สุขชีวิตคือความพอเพียง มหาเศรษฐี "แจ๊ค หม่า" เตรียมฉลองวันเกิด ประกาศลาออกปธ.อาลีบาบา หันหน้าทุ่มเทงานกุศลด้านการศึกษาเต็มตัว

กลายเป็นประเด็นที่หลายคนต่างตกใจกันไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ส ได้เปิดเผยว่า นายแจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทอาลีบาบา อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน หนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นลำดับต้นๆ ของโลก จะทิ้งเก้าอี้ประธานกรรมการบริษัทในวันที่ 10 กันยายนนี้ อีกทั้งเป็นวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 54 ของเขาพอดี เพื่อหันไปทำงานด้านการกุศลเกี่ยวกับการศึกษา โดยเขาจะยังคงนั่งอยู่ในคณะกรรมการบริหารของบริษัทต่อไป

 

 

 

 

 

โดย แจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทอาลีบาบา อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน เผยว่า การเกษียณของเขานั้นไม่ใช่ตอนจบของศักราช แต่เป็นการเริ่มต้นของศักราชใหม่ ซึ่งเขาจะได้ใช้เวลาทุ่มเทให้กับการศึกษา เป็นเรื่องที่เขารัก

 

ก่อนหน้านี้แจ็ก หม่า ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า เขาต้องการจะจัดตั้งมูลนิธิของตนเอง เพื่อเดินตามรอยนายบิล เกตส์ เนื่องจากเขาได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเกตส์ สิ่งที่เขาตั้งใจคือจะเกษียณให้เร็วที่สุด และจะกลับไปสอนหนังสือ ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ตนเองทำได้ดีกว่าเป็นซีอีโอของอาลีบาบา

 

 

สำหรับ แจ๊ค หม่า เคยเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษมาก่อน กระทั่ง ในปี 1995 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เปิดโลกใหม่ของ แจ็ค หม่า ให้ได้รู้จักกับอินเทอร์เน็ต จนเป็นไอเดียจุดประกายให้เขามองเห็นโอกาสทางธุรกิจ และเดินทางกลับมาที่ประเทศจีน เขาจึงตัดสินใจลองทำธุรกิจเป็นครั้งแรก ด้วยการรวบรวมเงินจากกลุ่มเพื่อนมาได้ราว 6 แสนบาท ลงทุนร่วมกันเปิดเว็บไซต์ที่ชื่อว่า "China Yellow Pages" ขึ้นในเดือนเมษายน 1995 ที่มีคอนเซ็ปต์เป็นสมุดหน้าเหลืองออนไลน์ โดยการรวบรวมรายชื่อบริษัทและสินค้าต่าง ๆ ในจีน มาไว้ในเว็บไซต์ ได้รับผลตอบรับค่อนข้างดีในจีน เพราะเริ่มได้เพียง 3 ปี บริษัทก็ทำเงินได้กว่า 24 ล้านบาท โดยมีรัฐบาลเข้ามาเป็นหุ้นส่วนด้วย สุดท้าย แจ็ค หม่า ก็ตัดสินใจเดินออกมาจากบริษัทที่เขาเป็นผู้ก่อตั้ง ด้วยการขายหุ้นทั้งหมดให้รัฐบาลจีน 

 

ก่อนที่จะมาก่อตั้งบริษัทอาลีบาบาในปี 1999 ช่วงเริ่มต้นของอาลีบาบา อาจไม่ได้สวยงามเหมือน China Yellow Pages นัก เพราะเต็มไปด้วยอุปสรรคต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องของเงินทุน เพราะไม่ว่าจะเป็นธนาคารหรือเหล่านักลงทุน ต่างพากันมองว่า ธุรกิจนี้คงประสบความสำเร็จได้ยาก เพราะไม่มีใครเชื่อว่าอีคอมเมิร์ซในจีนจะเกิดขึ้นได้จริง แต่ด้วยความพยายามของ แจ็ค หม่า ทำให้ในปี 2000 อาลีบาบา ก็ได้รับเงินทุนจากต่างประเทศจำนวน 700 ล้านบาท จนเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้ธุรกิจเติบโตอย่างมาก จากนั้น แจ็ต หม่า ก็ได้พัฒนาบริษัทจนกลายเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของโลกที่มีมูลค่า 420,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่เจ้าตัวก็กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของจีนด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

 

อาลีบาบา เริ่มต้นด้วยการเป็นตลาดขายส่งออนไลน์สำหรับการค้าขายระหว่างบริษัท แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากจนกระทั่งเปิดตัว เถาเป่า เวบค้าปลีกออนไลน์ในปี 2003 ต่อมาไม่นานอาลีบาบาได้เปิดตัวระบบชำระเงินออนไลน์ อาลีเพย์ จนกลายเป็นสิ่งที่เปลี่ยนวิถีการจับจ่ายของชาวจีน นำเข้าสู่สังคมไร้เงินสดของจีนในปัจจุบัน โดย แจ็ค หม่า เคยเปรียบไว้ว่า "eBay เป็นเหมือนฉลามในมหาสมุทร แต่ Taobao เป็นจระเข้แห่งแม่น้ำแยงซี ดังนั้นเราจึงได้เปรียบอยู่แล้ว ถ้าสู้ในบ้านของตัวเอง"

 

 

 

 

 

ขอบคุณ The New York Times