ภัยไซเบอร์ มิจฉาชีพแฮกไลน์ไล่ขอเงินเพื่อน ๆ เหยื่อรู้ทันจะแจ้งความ มือดีด่าสวนทันที

ภัยไซเบอร์ มิจฉาชีพแฮกไลน์ไล่ขอเงินเพื่อน ๆ เหยื่อรู้ทันจะแจ้งความ มือดีด่าสวนทันที

ในยุคปัจจุบันที่คนเราสามารถเชื่อมโยงผู้คนจากทั่วโลก ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์คได้อย่างง่ายดาย ผ่านทางแอปพลิเคชันที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Line หรือ YouTube และอื่น ๆ โดยเชื่อมโยงข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลต่าง ๆ ของเราไปยังเพื่อน หรือบุคลอื่น ๆ ได้สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งจะเห็นได้ว่าสิ่งเหล่านี้สามารถอำนวยความสะดวกของมนุษย์เราได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อมีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสียตามมาด้วย!!

 

โดยข้อเสียดังกล่าวอาจแฝงไปด้วยภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นกับข้อมูลส่วนตัวที่เรามี และได้แชร์ออกไปสู่โลกภายนอก อาทิเช่น มิจฉาชีพหรือกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่คอยนำข้อมูลจากทางโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ถูกแชร์ผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ นำไปใช้ในทางที่ผิด บางครั้งหนักสุดถึงขั้นผิดกฎหมาย ผิดพ.ร.บ.คอมพ์ฯ อีกด้วย ดังที่เราจะได้เห็นอยู่บ่อยครั้งเมื่อมีข่าวคนโดนโกงเงิน หรือโดนหลอกเอาเงินผ่านทางเฟซบุ๊ก ไลน์ หลายรายไหวตัวทัน แต่ก็ยังมีอีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ขึ้นโรงขึ้นศาลกันไป

 

ภัยไซเบอร์ มิจฉาชีพแฮกไลน์ไล่ขอเงินเพื่อน ๆ เหยื่อรู้ทันจะแจ้งความ มือดีด่าสวนทันที

 

ภัยไซเบอร์ มิจฉาชีพแฮกไลน์ไล่ขอเงินเพื่อน ๆ เหยื่อรู้ทันจะแจ้งความ มือดีด่าสวนทันที

 

และล่าสุด กับเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่พยาบาล จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเองและเพื่อนร่วมงาน เมื่อมีมิจฉาชีพได้แฮกข้อมูลส่วนตัวบนไลน์ของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ก่อนที่จะทำทีทักข้อความไปหาเพื่อนร่วมงานในเชิงให้ช่วยเหลือเรื่องเงิน ซึ่งก็มีหลายคนที่หลงเชื่อพร้อมทั้งให้การช่วยเหลือสูญเสียเงินไป ในขณะที่มีคนไหวตัวทัน และบอกว่าจะแจ้งความ ทำให้มิจฉาชีพรายดังกล่าวหยุดการกระทำนี้ พร้อมทั้งด่าทอส่งท้ายในทำนองว่า "ไหวตัวทันแล้ว จะแจ้งความก็เชิญตามสบาย"


โดยรายละเอียดดังกล่าวมีตามนี้ 

 

ภัยไซเบอร์ มิจฉาชีพแฮกไลน์ไล่ขอเงินเพื่อน ๆ เหยื่อรู้ทันจะแจ้งความ มือดีด่าสวนทันที

 

ภัยไซเบอร์ มิจฉาชีพแฮกไลน์ไล่ขอเงินเพื่อน ๆ เหยื่อรู้ทันจะแจ้งความ มือดีด่าสวนทันที

 

ภัยไซเบอร์ มิจฉาชีพแฮกไลน์ไล่ขอเงินเพื่อน ๆ เหยื่อรู้ทันจะแจ้งความ มือดีด่าสวนทันที

 

***อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ข้างต้นมีข้อมูลว่า มีผู้ที่ต้องสูญเสียเงินในครั้งนี้เป็นจำนวนรวม ๆ เกือบ  10,000 บาท