- 04 ก.ย. 2561
จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ "แพท ณปภา" เผยคำพูดล่าสุดจากสามีเอ่ยถึงชีวิตคู่ เตรียมใจรอแล้ว คงได้เป็นซิงเกิ้ลมัม
เรียกได้ว่าเป็นคุณแม่ที่แซ่บและสุดสตรองมาก สำหรับ “แพท ณปภา ตันตระกูล” ที่หลังจากชีวิตของเธอผ่านเรื่องราวมรสุมต่างๆ มาอย่างมากมาย ทั้งเรื่องของสามีและครอบครัว แต่ก่อนหน้านี้ก็มีอีกเรื่อง ที่เธอได้ออกมาเปิดเผยให้สังคมรับรู้ความจริง ว่าแท้จริงแล้ว แม่ที่ดูแลอยู่ทุกวันนี้ ไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่มีศักดิ์เป็นย่า เพราะคนที่เธอเรียกว่าพี่มาตลอดนั้น แท้จริงคือพ่อบังเกิดเกล้า แต่เมื่อได้ดูแลย่า หรือแม่ มาตั้งแต่ต้น ก็จะทำต่อไปอย่างดีที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดความจริงหมดเปลือก!!! "แพท ณปภา" ร่ำไห้ เล่าความลับ 32 ปี ไม่เคยเจอหน้าแม่ที่แท้จริง เพิ่งรู้ว่าผู้ชายที่เรียกพี่ คือ "พ่อบังเกิดเกล้า"
ทั้งนี้ชีวิตของแพท ต้องบอกว่าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบจริงๆ เพราะต้องผ่านเรื่องราวมามากมาย โดยเฉพาะบททดสอบครอบครัว ที่ตอนนี้สามี "เบนซ์ เรซซิ่ง" ต้องโทษอยู่ในเรือนจำ และล่าสุดแพท ก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้อีกครั้งว่า เรื่องชีวิตคู่ของตัวเองนั้น ต้องดูกันไปยาวๆ แต่ตนคุยกับเบนซ์เรื่องนี้คร่าวๆ แล้ว เพราะเรื่องนี้มันยังไม่สิ้นสุด หากวันหนึ่งต่อให้เขาออกมา เราก็ต้องมาปรับกันใหม่ ว่าเราจะอยู่กันไปแบบ 3 คน หรือ 1 กับ 2 คน เพราะที่ผ่านมา ตนก็ดูแลลูกคนเดียวมาตลอด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชีวิตยิ่งกว่าละคร!!! "แพท ณปภา" เปิดใจ รับตรงๆ คุยอนาคตกับ "เบนซ์ เรซซิ่ง" แล้ว มีสิทธิเป็นซิงเกิลมัม เพราะสู้เลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด!?
ล่าสุดสาวแพท ณปภา ก็ได้ออกมาเปิดใจอีกครั้งว่า อาจจะเข้าชมรมคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว หลังจากช่วงหลังดูเหมือนความสัมพันธ์กับสามีและครอบครัวดูจะห่างเหินกันไป และตนเองได้คุยกับฝ่ายสามีมาบ้างแล้ว และคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงมาก ที่จะเลี้ยงลูกคนเดียวต่อไป
มีข่าวว่าเราผิดใจกับแม่เบนซ์ ?
แพท ณปภา : เราแทบจะไม่ได้คุยกันเลยค่ะ ฉะนั้นเรื่องผิดใจกันตัดออกไปก่อน เพราะทุกวันนี้ไม่ได้คุยกันเลย คงได้คุยกันอีกทีน่าจะช่วงที่ต้องคุยกัน คือตอนนี้แพทก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลังจากที่เราแยกบ้านกัน แพทกลับมาอยู่บ้านแพท ทางแม่ของพี่เบนซ์เขาก็ต้องเตรียมเรื่องของพี่เบนซ์ เมื่อเดือนที่แล้วพี่เบนซ์เขาขึ้นศาลถี่มาก เราก็ต้องขึ้นด้วย เราก็เข้าใจแม่เขา เขาก็ขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อเราเลย เขาก็ยอมรับตรงๆ ว่าเขาเหนื่อยกับการเตรียมเอกสารต่าง ๆ จนมาตอนนี้แทบจะไม่ได้ติดต่อกันเลย เราก็ทำความเข้าใจกับตัวเองว่าแกก็คงวุ่นวายเรื่องของพี่เบนซ์อยู่
ส่วนแพทกับพี่เบนซ์เราคุยกันแล้วว่าออกมาคงต้องคุยกันจริงจัง ว่าจะเอายังไงกับเรื่องลูก เพราะตอนนี้แพทเลี้ยงลูกคนเดียว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดทุกอย่างคือแพทคนเดียว พอเราพูดกับพี่เบนซ์ไป แกก็บอกให้เรารอไปก่อน รอให้ทุกอย่างมันคลี่คลายกว่านี้ก่อน ว่าตัดสินแล้วเป็นไปในรูปแบบไหน แล้วเดี๋ยวเขาจะมาคุยกับเราอีกทีหนึ่ง ซึ่งแพทจะไม่ได้คุยกับแม่พี่เบนซ์อยู่แล้ว ต้องให้พี่เบนซ์เป็นคนคุยให้ แต่จุดนี้พี่เบนซ์เขายังไม่คุยให้เรา ก็เลยคิดว่าเราไม่พูดดีกว่า เราก็บอกว่าเราเลี้ยงลูกเราไหว ณ ตอนนี้เราก็เลี้ยงมาปีกว่าคนเดียว เราก็เลี้ยงไหว ถ้าต่อไปเราจะต้องเลี้ยงอย่างนี้อีกเราก็ไหว
การที่ไม่ได้คุยกัน มันทำให้ปัญหาแย่ลงไหม ?
แพท ณปภา : ตอนนี้ยอมรับตรงๆ ว่าห่างเหินกับครอบครัวของพี่เบนซ์ แพทแยกมาตั้งแต่พี่เบนซ์ติดแรกๆ เลย พอแยกแล้วการสื่อสารมันก็น้อยลงทันทีเลย ตอนแรกๆ คุณแม่พี่เบนซ์เขาก็อยากให้เราเอาหลานไปเยี่ยมเขาบ้าง แต่เราเองรู้ว่ามันยาก ไปอยู่ตรงนั้นเราไม่สะดวกกับอะไรหลายอย่าง ทั้งที่อยู่ ลูกเราโตขึ้น ลูกเราต้องการใช้พื้นที่เยอะขึ้น แม่เราที่ต้องดูแลเพิ่มมากขึ้น พอเราเริ่มห่างออกมา การติดต่อน้อยลง หลังๆ การติดต่อก็จะเป็นเรื่องของคดีหมดเลย
จากการตีความการสัมภาษณ์ของแพท ช่วงหลังๆ ดูแล้วเหมือนจะไปกันไม่รอดเลย ?
แพท ณปภา : ก็ไม่ใช่แค่ทุกคนหรอกค่ะ ผัวดิฉันเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน คือเราก็พูดกับพี่เบนซ์ตรงๆ เขาก็เข้าใจนะ วันล่าสุดที่แพทไปขึ้นศาลแล้วเจอกัน เราก็บอกเขาเลยว่าพี่เบนซ์รู้ใช่ไหมว่าแพทเลี้ยงลูกคนเดียวนะ แล้วลูกจะต้องเข้าโรงเรียนแล้วนะ ถึงมันจะอีกปีหนึ่ง แต่มันก็ต้องแพลนแล้วนะ เราก็พยายามบอก แต่ถ้าทางนั้นยังเงียบอยู่เราก็โอเค ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าสุดท้ายก็รอเลยแล้วกันว่าจะเอายังไง
ถ้าวันนี้ศาลตัดสินแล้วออกมาได้ เราสองคนต้องคุยกันแล้วนะว่าเราจะไปต่อกันแบบครอบครัว หรือจะแค่ทำหน้าที่พ่อกับแม่ ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ ถ้าได้ก็ต้องปรับตัวมาก ๆ เลย เพราะตอนที่พี่เบนซ์ไปน้องอายุ 3 เดือน เขายังไม่รู้เรื่อง แล้วตัวพี่เบนซ์ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรับผิดชอบอะไรเยอะแยะมากมาย ตอนนี้ลูกขวบหกเดือนแล้ว กว่าเขาจะได้ออก ลูกก็ 2 ขวบแล้ว แพทก็คุยกับเขาตรงๆ ทุกคนก็รู้ คนรอบข้างก็รู้ว่าแพทดูแลลูกคนเดียว แพททำงานหนักมาก แพทก็บอกเขาว่าอย่าคาดหวังว่าแพทจะต้องไปเยี่ยมเขาตามตารางเป๊ะๆ ทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละวัน แพททำไม่ได้ แพทเอางานมาก่อน
พอเราอธิบายไปเขาเข้าใจไหม ?
แพท ณปภา : เขาเข้าใจ เขาบอกแพทไม่ต้องมาก็ได้ ถ้าสมมติว่าพี่เลี้ยงว่างก็เอาลูกไปอย่างเดียวก็ได้ เราก็เลยโอเคว่าเขาคงเข้าใจเรา
หลายคนมองว่าเราทิ้งเบนซ์ ?
แพท ณปภา : ไม่เกี่ยวกับทิ้งหรอกค่ะ แพทเชื่อว่าคนที่มีครอบครัว สุดท้ายแล้วไม่มีใครอยากเดินมาถึงจุดที่มันแยกกัน และตอนนี้แพทกับพี่เบนซ์เราก็ยังไม่ได้แยกกัน แค่รอคุยกัน คนจะคิดว่าคนข้างในเขามีความหวังเป็นเรา เราอย่าทิ้งเขา แต่คุณต้องมองคนข้างนอกด้วยว่า คนข้างนอกก็หวังเหมือนกันที่จะมีครอบครัวที่แข็งแรง รวมถึงคาดหวังการดูแล แพทเชื่อว่าต่อให้เขาอยู่ข้างในเขาก็ยังดูแลเราได้ ทีนี้มันก็ต้องลองดูว่าเราสามคนจะคุยกันแบบไหน โอเคเรากลับมาแล้วเราต้องจูงมือกันไปให้ได้นะ หรือเราคุยแล้วมันไม่ได้จริงๆ ก็ไม่เป็นไร
ทุกวันนี้ถือว่าเราสตรองพอไหม หรือว่าบางวันแอบมีน้ำตา
แพท ณปภา : ไม่เลยค่ะ ด้วยความที่เรามีอะไรหลายอย่างให้ทำเยอะมาก ลูกก็ต้องการการดูแลแบบเต็มร้อย งานก็ต้องเต็มร้อย เราเลยแทบจะไม่มีเวลามาคิดเรื่องตรงนั้นว่าทำไมนั่นทำไมนี่ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่ให้ก็คือไม่ให้ ติดต่อก็คือติดต่อ ไม่ติดต่อก็คือไม่ติดต่อ ไม่ว่างด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่เป็นไร
เราเตรียมใจกับการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไว้ไหม
แพท ณปภา : เพิ่งจะมาเตรียมหลังจากที่เราได้คุยกับพี่เบนซ์ ฟีดแบ็กมันน้อย พอมันน้อยเราก็ค่อยๆ เตรียมมาเรื่อยๆ
ขอบคุณ : kapook.com
ขอบคุณ IG : benzracing , pat_napapa