อาลัย โอ วรุฒ วรธรรม เปิดประวัติ-ผลงานจากพระเอก "คู่กรรม" สู่ วันสิ้นลม

 

    กลายเป็นอีกหนึ่งความเศร้าสลดที่เกิดขึ้นในวงการบันเทิง กับการจากไปอย่างสงบของอดีตพระเอกชื่อดัง โอ วรุฒ วรธรรม ภายหลังเข้ารับการรักษาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 9 ก.ย. 2561ด้วยภาวะช็อคอย่างกะทันหัน แม้ว่าแพทย์จะพยายามยื้อชีวิตอย่างสุดความสามารถแต่ก็หนีไม่พ้นสัจธรรมของโลกนี้ไปได้ โอ วรุฒ วรธรรม เสียชีวิตวันที่ 11 ก.ย. 2561 เวลา 2.40 น. ในวัย 48 ปี

 

    ในระยะหลังถึงแม้ว่า โอ วรุฒ จะหายหน้าหายตาจากวงการไปบ้างอาจเพราะด้วยปัญหาทางสุขภาพ และกระแสความนิยมของอดีตพระเอกที่จางหายไปตามกาลเวลา จากคลื่นลูกใหม่ในวงการที่มีมาอย่างไม่ขาดสาย หากแต่หลากหลายผลงานในอดีตของชายผู้นี้ที่ได้ฝากไว้ในเส้นทางสายบันเทิงก็ยังคงเป็นที่ติดตาตรึงใจ ด้วยการมอบรอยยิ้มและความสุขให้แก่แฟนคลับมาโดยตลอด
 

    สำนักข่าวทีนิวส์ขอแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของ โอ วรุฒ วรธรรม ด้วยการรวบรวมประวัติมาให้ท่านได้รับชมกันอีกครั้ง เพื่อที่ทุกท่านจะได้ไม่หลงลืมพระเอกผู้นี้และเก็บผลงานของเขาให้อยู่ในความทรงจำต่อไป
 
    วรุฒ วรธรรม หรือ โอ เกิดเมื่อวันที่ 17 ก.ย.  2512 เป็นนักแสดงชายชาวไทยที่มีชื่อเสียงในยุค 90 เป็นบุตรชายของนักแสดงอาวุโส แรม วรธรรม และเป็นหลานตา ร้อยโทหม่อมหลวงพร้อม กุญชร จบการศึกษาจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนแล้วไปเรียนต่อด้านการบินที่ประเทศอังกฤษ

 

 

 

    โอ เริ่มก้าวสู่ถนนสายบันเทิงจากการชักชวนของ คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ในปี 2561 ผลงานชิ้นแรกของเขาจากภาพยนตร์เรื่อง "คู่กรรม"  ก็ได้ปรากฏขึ้นบนจอเงิน ในบทพระเอก "โกโบริ" แสดงคู่กับ จินตหรา สุขพัฒน์ที่รับบทพระนาง "อังศุมาลิน" และด้วยหน้าตาของโอที่เรียกได้ว่ามีความหล่อเหลาจนโดดเด่นเกินหน้าเกินตาดาราหลายคนในยุคนั้น ราวกับเดินออกมาจากนวนิยายส่งผลให้เขาแจ้งเกิดได้ในที่สุด แน่นอนว่าหากจะเปรียบเปรยว่ายุคนั้นคือยุคทองของ โอ ก็คงจะไม่เป็นคำกล่าวที่เกินจริงไปนัก

 

 

 

    เพราะมีข่าวถึงขนาดที่ว่าเหล่าผู้ชมที่เข้าไปชมภาพยนต์เรื่องนี้ ถึงกับอดใจไม่ไหวต้องถ่ายรูปโอ จากบนหน้าจอโรงภาพยนต์มาเก็บไว้ อีกทั้งโปสเตอร์ภาพยนต์เรื่อง "คู่กรรม" ที่เขาแสดงยังถูกกวาดไปจนเรียบอีกด้วย ก่อนที่จะเข้าสู่จอแก้ว โดยเล่น ละครโทรทัศน์อีกหลายเรื่อง อาทิ  ละอองดาว พี่เลี้ยง ในฝัน ฯลฯ

 

    นอกจากนี้ยังรับบทบาทเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์อีกหลายรายการด้วยกัน อาทิ กรุสมบัติ ลุ้นแล้วรวย เกมนักชิม สะบัดช่อ ดาราพาตะลุย โอโน่โชว์ เป็นต้น โดยเฉพาะรายการ "โอโน่โชว์" ที่รับบทเป็นพิธีกรคู่กับ เมทนี บุรณศิริ เป็นรายการที่มีเอกลักษณ์ในการใช้มุกตลกหยาบคายจนต้องมีการเซ็นเซอร์มุกตลกในรายการอยู่บ่อยครั้ง เมื่อช่วงวันที่ 27 และ 28 ธันวาคม 2546 เขาได้จัดคอนเสิร์ต โอโน่โชว์ uncensored ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อตอบสนองผู้ชมที่ต้องการชมมุขตลกแบบไม่มีเซนเซอร์ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นภาพจำที่หลายๆ คนมีต่อ โอ ทั้งสิ้น 

 

    นอกจากนี้ด้วยกิตติศัพท์ที่รับรู้โดยทั่วกันว่าโอ มักมางานแสดงหรือรายการต่างๆ สายอยู่เสมอจนมีการตั้งฉายาให้เขาในเวลาต่อมาว่า  "เจ้าชายสายเสมอ" และยังสร้างวีรกรรมกับเพื่อนพระเอกรุ่นเดียวกัน เช่น แซมยุรนันท์ ด้วยการพังข้าวของในโรงแรมแห่งหนึ่ง จนทางโรงแรมต้องปิดป้ายประกาศห้ามเข้า
 

    ชีวิตรักและครอบครัวของโอเคยสมรสกับนางสาวพิชชภา หรือเก๋ ที่ได้พบรักกันเมื่อครั้งที่ โอ ป่วย โดยทั้งคู่มีอายุห่างกันถึง 17 ปี ที่ถึงแม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ก็มีพยานรักด้วยกัน 1 คน คือ อาณาจักร วรธรรม หรือน้อง แอร์บัส แต่ปัจจุบันโอและนางสาวพิชชภา ได้แยกทางกันแล้ว โดยอดีตภรรยาได้ระบุสาเหตุถึงรอยร้าวในครั้งนั้นว่า โอ ได้พาผู้หญิงคนอื่นมาที่บ้าน และมีปฏิสัมพันธ์เชิงชู้สาว ครั้งหนึ่งในปี 2533 โอเคยออกมาเปิดเผยว่า ตนมีบุตรชายคนโต ที่เกิดจากภรรยาคนแรกอีกหนึ่งคน อยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ชื่อ "เอ้ก"

 

 

 

    ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไม่จีรังเมื่องานแสดงของเขาเริ่มน้อยลง เนื่องจากติดสุราอย่างหนัก ทำให้ต้องเข้ารับการบำบัดรักษาอย่างจริงจัง ครั้งหนึ่งโอได้กล่าวถึงชีวิตในอดีตว่า เคยเป็นเจ้าของ รถยนต์ยี่ห้อ Nissan Stanza ปี 1978 เคยซื้อเรือยอชท์ราคาเกือบสิบล้าน มีบาร์เหล้าที่บ้าน และเที่ยวผับเดอะพาเลซเป็นประจำ จากเส้นทางสายบันเทิงกลายเป็นเส้นทางสายอบาย เพราะครั้งนึงเขาเคยถึงขนาดที่ว่า สมัครเป็นสมาชิกเที่ยวโคโยตี้ และเคยจ่ายเงินในการเที่ยวกลางคืนครั้งนึงเกือบหนึ่งแสนบาท หลังจากนั้นเขาตกงานเพราะประธานบริษัทไม่พอใจที่เขามีอาการติดสุราขณะทำงาน จึงออกมาทำธุรกิจสุรากับเพื่อน แต่ราวกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเขากลับถูกเพื่อนโกงทรัพย์สินจากการขายสุราเป็นจำนวนหลายล้านบาท และถูกโกงจากการจำนองบ้านทำให้เขาแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ซ้ำร้ายยังพบว่าตัวเองเป็นโรคเบาหวานโดยที่ตนไม่เคยทราบมาก่อน และเคยมีอาการวูบจนหมดสติมาหลายครั้ง

 

    ในปี 2558 หลังจากที่เขาคิดกลับตัวกลับใจ โอได้เข้าพิธีบวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อได้ลาสิกขา เขาได้รับโอกาสอีกครั้งจากบทดารารับเชิญในละครทำให้เขาพอมีรายได้มาเลี้ยงดูตัวเองบ้าง โอได้ลุกขึ้นมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งด้วยการลงทุนทำอาชีพเสริมเปิดธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มที่บ้านชื่อร้าน "บ้านวรุฒ" และบริการลูกค้าด้วยตัวเอง ทั้งแฟนคลับ คนสนิทและเพื่อนใกล้เรือนเคียง ต่างแวะเวียนมาให้กำลังใจ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเพราะเขาได้เผยว่ากิจการของเขานั้นขาดทุนมาโดยตลอด

 

 

 

 

    ถึงแม้ว่าโอจะเลิกสุราได้อย่างเด็ดขาดมาครึ่งปี เนื่องจากมีอาการมือสั่นอันเกิดจากโรคพิษสุราเรื้อรัง จากการติดสุรามานานกว่า 30 ปี  แต่แล้วในวันที่ 9 ก.ย. 2561 โอ เกิดอาการชักหมดสติ และหยุดหายใจ จนต้องถูกนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

    การจากไปของโอ วรุฒ วรธรรม ยังเป็นอุทาหรณ์ที่หลายคนควรนำมาเป็นกรณีศึกษาของชีวิตชายผู้หนึ่งที่เคยประสบความสำเร็จในชีวิต แต่กลับต้องพังทลายลงเพราะโรคพิษสุราเรื้อรัง เพื่อไม่ให้คนรุ่นหลังเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ถึงแม้ว่าโอจะไม่ใช่มนุษย์ที่มีความสมบูรณ์แบบ จากความล้มเหลวในการใช้ชีวิตนอกจอโทรทัศน์ แต่อย่างไรแล้วบทบาทและความสามารถของเขาที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง ย่อมอยู่ในความทรงจำของแฟนคลับทุกคนอย่างไม่เสื่อมคลาย