สยองข้ามทวีป ตร.สหรัฐเจอ 2 ศพถูกแทงเสียชีวิตในอพาร์ทเมนต์ คาดเป็นนศ.สาวคนไทย

ติดตามข่าวอื่นๆ ได้ที่ FB : Deeps News

เป็นข่าวสร้างความวิตกกังวลอย่างมากให้กับคนไทย เมื่อเพจเฟซบุ๊ก SiamTownUS ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน และรถพยาบาลฉุกเฉินได้มุ่งหน้าไปยัง Apartments 15th Avenue Northeast.,Seattle, WA 98105 หลังจากที่ผู้จัดการอพาร์ตเมนต์ได้โทรแจ้งหลังเข้าตรวจสอบห้องพัก ว่าพบศพผู้เสียชีวิตสองรายในอพาร์ทเมนต์

 

สยองข้ามทวีป ตร.สหรัฐเจอ 2 ศพถูกแทงเสียชีวิตในอพาร์ทเมนต์ คาดเป็นนศ.สาวคนไทย

ภาพจาก google maps

 

ทั้งนี้ หลังจากตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ได้พบศพหญิงสองรายเสียชีวิตในห้องพัก สภาพถูกแทงตามร่างกายอย่างสาหัส คาดว่าเป็นนักศึกษาหญิงไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่มีการระบุชื่อหรือสาเหตุของการเสียชีวิต อีกทั้งยังไม่มีข้อมูลของผู้ต้องหาและยังไม่มีการจับกุมใดๆ เกิดขึ้น

 

สยองข้ามทวีป ตร.สหรัฐเจอ 2 ศพถูกแทงเสียชีวิตในอพาร์ทเมนต์ คาดเป็นนศ.สาวคนไทย

 

สยองข้ามทวีป ตร.สหรัฐเจอ 2 ศพถูกแทงเสียชีวิตในอพาร์ทเมนต์ คาดเป็นนศ.สาวคนไทย

 

 

สำหรับอพาร์ทเมนต์ดังกล่าว ตั้งอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington) โดยส่วนใหญ่ผู้พักอาศัยจะเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย

 

สยองข้ามทวีป ตร.สหรัฐเจอ 2 ศพถูกแทงเสียชีวิตในอพาร์ทเมนต์ คาดเป็นนศ.สาวคนไทย

 

โดยรายงานข่าวยังระบุอีกว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (31 ส.ค.) มีนักศึกษาไทยโทรหาเพื่อนที่ไทยและเล่าว่า รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตนเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีการสรุปว่าเป็นนักศึกษารายเดียวกับหญิงสองรายที่เสียชีวิต ทั้งหมดต้องรอสรุปจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง.

 

สยองข้ามทวีป ตร.สหรัฐเจอ 2 ศพถูกแทงเสียชีวิตในอพาร์ทเมนต์ คาดเป็นนศ.สาวคนไทย

สยองข้ามทวีป ตร.สหรัฐเจอ 2 ศพถูกแทงเสียชีวิตในอพาร์ทเมนต์ คาดเป็นนศ.สาวคนไทย

 

สยองข้ามทวีป ตร.สหรัฐเจอ 2 ศพถูกแทงเสียชีวิตในอพาร์ทเมนต์ คาดเป็นนศ.สาวคนไทย

 

The Seattle Times รายงานข่าว (ภาษาอังกฤษ)

 

สยองข้ามทวีป ตร.สหรัฐเจอ 2 ศพถูกแทงเสียชีวิตในอพาร์ทเมนต์ คาดเป็นนศ.สาวคนไทย

สยองข้ามทวีป ตร.สหรัฐเจอ 2 ศพถูกแทงเสียชีวิตในอพาร์ทเมนต์ คาดเป็นนศ.สาวคนไทย

สยองข้ามทวีป ตร.สหรัฐเจอ 2 ศพถูกแทงเสียชีวิตในอพาร์ทเมนต์ คาดเป็นนศ.สาวคนไทย

 

(ชมคลิปวิดีโอที่นี่ คลิก)

 

 

ขอบคุณ เพจเฟซบุ๊ก SiamTownUs ,The Seattle Times