เปิดไทม์ไลน์ดราม่า มหากาพย์เพราะรักจึงมโนว่าท้อง "มิ้ง" สารภาพสิ้น "กัปตัน" พร้อมเดินหน้าต่อ

ย้อนลำดับเหตุการณ์ มหากาพย์ดราม่า "มิ้ง - กัปตัน" เพราะรักจึงมโนว่าท้อง สู่บทสรุปที่จบไม่สวย

เปิดไทม์ไลน์ดราม่า มหากาพย์เพราะรักจึงมโนว่าท้อง "มิ้ง" สารภาพสิ้น "กัปตัน" พร้อมเดินหน้าต่อ

 

    จากกรณีอื้อฉาวที่เป็นข่าวครึกโครมสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มผู้เกาะติดกระแสคนดังกันอย่างร้อนแรงระหว่างหนุ่มหน้าหวานผู้แจ้งเกิดในซีรี่ย์ชายรักชาย กัปตัน นายชลธร คงยิ่งยง กับ สาวสวยนอกวงการ มิ้ง นางสาวศวภัทร สุนทรนันท์ 

 

    โดยล่าสุด ภายหลังที่เรื่องกำลังเข้าสู่กระบวนทางกฏหมายนางสาวศวภัทร ออกมายอมรับครั้งแรก ว่าตนนั้นโกหกเรื่องท้อง สาเหตุเพราะว่ารักฝ่ายชายมากจนไม่อยากเสียไป จึงกุเรื่องว่าท้องด้วยอารมณ์ชั่ววูบ และได้ไกล่เกลี่ยกับฝ่ายชายเป็นที่เรียบร้อยไปแล้วนั้น

 

    วันนี้สำนักข่าวทีนิวส์ จะพาทุกท่านย้อนไปเสพสุดยอดมหากาพย์แห่งความดราม่า จะเจ็บแสบและแซ่บสะท้านทรวงมากขนาดไหนเชิญรับชมกันเลยค่ะ

 

 

เปิดไทม์ไลน์ดราม่า มหากาพย์เพราะรักจึงมโนว่าท้อง "มิ้ง" สารภาพสิ้น "กัปตัน" พร้อมเดินหน้าต่อ

 

    จุดเริ่มต้นของปมดราม่าครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นจากการที่ นางสาวศวภัทร หรือ มิ้ง ได้เจอกับ นายชลธร หรือ กัปตัน ในงานแฟนมิตติ้ง ส่วนสาเหตุที่มิ้งได้เข้าร่วมงานเพราะ เพื่อนของเธอนั้นเป็นนักแสดงซีรี่ย์ LOVE SICK เช่นเดียวกับ กัปตัน จากนั้นทั้งคู่จึงสานความสัมพันธ์และตกลงปลงใจเป็นแฟนกันในที่สุด 

 

    แต่แล้วจากการที่ฝ่ายชายเป็นดาราค่อนข้างมีชื่อเสียง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงกลายเป็นรักที่ถูกซ้อนเร้นไม่อาจเปิดเผยแก่สาธารณะชนได้ เพราะในช่วงครึ่งเดือนแรกที่ทั้งคู่ต่างคบหาดูใจกันนั้น ฝ่ายชายขอไม่ให้มีการลงรูปใดๆ บนโซเชียลซึ่งแน่นอนว่ามิ้งเองก็รู้สึกอึดอัด แต่ทางมิ้งเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนักเพราะ กัปตันก็เทคแคร์ดีเหมือนคู่รักตามปกติ แม้จะไปเที่ยวข้างนอกกัน ก็ไม่ได้พรางตัวเพราะไม่ได้มีคนสนใจ จนกระทั่งมีเสียงเม้าท์สนั่นในโลกโซเชียลว่ามีนักแสดงวัยรุ่นชายทำสาวท้อง ซึ่งต่อมาในวันที่ 8 กัปตัน ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในงานประกาศรางวัลไนท์เอ็นเตอร์เทนยอมรับด้วยสีหน้าท่าทางเครียดๆ และมีน้ำตาคลอคล้ายจะเล่นบทดราม่าบนเวที ว่าตนเองเป็นบุคคลที่อยู่ในข่าว 

 

 

เปิดไทม์ไลน์ดราม่า มหากาพย์เพราะรักจึงมโนว่าท้อง "มิ้ง" สารภาพสิ้น "กัปตัน" พร้อมเดินหน้าต่อ

 

    ถัดมาวันที่ 11 มิ.ย. คุณพ่อวธีรัต-คุณแม่วิริยา คงยิ่งยง ก็ได้จูงมือลูกชายหัวแก้วหัวแหวน น้องกัปตัน พร้อมด้วยทางฝั่งของสาวมิ้งที่มากับ คุณแม่ปุณณดา สุนทรนันท์ รวมถึงนางสาวจงจิตต์ อินทุ่ง ตำแหน่ง  Associate Director of Artist Management บริษัท นาดาวบางกอก จำกัด ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมกับการตั้งคำถามติดตลกบนโลกโซเชียลว่า เจ้าหมอนี่เป็นใคร แลัวหญิงสาวที่ท้องนั้น เป็นดาราสังกัดช่องไหน

 

 

เปิดไทม์ไลน์ดราม่า มหากาพย์เพราะรักจึงมโนว่าท้อง "มิ้ง" สารภาพสิ้น "กัปตัน" พร้อมเดินหน้าต่อ

ทางฝั่งกัปตันก็แสดงออกถึงความเป็นสุภาพบุรุษในตอนนั้น ไม่สนว่าจะต้องมีผลตรวจ DNA และยืดอกยอมรับว่าเคยมีความสัมพันธ์กันจริง ไม่ว่ายังไงตนก็จะรับผิดชอบ พร้อมกับขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้อง และไม่ให้กล่าวโทษครอบครัว ตนอยากพิสูจน์ตัวเองในการเป็นใหญ่ แต่สุดท้ายตนก็ยังไม่พร้อม ขอร้องว่าอย่าโทษใครให้โทษตนก็พอ และมุ่งที่เรื่องการฝากครรภ์ โดยอยากจะให้มิ้งไปฝากครรภ์พร้อมๆ กับทางฝั่งครอบครัวของตน

 

 

เปิดไทม์ไลน์ดราม่า มหากาพย์เพราะรักจึงมโนว่าท้อง "มิ้ง" สารภาพสิ้น "กัปตัน" พร้อมเดินหน้าต่อ

 

    แต่ฝ่ายมิ้งกลับโดนสื่อขยี้จี้จุดอย่างรุนแรง เมื่อถูกถามว่ามีโอกาสที่จะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไหม ราวกับนางเอกละครหลังข่าว สาวมิ้งน้ำตาคลอหน่วยพร้อมตอบว่า แอบคิดไว้เหมือนกันว่ามีโอกาสที่จะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว สำหรับกระแสวิจารณ์จริงๆ ตนไม่ค่อยได้อ่านและสนใจเท่าไร และตอนนี้ก็เคลียร์กันแล้ว จะไม่มีการแฉอีกต่อไป เและทางคุณแม่ของมิ้งจะช่วยดูแลหลานเองเรื่องเหมือนจะจบกันไปได้ด้วยดี และปล่อยให้เป็นเรื่องของครอบครัวทั้งคู่ โดยที่ชาวเน็ตไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายอีก 

 

 

เปิดไทม์ไลน์ดราม่า มหากาพย์เพราะรักจึงมโนว่าท้อง "มิ้ง" สารภาพสิ้น "กัปตัน" พร้อมเดินหน้าต่อ

 

    หากแต่ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะหลังจากการแถลงจบไปได้ไม่นาน ความเห็นของสังคมก็แตกออกเป็นสองทาง แต่ดูเหมือนทางฝั่งหนุ่มกัปตันจะเงียบ ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ซ้ำร้ายยังโดนปลดงานจากที่มีงานน้อยอยู่แล้ว โดนสังคมปรามาศอย่างรุนแรงว่าไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันฝั่งสาวมิ้งมีการเคลื่อนไหวในโซเชียลตลอดเวลา และมีงานเข้ามาอย่างมากมายทั้ง Kaybee Perfect ที่ว่าจ้างให้ มิ้ง โฆษณาและรีวิวสินค้า และชำระค่าถ่ายโฆษณาให้แล้ว 50% ก่อนที่จะมีกระแสข่าวคดีพลิกในเวลาต่อมา

 

 

เปิดไทม์ไลน์ดราม่า มหากาพย์เพราะรักจึงมโนว่าท้อง "มิ้ง" สารภาพสิ้น "กัปตัน" พร้อมเดินหน้าต่อ


 
    ท่ามกลางการจับตามองของทุกๆ คนว่าเมื่อไหร่เธอจะไปฝากครรภ์ จนสุดท้ายสรุปว่ามีภาพหลุดว่าเธอไปฝากครรภ์เองที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยที่ไม่ได้มีฝั่งหนุ่มกัปตันไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่มีหลักฐานหรือเอกสารอะไรที่ชัดเจนมากนัก และอาจเพราะมิ้นดูถูกความเป็นนักสืบโซเชียลและความอยากรู้อยากเห็นของคนไทยมากเกินไป ที่ทั้งขุด ในเรื่องของอายุครรภ์ ใบรับรองแพทย์ จนเกิดเป็นแฮชแท็กยอดฮิตไปทั่วทวิตเตอร์ ว่า #มิ้งโป๊ะแตก

เปิดไทม์ไลน์ดราม่า มหากาพย์เพราะรักจึงมโนว่าท้อง "มิ้ง" สารภาพสิ้น "กัปตัน" พร้อมเดินหน้าต่อ

 

    จนกระทั่ง 19 มิ.ย. มิ้งได้โพสต์รูปขณะนอนให้น้ำเกลืออยู่โรงพยาบาลในไอจีสตอรี่ พร้อมข้อความว่า มาคนเดียว , ไข้ขึ้น อ้วกจนเป็นลม เศร้า , พร้อมโชว์รูปปรอทวัดไข้ขึ้นอุณหภูมิ 39.3 องศา นอกจากนี้ยังลงรูปในไอจีว่า “อาจจะไม่ได้ตอบไลน์ไม่ได้รับสายนะคะ เพราะล่าสุดแอดมิดเรียบร้อยค่ะ เอื้อ #เดินเกาะรั้วเรียกแท็กซี่สุด #ไม่มีคนอยู่บ้านนนนชีวิต” 

 

    ในที่สุด 20 ก.ค. สาวมิ้งประกาศผ่านทางอินสตาแกรมของตัวเองว่า "แท้งแล้ว" ด้วยตัวแปรต่างๆ ทั้งเรื่องงาน สุขภาพและความเครียดพร้อมตบท้ายว่าขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายสวยๆ ว่าไม่ขอให้ใครเชื่อ จากนี้ขอลืมและขอกลับไปใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม และทำการปิดไม่ให้มีการคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นใดๆ อีกด้วย น่าจะเป็นการปิดมหากาพย์กัปตันมิ้งได้ในที่สุด

 

เปิดไทม์ไลน์ดราม่า มหากาพย์เพราะรักจึงมโนว่าท้อง "มิ้ง" สารภาพสิ้น "กัปตัน" พร้อมเดินหน้าต่อ

 

    แต่ทว่าไม่เป็นเช่นนั้นเพราะเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ภายหลังเรื่องเข้าสู่กระบวนการทางกฏหมาย มิ้งได้สารภาพจนหมดสิ้นว่ากุเรื่องขึ้นมาทั้งหมด โดยระบุว่าตกลงเรียบร้อยแล้ว เรื่องตั้งครรภ์ไม่เป็นความจริง โกหกเพราะคิดว่าเหตุผลนี้จะทำให้กัปตันกลับมารักและอยู่กับเรา แต่ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้ เห็นฝ่ายชายโดนด่าตนก็เสียใจ เป็นเรื่องยากที่จะพูดความจริงแต่แรก ส่วนหนึ่งกลัวกระแสตีกลับ พร้อมกับได้กล่าวขอโทษทุกคนที่ทำให้เดือดร้อน และขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ พร้อมตั้งรับสิ่งที่จะตอบกลับมา

 

 

เปิดไทม์ไลน์ดราม่า มหากาพย์เพราะรักจึงมโนว่าท้อง "มิ้ง" สารภาพสิ้น "กัปตัน" พร้อมเดินหน้าต่อ

 

    ส่วนทางด้านกัปตันนั้นก็กล่าวว่า การตัดสินใจที่นำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการทางกฏหมายไม่ได้มีเจตนาให้ใครต้องเข้าคุก เพียงแค่ต้องการความจริง พิสูจน์ความจริงและเป็นธรรม ซึ่งหากตนผิดก็พร้อมที่จะรับผลจากการกระทำเช่นกัน และกล่าวอีกว่าโล่งอกที่เรื่องนี้จบลงด้วยดี ไม่โกรธฝ่ายหญิง เพราะเข้าใจว่าทำไปเพราะรักตน จากนี้ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ใช้ชีวิตต่อไป พร้อมให้กำลังใจอดีตแฟนสาว

 

    และแล้ว มหากาพย์ในครั้งนี้ก็จบลงด้วยดี หวังว่าทุกคนจะเลิกกล่าวโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและใช้ชีวิตของตัวเองต่อไป ดังเช่นคำกล่าวของหนุ่มกัปตันนะคะ