สรุปข่าวเด่นรอบวัน 7 ก.ย. 2561

กลับมาพบกับการสรุปข่าวเด่นรอบวัน ประจำวันศุกร์ ที่ 7 ก.ย. 2561 กันอีกแล้ว ในวันนี้ มีหลายประเด็นที่น่าสนใจเช่นเคยซึ่งสำนักข่าวทีนิวส์ได้รวบรวมมา 5 ประเด็นหลักใหญ่ด้วยกันดังนี้  

 

กลับมาพบกับการสรุปข่าวเด่นรอบวัน ประจำวันศุกร์ ที่ 7 ก.ย. 2561 กันอีกแล้ว ในวันนี้ มีหลายประเด็นที่น่าสนใจเช่นเคยซึ่งสำนักข่าวทีนิวส์ได้รวบรวมมา 5 ประเด็นหลักใหญ่ด้วยกันดังนี้
 

 

สรุปข่าวเด่นรอบวัน 7 ก.ย. 2561

 

สรุปข่าวเด่นรอบวัน 7 ก.ย. 2561


      ข่าวแรกกันที่กรณีของเบนซ์ เรซซิ่ง หรือนายอัครกิตต์ วรโรจน์เจริญเดช ที่ในวันนี้ (7 ก.ย. 2561) ช่วงเวลา 09.00น. ที่ห้องพิจารณา 9907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาคดีอัยการสั่งฟ้อง เบนซ์ เรซซิ่ง พร้อมด้วยผู้กระทำผิดอีก 2 คน คือนายสรรเสริญ รสานนท์ หรือนายเน็ต และน.ส.อังสุพร อินา หรืออุ้ม ในข้อหาสมคบคิดฟอกเงินทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 

 

     โดยศาลพิพากษาให้เบนซ์ เรซซิ่ง ต้องโทษจำคุก 8 ปี ทั้งนี้ได้ยกฟ้องคดีสนับสนุนค้ายาเสพติดทิ้งไป ด้านของ นายสรรเสริญ รสานนท์ และ น.ส.อังสุพร อินา ได้ถูกศาลพิพากษาให้จำคุก 24 ปี ปรับคนละ 400,000 บาท ฐานความผิดสมคบฟอกเงินและสนับสนุน นายณัฐพล หรือ บอย นาคคำ รับเงินยาเสพติดมาพักไว้ก่อนเข้าบัญชี อันเป็นการทำผิด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ในตอนนี้ทางฝั่ง เบนซ์ เรซซิ่ง เตรียมยื่นหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวต่อไป ด้านแพท ณปภา ภรรยาของเบนซ์  เรซซิ่ง  เดินทางมาเยี่ยมภายหลังการพิจารณาคดีเสร็จแล้ว

 

      ในตอนนี้หลังจากทางครอบครัวของเบนซ์ เรซซิ่ง ยื่นขอประกันตัวเบนซ์ ศาลได้พิจารณาแล้วให้ตีหลักทรัพย์ประกันตัวเป็นเงิน 1 ล้านบาทพร้อมกำหนดให้ติดกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ (กำไล EM) กับเบนซ์เลยด้วย และห้ามมิให้เบนซ์ เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล โดยจะมีการปล่อยตัวเบนซ์ ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ย่านคลองเปรม ภายในวันนี้ (7 ก.ย.) เวลาประมาณ 20.00 น. ส่วนนายสรรเสริญกับ น.ส.อังสุพร จำเลยที่ 2-3 นั้น ไม่ได้มีการยื่นประกันตัวเข้ามา ต้องถูกคุมขังรับโทษตามคำพิพากษาต่อไป

 

 

 

สรุปข่าวเด่นรอบวัน 7 ก.ย. 2561

 

      ถัดมากับข่าวที่สองกับกรณีเรื่องราวของนายธนวรรธน์ คำแหงพล หรือพีท พ่อค้าลอตเตอรี่ 90 ล้าน ที่ล่าสุดเพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมของทนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2561 ระบุว่า  “เคสที่บอกขายหวยถูก 90 ล้าน อาจโอละพ่อไม่จริงชมรมขอท้าพิสูจน์มั่นใจว่าหวังผลบางอย่างจึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน” จึงทำให้หลายคนสงสัยว่าเรื่องที่ทนายอัจฉริยะโพสต์นั้นเป็นความจริงหรือไม่ จนมีผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันล้นหลาม

 

      ล่าสุดนายธนวรรธน์ ได้ออกมาโชว์หลักฐานต้นขั้วสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยเป็นภาพของพ่อค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมระบุว่าตนขายสลากมูลค่า 90 ล้านบาท จริงด้านข้อมูลของทางกองสลากนั้น มีจำนวนสลากรางวัลที่ 1 อยู่ 90 ใบ ขึ้นรางวัลไปแล้ว 85 ใบ เท่ากับว่ายังไม่ได้มีสลากนำไปขึ้นรางวัลอีกเพียง 5 ใบเท่านั้น แต่ทางกองสลากไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องตามลุ้นว่าสลากอีก 5 ใบ จะมีของพ่อค้าลอตเตอรี่คนซื่ออยู่หรือไม่

 

สรุปข่าวเด่นรอบวัน 7 ก.ย. 2561

 

     ต่อมากับข่าวที่สามกับความคืบหน้าผลชันสูตร 2 นักศึกษาไทยเสียชีวิตต่างแดน ล่าสุดวันที่ 7 ก.ย. 2561 ทางเว็บไซต์ซีแอตเทิลไทมส์ ได้รายงานสรุปผลชันสูตรของ น.ส.กรกมล หลีนวรัตน์ หรือ แอ๋ม วัย 25 ปี และ น.ส.ฐิฎิอร โชติช่วงทรัพย์ หรือ อร วัย 32 ปี รูมเมต ที่อพาร์ตเมนต์มอลลอย เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา โดยเจ้าหน้าที่ได้สรุปว่า น.ส.ฐิฎิอร โชติช่วงทรัพย์ เป็นผู้ลงมือสังหาร น.ส.กรกมล จากนั้นจึงใช้มีดแทงเข้าหน้าอกตัวเองจนเสียชีวิตตามไปด้วย ด้านครอบครัว น.ส.กรกมล จะเดินทางไปซีแอตเทิล วันศุกร์ที่ 7 ก.ย.นี้ เพื่อรับศพกลับมาทำพิธีที่ประเทศไทย ต่อไป

 

 

 

สรุปข่าวเด่นรอบวัน 7 ก.ย. 2561

 

      สำหรับข่าวที่สี่กับกรณีของไฮโซสาว จมน้ำดับคารถภายในอุโมงค์ ล่าสุดวันที่ 7 ก.ย. 2561 ญาติเดินทางไปรับศพของ น.ส.ภานุมาศ แซ่แต้ วัย 41 ปี ไฮโซสาว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออพติโม (ประเทศไทย) จำกัด นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เสียชีวิตอยู่ภายในอุโมงค์ทางลอดรถไฟ ก่อนถึงหมู่บ้านโกลเด้นนครา ขณะกำลังกลับบ้านแต่เกิดเหตุสลดเสียก่อน ยังสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ โดยนายรุ่งสิทธิ์ เตชะวงศ์สกุล น้องชาย ของน.ส.ภานุมาศ เดินทางมารับศพ เพื่อนำไปสวดบำเพ็ญกุศลที่วัดกระทุ่มเสือปลา แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. ก่อนจะนำไปฝังที่สุสานบริษัท เนอร์วาน่า เมมโมเรียล ปาร์ค จำกัด อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ต่อไป ส่วนผลชันสูตรของแพทย์ ระบุว่า น.ส.ภานุมาศ ขาดอากาศหายใจเนื่องจากสำลักน้ำจนทำให้มีของเหลวไหลเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป

 

สรุปข่าวเด่นรอบวัน 7 ก.ย. 2561

 

      เดินทางมาถึงข่าวสุดท้ายกับพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน ฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 07 กันยายน 2561 ในช่วงวันที่ 7-10 กันยายน 2561 บริเวณประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะแรก กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มไว้ด้วย

 

     ทั้งนี้เนื่องจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ทำให้ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง

 

สำหรับพื้นที่ที่คาดว่ามีผลกระทบตามภาคต่าง ๆ มีดังนี้

วันที่ 7 กันยายน 2561 ภาคเหนือ บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดเลย , หนองบัวลำภู , อุดรธานี  , หนองคาย , บึงกาฬ , นครพนม และสกลนคร

ในช่วงวันที่ 8-9 กันยายน 2561 ภาคเหนือ บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน , เชียงใหม่ , เชียงราย , ลำพูน , ลำปาง , พะเยา , แพร่ , น่าน , อุตรดิตถ์ , พิษณุโลก , เพชรบูรณ์ , พิจิตร , กำแพงเพชร , สุโขทัย และตาก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดเลย , หนองบัวลำภู , อุดรธานี ,  หนองคาย , บึงกาฬ , นครพนม , สกลนคร  , มุกดาหาร , กาฬสินธุ์ , มหาสารคาม , ขอนแก่น , ชัยภูมิ  , นครราชสีมา , บุรีรัมย์ , สุรินทร์ , ร้อยเอ็ด , ยโสธร , อำนาจเจริญ , อุบลราชธานี และศรีสะเกษ

ภาคกลาง บริเวณจังหวัดราชบุรี , กาญจนบุรี , อุทัยธานี  , ชัยนาท , นครสวรรค์ ,  สิงห์บุรี , อ่างทอง , ลพบุรี , สระบุรี , พระนครศรีอยุธยา , นครปฐม , สุพรรณบุรี , สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา , นครนายก , ปราจีนบุรี , สระแก้ว , ชลบุรี , ระยอง , จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ บริเวณจังหวัดเพชรบุรี , ประจวบคีรีขันธ์ , ชุมพร , สุราษฎร์ธานี , ระนอง , พังงา และภูเก็ต

วันที่ 10 กันยายน 2561

ภาคเหนือ บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน  , เชียงใหม่  ,  ลำพูน  ,  ลำปาง  , สุโขทัย  ,  พิษณุโลก  ,  เพชรบูรณ์  , พิจิตร  , กำแพงเพชร และตาก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดชัยภูมิ  , นครราชสีมา  , บุรีรัมย์  ,  สุรินทร์ ,  ศรีสะเกษ  ,  อุบลราชธานี , อำนาจเจริญ  ,  ยโสธร  , ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม

ภาคกลาง บริเวณจังหวัดราชบุรี  ,  กาญจนบุรี  ,  อุทัยธานี  ,  ชัยนาท  ,  นครสวรรค์  , สิงห์บุรี  , อ่างทอง  , ลพบุรี  ,  สระบุรี , พระนครศรีอยุธยา  , นครปฐม  , สุพรรณบุรี  , สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา  ,  นครนายก  ,  ปราจีนบุรี  ,  สระแก้ว  , ชลบุรี  , ระยอง  , จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ บริเวณจังหวัดเพชรบุรี  ,  ประจวบคีรีขันธ์  , ชุมพร ,  สุราษฎร์ธานี ,  ระนอง  ,  พังงา และภูเก็ต

 

 

สรุปข่าวเด่นประจำวันขอจบไว้เพียงเท่านี้ สำหรับพรุ่งนี้จะมีประเด็นใดน่าสนใจก็ต้องติดตามกันต่อไป