ชาวบุรีรัมย์นั่งกลางฝนถล่มหนัก รอเฝ้าฯพระเทพฯเสด็จผ่าน แม้เพียงเสี้ยววินาที

FB : DEEPS NEWS

จากกรณีเฟซบุ๊กคาเธ่ย์ หมี  ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพที่แสนจะน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ได้พากันมานั่งอยู่ริมถนน ในขณะที่ฝนตกลงอย่างหนักแทบมองไม่เห็นอะไร ซึ่งเรื่องราวนี้ทราบต่อมาว่า เพราะประชาชนเหล่านั้นได้เดินทางมาเพียงเพื่อชื่นชมพระบารมีต่อเจ้าหญิงของแผ่นดินที่พวกเขาเคารพรักและเทิดทูนอย่างหาที่สุดไม่ได้นั่นเอง

 

 

ชาวบุรีรัมย์นั่งกลางฝนถล่มหนัก รอเฝ้าฯพระเทพฯเสด็จผ่าน แม้เพียงเสี้ยววินาที

 

 (4 กย.61) ประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ มานั่งเฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพฯ ..แม้จะตากฝน ฝนตกหนักเพียงใด ...ขอเพียงได้ชื่นชมพระบารมี

 

ทั้งนี้เมื่อเรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็ปรากฏว่ามีบุคคลเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เพราะเรื่องนี้ได้สร้างความประทับใจต่อคนไทยทั้งประเทศด้วย อาทิ

 

ชาวบุรีรัมย์นั่งกลางฝนถล่มหนัก รอเฝ้าฯพระเทพฯเสด็จผ่าน แม้เพียงเสี้ยววินาที

 

จะหนาวเหน็บสักเพียงใด ขอให้ได้ชื่นชมพระบารมีสักครั้งหนึ่งในชีวิต ความหนาวเหน็บก็จะหาย กลายเป็นความอบอุ่นในทันที ที่ได้ชื่นชมพระบารมี ของพระองค์ท่าน

 

เรารักและเทอดทูนเหนือเศียรเกล้า ได้เห็นทูลกระหม่อมแม้เพียงได้เห็นแค่ไม่กี่วินาทีก็เป็นความสุขอิ่มเอมปลื้มปริ่ม เป็นความทรงจำไปตลอดชีวิต ใครจะมาเข้าใจได้นอกจากคนที่รักท่านเหมือนกับประชาชนชาวไทยค่ะ

 

 

 

ชาวบุรีรัมย์นั่งกลางฝนถล่มหนัก รอเฝ้าฯพระเทพฯเสด็จผ่าน แม้เพียงเสี้ยววินาที

 

เป็นภาพที่เห็นแล้วตื้นตันเลยค่ะ  ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

 

ขอเพียงสักครั้งหนึ่งในชีวิต.ถ้ามีโอกาสได้เห็นพระองค์จะยากลำบากแค่ไหนก็เป็นบุญของพสกนิกรของพระองค์แล้วรักและเทิดทูนพระองค์

 

ยุใกล้ๆๆ.... แต่ทำไมตกแต่ที่ท่านเสด็จ.....เมือง บุรีรัมย์แล้งข้าวจะตายอยู่แล้ว... ดีใจแทนคนที่บุญถึงท่าน... ส่วนเราหน้าจอที่วีต่อไป...

#ทรงพระเจริญ

ปล. คนบุรีรัมย์ค่ะ...

 

ชาวบุรีรัมย์นั่งกลางฝนถล่มหนัก รอเฝ้าฯพระเทพฯเสด็จผ่าน แม้เพียงเสี้ยววินาที

 

ชาวบุรีรัมย์นั่งกลางฝนถล่มหนัก รอเฝ้าฯพระเทพฯเสด็จผ่าน แม้เพียงเสี้ยววินาที

 

ชาวบุรีรัมย์นั่งกลางฝนถล่มหนัก รอเฝ้าฯพระเทพฯเสด็จผ่าน แม้เพียงเสี้ยววินาที

 

ชาวบุรีรัมย์นั่งกลางฝนถล่มหนัก รอเฝ้าฯพระเทพฯเสด็จผ่าน แม้เพียงเสี้ยววินาที

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : คาเธ่ย์ หมี

ภาพ : พินิจ พรมวิจิตร