นายกตู่ ตื่นเต้น ได้กลับมาบ้านเก่า ย้ำ ทหาร ไม่ใช่ ศัตรูของประชาชน

นายกตู่ ลั่น ประชาชนจะเกลียดก็เกลียดไป ยิ่งเกลียดก็จะรักให้มากขึ้น ปัด! ช่วยพยุงราคาข้าว ที่ผ่านมารัฐบาลแบกใช้หนี้มา 4 ปีแล้ว

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ จ.ลพบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่พบปะประชาชน โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า มาครั้งนี้รู้สึกอบอุ่นใจ ซึ่งลพบุรีเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เป็นดินแดนแห่งราชธานีแห่งที่ 2 ของไทย และตนเองเป็นคนลพบุรี เกิดที่โคราชแต่มาโตที่ลพบุรี เพราะพ่อมาเป็นทหารที่นี่ วันนี้ตื่นเต้นกลับมาบ้านเก่า แต่เมื่อเป็นรัฐบาลไม่สามารถทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง ทำเพื่อคนลพบุรี หรือคนโคราชอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องทำให้ทุกจังหวัด

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวต่ออีกว่า ขณะเดียวกันลพบุรีถือเป็นดินแดนแห่งวัฒนธรรม ดินแดนที่สงบสุข เป็นพื้นที่ปลอดภัยจากภัยสงครามตั้งแต่อดีต เป็นที่ตั้งของกองกำลังทหาร ทั้งนี้ ย้ำว่าทหารไม่ใช่ศัตรูของประชาชน ตนเป็นทหารมา 40 ปี ไม่เคยคิดเป็นศัตรูกับประชาชนเลย ซึ่งทหารมีคติพจน์ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน มีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ปกป้องอธิปไตยและรักษาความมั่นคงภายใน ดังนั้น จำเป็นที่ต้องมีทหาร อย่าเชื่อหากใครบอกไม่ต้องมีทหารแล้วก็ได้ เพราะในยามที่ไม่มีการสู้รบ ก็ต้องมีทหารเพื่อสร้างความเข้มแข็ง

"ที่ผ่านมาประเทศไทยติดกับดักประชาธิปไตยและกับดักรายได้ปานกลางทำให้ไปไหนไม่ได้ เสียเวลามากว่า 10 ปีที่มีขัดแย้ง ทุกรัฐบาลติดขัดไปหมด รัฐบาลนี้จึงต้องไปทุกที่ทุกตารางนิ้ว ไม่ว่าที่ไหนจะชอบหรือไม่ แม้จะเกลียดก็จะไป ก็จะมาให้เกลียด ไม่ได้มาให้รัก หากจะเกลียดก็เป็นเรื่องของประชาชน ยิ่งเกลียดก็จะรักให้มากขึ้น และที่เขายังไม่รักเพราะอะไร เราไม่ได้ทำอะไรให้ หรือยังไม่เป็นธรรม อย่าเลือกที่รัก มักที่ชัง ทุกรัฐบาลต้องคิดแบบนี้ ไม่ใช่นำพาไปพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ขณะที่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ขอย้ำตนไม่ได้อยู่ถึงวันนั้น ทุกอย่างอยู่ที่การเลือกตั้ง และการวางยุทธศาสตร์ก็ทำเป็น กฎหมายควบคู่กับรัฐธรรมนูญที่ต้องเดินไปตามนี้ ส่วนใครจะล้มอีกก็ช่วยไม่ได้แล้วเพราะปล่อยให้ทำกันเอง"  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
 

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินชมนิทรรศการของทางจังหวัด และเมื่อมาเดินมาถึงจุดการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้มีรายได้น้อย นายกฯถามว่า อยากให้ช่วยอะไรไหม ชาวบ้านตอบว่า อยากให้ช่วยพยุงราคาข้าว นายกฯจึงกล่าวว่า "จะพยุงได้อย่างไร เพราะตอนนี้รัฐบาลยังใช้หนี้ 5 แสนล้านบาท ให้กับโครงการรับจำนำข้าว และข้าวต้องมีราคากลาง จะให้ 15,000 บาท ทุกประเภทไม่ได้ อย่าให้ใครมาบอกว่าจะให้ราคาข้าว 15,000 ถึง 20,000 บาท มันผิดกฎหมาย ที่ผ่านมารัฐบาลต้องแบกให้เท่าไร ใช้หนี้มา 4 ปีแล้ว จากที่ผลาญมาจากรอบที่แล้ว"

หลังจากนั้นนายกฯ จึงไปรับประทานอาหาร เป็นข้าวน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาร้า ขนมจีนน้ำยา โดยบอกว่า อร่อยมาก พร้อมทั้งขอซื้อกลับบ้านทั้งหมด ก่อนจะชิมน้ำมะนาวสดและข้าวหมาก

เสร็จแล้วนายกฯจึงไปสักการะสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยอธิบดีกรมศิลปากรได้มอบรูปหล่อจำลองสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและหนังสือนำชมพระนารายณ์ราชนิเวศ ให้แก่นายกรัฐมนตรี ก่อนเยี่ยมชมโครงการบำรุงรักษาและอนุรักษ์ต้นจัน อายุ 300 ปี