ถอดวิธีการหยุดรัก คนที่เขาไม่รัก ตัดวงจร "รักต้องฆ่า"

ถอดวิธีการหยุดรัก คนที่เขาไม่รัก ตัดวงจร "รักต้องฆ่า"

ความรักที่ไม่สมหวัง หรือความรักที่ต้องแปรเปลี่ยนสถานะย่อมทำให้หลายคนเจ็บปวด แต่นั่นก็ไม่ใช่จุดชี้ชะตาชีวิตหากคุณมีสติมากพอ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเมื่อปัจจุบันการแก้ปัญหาความรักของคนในยุคนี้หลายคนเลือกที่จะใช้อารมณ์ และจบปัญหานั้นด้วย "ชีวิต" อย่างที่ได้เห็นตามหน้าสื่อโซเชียลต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นกรณีโศกนาฏกรรมของชายที่ตามง้อขอคืนดีฝ่ายหญิงซึ่งเป็นนักศึกษาแต่ไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจยุติความเจ็บปวดด้วยการลั่นไกยิงฝ่ายหญิงต่อหน้าเพื่อนสาวคาชุดนักศึกษา แล้วตนเองก็ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันปิดฉากชีวิตตัวเองตามกันไป แม้กระทั่งล่าสุดกับเหตุการณ์ฆาตกรรมไฮโซเชอรี่ที่ผู้ลงมือเป็นอดีตคนเคยรัก ให้การรับสารภาพว่าก่อนลงมือทั้งคู่ได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรงด่าไปถึงบุพการี นำมาซึ่งการต่อสู้ทำร้ายร่างกาย และฆ่าให้ตายในที่สุด

 

ใดๆ เหล่านี้ล้วนมีผลมาจากอารมณ์เป็นสำคัญ การยับยั้งระงับอารมณ์ชั่ววูบบกพร่อง การสูญเสียต่างๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรัก แต่หากเกิดจากความไม่สมหวัง ไม่ได้ดั่งที่ใจต้องการ การแก้ปัญหาของแต่ละคนจึงแตกต่างกันออกไปทั้งจากประสบการณ์ชีวิตทางบวกหรือทางลบ ปมในวัยเด็กที่อาจเคยหรือตกอยู่ในสถานการณ์ความรุนแรง การมีสารเสพติด มึนเมา หรือแอลกอฮอล์ในร่างกาย กระทั่งการเลือกเสพสื่อต่างๆ ก็มีผลต่อการแก้ปัญหาในสถานการณ์ยั้งคิดได้เช่นกัน

 

ความรู้สึกผิดหวัง เสียใจเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ที่ทุกคนต้องพบเจอแต่ถ้าเมื่อใดรู้สึกว่ามันส่งสัญญาณผิดปกติเช่นเริ่มมีปัญหากับการใช้ชีวิต การเรียน การทำงาน สุขภาพ เกิดความเครียดนอนไม่หลับ นับเป็นสัญญาณถึงความเศร้าควรรีบไปปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่

 

ถอดวิธีการหยุดรัก คนที่เขาไม่รัก ตัดวงจร "รักต้องฆ่า"

อย่างไรก็ตามในวันนี้สำนักข่าวทีนิวส์ได้รวบรวม "วิธีการหยุดรัก คนที่เขาไม่ได้รักคุณ" เพื่อดูแลจิตใจของคุณเองตัดวงจรการทำร้ายเพื่อแก้แค้นและลดฆาตกรหน้าใหม่ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

 

1. ความเจ็บปวดคือเรื่องธรรมดา 
การอกหัก คือ ความรู้สึกทางร่างกายที่แท้จริง และความเจ็บปวดจากการอกหักจะกระตุ้นระบบประสาทซึ่งจะเกี่ยวโยงกับอัตราการเต้นของหัวใจและการเกร็งของกล้ามเนื้อ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่คุณจะรู้สึกเจ็บปวด และเมื่อเข้าใจได้ว่ามันคือเรื่องปกติจะทำให้คุณจัดการกับมันได้ นักจิตวิทยาประเมินว่าประมาณ 98% ของมนุษย์เคยเจอการอกหัก การรู้ว่าเราไม่ใช่คนเดียวที่อกหักอาจไม่ได้ช่วยให้ความเจ็บปวดหายไป แต่มันจะง่ายต่อการทนเมื่อรู้ว่าคุณไม่ใช่คนเดียวที่ต้องเผชิญ

 

การอกหักอาจเป็นต้นเหตุของโรคซึมเศร้าได้ด้วยเช่นเดียวกันซึ่งหากคุณมีอาการเหล่านี้ ต้องรีบปรึกษาแพทย์ทางจิตในทันที
- การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรม กิน นอน
- มีความรู้สึกสิ้นหวัง หรือคิดว่าตัวเองไร้ประโยชน์
- มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่รุนแรง และชัดเจน
- เกิดความคิด ความรู้สึกที่อยากทำร้ายตัวเอง หรือทำร้ายคนที่ทำให้คุณเจ็บ

 

2. ปล่อยให้ตัวเองโศกเศร้า
ความเศร้าไม่ใช่เรื่องที่ผิดหากคุณเศร้าไม่นาน แท้จริงแล้วการปล่อยให้ตัวเองเศร้านั้นดีกว่าการเก็บซ่อนอารมณ์ การปฏิเสธหรือการกลั้นความรู้สึกเอาไว้ อย่างเช่นการคิด หรือการพูดที่ว่า "ไม่ใช่เรื่องใหญ่" "ไม่เคยรักเขาอยู่แล้ว" การปฏิเสธเหล่านี้อาจทำให้กลายเป็นเรื่องแย่ในระยะยาวได้

 

เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณเศร้า ก็ควรให้เวลาจัดการกับความเศร้า ใช้เวลาเยียวยาเมื่อคุณรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้รักคุณ ควรหาเวลาอยู่กับตัวเองแม้จะแค่การเดินเล่นในเวลาสั้นๆ สัก 15 นาที เพียงขอแค่คุณอย่าจมปลักอยู่กับความสิ้นหวังเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเริ่มปล่อยตัวไม่อาบน้ำใส่เสื้อผ้าเน่าๆ เป็นเวลานานนี่คือสัญญาณว่าคุณเริ่มมีอาการเศร้าหนักแล้ว ความเศร้าคือเรื่องธรรมชาติ แต่จะผิดธรรมชาติหากคุณไม่พยายามดึงตัวเองกลับมาตั้งต้นชีวิตใหม่

 

3. ต้องรู้ว่าตัวคุณ ไม่สามารถควบคุมใครได้
สิ่งเดียวในชีวิตที่คุณควบคุมได้ คือ การกระทำและปฏิกิริยาโต้ตอบของคุณ เพราะคุณไม่สามารถเกลี้ยกล่อม ทะเลาะ หรือบังคับให้ใครรู้สึกในสิ่งที่เขาไม่ต้องการได้ "ฉันจะทำให้เขารักฉัน" การคิดแบบนี้เป็นเรื่องปกติ แต่มันจะไม่ถูกต้องและไม่มีประโยชน์

 

หากคุณจำไว้เสมอว่าคุณไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ตลอดเวลาแต่ คุณสามารถฝึกควบคุมปฏิกิริยาที่มีต่อความรู้สึกได้ นั่นคือสิ่งที่ดี

 

4. ปลีกตัวออกห่างจากอีกฝ่ายหนึ่งสักพัก
การสร้างพื้นที่ส่วนตัวเพื่อระบายความเศร้าและเพื่อดำเนินชีวิตต่อไปคือการไม่มีอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ในชีวิต อาจจะไม่ต้องถึงขั้นตัดเขาออกไปจากชีวิตโดยสิ้นเชิงแต่แค่ต้องออกห่างจากกันสักพัก คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวโหดร้ายแค่ขอเวลาจากอีกฝ่ายเพื่อก้าวผ่านความรู้สึกที่กำลังถาโถม หนทางที่จะทำให้เหตุการณ์นิ่งขึ้นได้คือ การเลิกเป็นเพื่อนกับคนๆ นั้น ในสื่อโซเชียลทั้งหลายหรือไม่ก็ซ่อนโพสต์ของอีกฝ่าย ลบเบอร์ออกจากโทรศัพท์ 

 

5. ระบายอารมณ์กับตัวเอง
การระบายอารมณ์สามารถช่วยให้คุณยอมรับว่าคุณกำลังก้าวผ่านวิกฤติชีวิตซึ่งมันจะเป็นผลดีกว่าการเก็บสะสมไว้นานจนสุดท้ายเกิดระเบิดขึ้นมา ซึ่งอาจจะทำให้คุณตัดสินใจทำร้ายตัวเอง หรือใครบางคนได้ ในช่วงแรกของการสูญเสีย การผิดหวัง เราย่อมทำใจยอมรับได้ลำบากแต่ขอเพียงแค่คุณอย่าดูหมิ่นตัวเองหรือพยายามละเลยเวลาที่รู้สึกโดยคิดแค่ว่าเดี๋ยวมันคงหายไป เพราะสิ่งที่คุณควรทำคือการระบายมันออกมาอย่างเปิดเผยและจริงใจ

 

หากอยากร้องไห้ก็จงร้องไห้ออกมา เพราะการร้องไห้สามารถช่วยบำบัดและลดความรู้สึกวิตกกังวล ความโกรธและความเครียดของร่างกายได้ แต่สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือการกระทำรุนแรง เช่น การกรีดร้อง การตะโกนชกต่อยหรือทำลายข้าวของ การกระทำแบบนี้อาจรู้สึกดีในช่วงแรกๆ แต่งานวิจัยแนะนำว่าการใช้ความรุนแรงเพื่อระบายความโกรธนั้นสามารถเพิ่มความโกรธขึ้นได้ ถึงแม้จะเป็นการกระทำต่อวัตถุที่ไร้ชีวิตก็ตาม การระบายอารมณ์ผ่านงานอดิเรกที่สร้างสรรค์ถือเป็นเรื่องที่ดี เช่น ดนตรี ศิลปะหรืองานอดิเรก แต่ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เศร้าหรืออารมณ์รุนแรงขึ้นมาได้อีก อย่างเช่นดนตรีแนวฮาร์ดคอร์ที่มีเนื้อหารุนแรง การแก้แค้น

 

ถอดวิธีการหยุดรัก คนที่เขาไม่รัก ตัดวงจร "รักต้องฆ่า"

6. ระลึกไว้ว่า ดีแล้วที่คุณเลิกกัน
ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าคนๆ นั้นดีแค่ไหนเพราะหากเขาไม่ได้รักคุณ คุณก็ไม่สามารถมีความสุขกับคนๆ นั้นได้ การถอยมาเพื่อพิจารณาความจริงโดยไม่ใช่การเข้าข้างหรืออคติใดๆ สามารถช่วยคุณให้ออกห่างจากความรู้สึกของรักที่ไม่มีประโยชน์และความเศร้าได้ 

 

จากงานวิจัยแนะนำว่าการรับรู้ข้อเสียของอีกฝ่ายสามารถช่วยให้คุณก้าวผ่านการอกหักได้เร็วขึ้น

 

7. หลีกเลี่ยงการกล่าวโทษ
คุณสามารถรู้สึกเสียใจที่อีกฝ่ายไม่รักคุณโดยไม่ต้องกล่าวโทษเขา แต่สิ่งที่ต้องระวังคืออย่าให้เพื่อนของคุณโทษเขาด้วย เพราะเพื่อนอาจจะพยายามทำให้เขาดูไม่ดีในสายตาคุณ ต้องเข้าใจว่าคุณไม่สามารถควบคุมการตกหลุมรักใครได้ พอๆ กับที่อีกฝ่ายก็ไม่สามารถควบคุมการตกหลุมรักคุณได้เช่นกัน

 

8. หลีกเลี่ยงการดื่มจนเมา หรือเสพสารเสพติด
เป็นเรื่องปกติที่คุณอาจรู้สึกอยากจะติดต่ออีกฝ่ายโดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ซึ่งสติการยับยั้งชั่งใจในช่วงเวลาปกติของคุณอาจจะทำได้แต่หากคุณดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเสพสิ่งเสพติดเข้าไปจะทำให้คุณสูญเสียการตัดสินใจที่ดี และอาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาดร้ายแรงตามมาได้อีกด้วย

 

9. เบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง 
การหมกมุ่นอยู่กับเรื่องหรือปัญหาย่อมไม่ใช่ทางออกที่ดี การเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองด้วยกิจกรรมหรืองานอื่นๆ ทุกครั้งที่มีความทรงจำในหัวผุดขึ้นมาเป็นสิ่งที่ควรกระทำ การหาหนังสือที่ชอบมาอ่าน ดูภาพยนตร์ตลก สร้างสรรค์ ออกไปหาแรงบันดาลใจและพลังจากสถานที่ต่างๆ เพื่อผ่อนคลาย ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญที่ควรทำ

 

10. มองว่าสิ่งนี้คือประสบการณ์ชีวิต
หากคุณตีกรอบการอกหักครั้งนี้ให้เป็นประสบการณ์ชีวิตเพื่อเรียนรู้และเติบโตจากมัน มันจะเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาเศร้าช่วงหนึ่งของชีวิต แล้วเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป ให้ถือโอกาสนี้ใช้มันเพื่อกระตุ้นให้เติบโตในแง่บวกของอนาคตคุณเองจะดีกว่า

 

หากเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้ว่าตัวเองเสียใจหรือผิดหวัง อันดับแรกต้องบอกตัวเองให้ได้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติอย่างหนึ่งของมนุษย์ เพราะเมื่อความเศร้าเสียใจมันเกิดขึ้น บางคนอาจมองว่าเป็นบทเรียนแล้วก็ใช้ชีวิตให้ดีขึ้น แต่ถ้าเริ่มรู้สึกว่ามันรบกวนชีวิตทำให้เสียงานหรือมีปัญหาสุขภาพ ต้องรีบหาคนที่ไว้ใจเพื่อปรึกษาและพูดคุย หรือสามารถปรึกษาสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323 ได้ 

 

อย่าให้ความเสียใจ หรือผิดหวังจากใครคนใดคนหนึ่งมาทำลายทั้งชีวิตของเรา และพึงระลึกไว้เสมอว่าเราก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำลายหรือพรากชีวิตใครเช่นเดียวกัน

 

ถอดวิธีการหยุดรัก คนที่เขาไม่รัก ตัดวงจร "รักต้องฆ่า"

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วน : th.wikihow.com