้อมวีดีโอ ถึงความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวด้วย ซึ่งทั้งหมดระบุว่า

 

เปิดชื่อมือยิง6นัดสาวสวยหมกเก๋งป้ายแดง ที่แท้แฟนหนุ่ม ตร.นครปฐมฉับไวออกหมายจับ

 

เพิ่มเติมคดีหญิงสาวถูกยิงเสียชีวิตภายในรถเก๋งป้ายแดงกลางดึกผ่านมาในพื้นที่ จ.นครปฐม

ล่าสุด ผกก.สภ.นครปฐม เผยผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนชายของผู้ตาย ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่บ้านผู้ต้องสงสัยแล้ว ด้านพนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ขอศาลอนุมัติหมายจับ

 

เปิดชื่อมือยิง6นัดสาวสวยหมกเก๋งป้ายแดง ที่แท้แฟนหนุ่ม ตร.นครปฐมฉับไวออกหมายจับ

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : หนังสือพิมพ์ใต้สันติสุข