คนจริงไม่มีหนี เปิดภาพล่าสุด "พุทธะอิสระ" ขึ้นศาลไต่สวนคดีทำร้ายตร.

จากกรณีที่นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อายุ 59 ปี หรืออดีตพระพุทธอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร หลังจากทางทนายได้ยื่นหลักทรัพย์ จำนวน 2 แสนบาทให้ศาลพิจารณาให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยที่ได้กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ในคดีทำร้ายร่างกาย และหน่วงเหนี่ยวกักขังเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ซึ่งเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา อดีตพระพุทธะอิสระไม่ไปศาลเพื่อสอบปากคำคดีทำร้ายตำรวจสันติบาล โดยอ้างว่าตนเองป่วย ตามที่ได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น 


ต่อมาในเฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)ได้อัพเดทความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการป่วยของอดีตพระพุทธอิสระ พบว่าจอประสาทตาแหว่งเป็นหลุมจวนเจียนจะขาดและมีแนวโน้มว่าหลุมจะกว้างมากขึ้น เพื่อหยุดยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจอประสาทตาจึงแนะนำให้รักษาโดยการผ่าตัดจอประสาทตาข้างขวา แต่ต้องใช้เวลาพักฟื้น 1 เดือน ซึ่งต้องอยู่ในอิริยาบท นอนคว่ำหน้าสลับนอนตะแคงเท่านั้นเป็นเวลา 1 เดือน

 

คนจริงไม่มีหนี  เปิดภาพล่าสุด "พุทธะอิสระ" ขึ้นศาลไต่สวนคดีทำร้ายตร.

 

 


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เข้าใจตามนี้ แพทย์แจง "พุทธะอิสระ" หลายอาการป่วยสะสม ควรรักษาต่อเนื่อง จอประสาทตาต้องผ่าตัด

ล่าสุดมีรายงานว่าศาลอาญา ได้นัดไต่สวน นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อายุ 59 ปี หรืออดีตพระพุทธอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และแกนนำ กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ ในคดีทำร้ายตำรวจ ซึ่งได้เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยการใดให้เจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ ให้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายฯ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 , 310
 

 

ศาลาอาญา

 

 

โดยเมื่อวันที่ 15 ส.ค.2561 ที่ผ่านมา อัยการระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2557 เวลากลางวัน ขณะมีการตั้งเวทีปราศรัยของกลุ่ม กปปส.บริเวณหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ ถ.แจ้งวัฒนะ โดยมีจำเลยเป็นผู้นำกลุ่มผู้ชุมนุมโดยจำเลยกับกลุ่มบุคคลไม่ทราบชื่อจำนวนมากกว่า 5 คนขึ้นไป ซึ่งทำหน้าที่เป็นการ์ดคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณเวทีปราศรัยที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้บังอาจร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร.ต.ต.สมคิด เชยกมล และ ด.ต.วชิรพงศ์ อุ่นนวลบูรพงศ์ ผู้เสียหายที่ 1 - 2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าไปสืบสวนหาข่าว 

 


โดยใช้กำลังจับผู้เสียหายทั้งสองปิดตา มัดมือไพล่หลัง ใช้กำลังประทุษร้ายเป็นเหตุให้ ร.ต.ต.สมคิด ได้รับอันตรายสาหัส กระดูกซี่โครงหัก  ตับฉีกขาด ใช้เวลารักษาตัวประมาณ 6 สัปดาห์ ส่วน ด.ต.วชิรพงศ์ มีบาดแผลฟกช้ำหลายแห่ง ฟันซ้ายล่างหัก ใช้เวลารักษาตัวประมาณ 10 วัน รวมทั้งทรัพย์สินของผู้เสียหายทั้งสองมูลค่ารวม 60,900 บาท ถูกประทุษร้ายสูญหายไป

 


นอกจากนี้จำเลยกับพวกยังร่วมกันข่มขู่ให้ผู้เสียหายทั้งสองบอกรหัสปลดล็อคโทรศัพท์มือถือ และให้บอกว่าเป็นผู้ใด เข้ามาบริเวณที่ชุมนุมเพื่ออะไร เมื่อไม่ยอมบอกพวกจำเลยก็ใช้กำลังประทุษร้ายและข่มขู่ว่าจะเอาผู้เสียหายทั้งสองไปลอยน้ำ จนผู้เสียหายทั้งสองต้องจำยอมตามที่พวกของจำเลยข่มขู่

 

 

โดยจำเลยนี้ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการชุมนุมมีอำนาจสั่งการให้พวกของจำเลยปฏิบัติตามคำสั่งของตนได้ จำเลยทราบว่าพวกของจำเลยได้หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายทั้งสองไว้ แต่กลับเพิกเฉยไม่สั่งให้ปล่อยตัวไป และสั่งให้หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายทั้งสองไว้นานหลายชั่วโมง

 

 

เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้อัยการได้ขอให้ศาลนับโทษจำเลยต่อจากคดีหมายเลขดำ อ.247/2561 (คดีกบฏ กปปส.) ด้วย ศาลพิจารณาคำฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.2498/2561 และให้เบิกตัวจำเลยจากเรือนจำพิเศษมาสอบคำให้การในวันที่ 16 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ต่อมาทนายความของนายสุวิทย์ จำเลย ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 2 แสนบาท ระหว่างพิจารณา ศาลพิจารณาความหนักเบาของข้อหา ประกอบพนักงานอัยการโจทก์ไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราวแล้ว ศาลจึงมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยมีประกันตัวไป โดยตีราคาประกัน 2 แสนบาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

 

ทั้งนี้พบว่าเมื่อวันที่ 16 ส.ค.2561 ที่ผ่านมา อดีตพระพุทธอิสระ ได้ส่งทนายขอเลื่อนสอบคำให้การคดีทำร้ายตำรวจสันติบาล ซึ่งนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธอิสระ ได้เปิดเผยว่าในวันนี้อดีตพระพุทธะอิสระ ไม่ได้เดินทางมาศาลเนื่องจากมีอาการป่วย ที่หมอนรองกระดูกรุนแรง เพราะในช่วงเวลาที่อยู่ในเรือนจำ 84 วัน ไม่ได้รับการรักษา อย่างจริงจังต่อเนื่อง

 

เมื่อคืนที่ผ่านมาหลังออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทางคณะศิษย์ยานุศิษย์ ได้พาอดีตพระพุทธะอิสระ ส่งโรงพยาบาลทันที โดยแพทย์วินิจฉัยอาการระบุว่ามีอาการป่วยที่หมอนรองกระดูกรุนแรง และต้องทำการรักษาและพักฟื้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้วันนี้ไม่สามารถเดินทางมาศาลตามกำหนดนัดได้

 

 

พระพุทธอิสระ

 

โดยในวันนี้ นายสุวิทย์ เดินทางมาโดยรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ท พร้อมผู้ติดตาม 2คน โดยเมื่อลงจากรถตู้ต้องนั่งรถเข็น พร้อมผ้าปิดตาข้างขวา ดูมีอาการอ่อนเเรงผู้ติดตามต้องพยุงปีกเข้าห้องเวรชี้ใต้ถุนศาลอาญา

 

 

พระพุทธะอิสระ

 

 

 

พระพุทธะอิสระ

ต่อมาศาลออกนั่งบัลลังฆ์พร้อมทั้งอ่านเเละอธิบายคำฟ้องให้จำเลยพร้อมทนายจำเลยฟังเข้าใจพร้อมถามคำให้การจำเลยว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ 

 

โดยนายสุวิทย์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลมีคำสั่งให้สำนักงานคุมประพฤติสืบเสาะประวัติเเละพฤติการณ์ของนายสุวิทย์ประกอบทำคำพิพากษา เเละนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 29 ตุลาคม 2561 นี้

 

คนจริงไม่มีหนี  เปิดภาพล่าสุด "พุทธะอิสระ" ขึ้นศาลไต่สวนคดีทำร้ายตร.

 

พระพุทธะอิสระ