ย้อนวัยกันหน่อย วิวัฒนาการของการสื่อสาร จากอดีต-ปัจจุบันเทคโนโลยีเพียงปลายนิ้วสัมผัส สู่วันเปิดตัว Iphone XS

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม จะต้องมีชีวิตอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นๆ เพื่อติดต่อสร้างความสัมพันธ์พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน การติดต่อสื่อสารจึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์โลก

ย้อนวัยกันหน่อย วิวัฒนาการของการสื่อสาร จากอดีต-ปัจจุบันเทคโนโลยีเพียงปลายนิ้วสัมผัส สู่วันเปิดตัว Iphone XS

 

    มนุษย์เป็นสัตว์สังคม จะต้องมีชีวิตอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นๆ เพื่อติดต่อสร้างความสัมพันธ์พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน การติดต่อสื่อสารจึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์โลก โดยเฉพาะในปัจจุบันเป็นยุคของโรคไร้พรมแดน (Globalization) การเข้าถึงข่าวสาร และการติดต่อเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการ "พัฒนา" ในระดับประเทศชาติในหลายๆ ด้าน เทคโนโลยีด้านการสื่อสารจึงเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราทุกคน 
 

    ในอดีตการติดต่อสื่อสารของมนุษย์นั้นหาได้มีความสะดวกและรวดเร็วเฉกเช่นทุกวันนี้แต่อย่างใดไม่ หากแต่มีวิวัฒนาการเป็นลำดับขั้นตอนมาหลายยุคสมัย ด้วยสติปัญญาอันน่าทึ่งของมนุษย์ ในระยะแรกนั้นเชื่อกันว่า มนุษย์จะใช้เทคโนโลยีที่ประดิษฐ์ขึ้นจากธรรมชาติ เช่น แผ่น ปาปีรัส การตีกลอง การเป่าเขาสัตว์ ดังนั้น การสื่อสารจะใช้การ เคาะหรือตีเป็นหลัก ต่อมาเมื่อมนุษย์เริ่มรู้จักวิธีการเขียนหนังสือ จึงเริ่มมีการติดต่อสื่อสารกันในระยะไกลมากขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากสัตว์เลี้ยง เช่น การฝากข้อความไปกับนกพิราบ 
 

    แน่นอนว่าข้อจำกัดในการสื่อสารของมนุษย์ในยุคนั้นทำได้เพียง "ภาษาพูด" และ "ภาษาเขียน" เท่านั้น จวบจนกระทั่ง คริสต์ศตวรรษที่ 19

 

    การใช้ไฟฟ้าเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน จึงได้มีการคิดค้นเทคนิคเพื่อใช้สำหรับการสื่อสารในระยะทางไกลขึ้นมารียกว่า "รหัสมอร์ส" ซึ่งเป็นวิธีการส่งข้อความในรูปของ สัญญาณสั้นกับยาว และได้ใช้กับการสื่อสารระบบโทรเลข เนื่องจากระบบโทรเลขในช่วงเริ่มต้น ยังไม่สามารถส่งข้อความเป็นตัวอักษรได้ การติดต่อสื่อสารด้วยโทรเลขในขณะนั้นเป็นเรื่องที่มีความยุ่งยากและซับซ้อนอยู่พอสมควร ต้องอาศัยผู้ที่มีความชำนาญแปลสัญญาณจากรหัสมอร์สและแกะออกมาเป็นตัวหนังสืออีกทีหนึ่ง อาจต้องอาศัยประสบการณ์และการฝึกฝนเป็นปีๆ

 

 

ย้อนวัยกันหน่อย วิวัฒนาการของการสื่อสาร จากอดีต-ปัจจุบันเทคโนโลยีเพียงปลายนิ้วสัมผัส สู่วันเปิดตัว Iphone XS

 

    เมื่อวิทยาการเริ่มก้าวหน้าจึงมีการคิดค้นเครื่องสื่อสารที่เรียกว่า "โทรพิมพ์" ในเวลาต่อมา แต่ทว่าก็ยังคงต้องใช้การป้อนข้อมูลเพื่อแปลงสัญญาณในรูปแบบของรหัสมอร์สอยู่ แต่เหตุที่ได้รับความนิยมนั้นเพราะ สามารถรับส่งโทรเลขได้เร็วถึง 300 ตัวอักษรโรมัน ต่อ 1 นาทีเป็นอย่างน้อย รวมถึงพนักงานไม่จำเป็น ต้องเรียนรู้ หรือจดจำรหัสสัญญาณโทรเลข นอกจากนี้พนักงานยังสามารถนำแถบกระดาษจากการกดแป้นตัวอักษรป้อนเข้าเครื่องส่งเพื่อให้ส่งเป็นสัญญาณกระแสไฟฟ้าไปในสายโทรเลข เมื่อไปถึงปลายทาง สัญญาณกระแสไฟฟ้าจะไปบังคับให้เครื่องพิมพ์เป็นตัวอักษรออกมาทันที

 

    การก้าวกระโดดของการติดต่อสื่อสารได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งนามว่า อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander Graham Bel) สามารถแปลงเสียงพูดให้เป็นสัญญาณไฟได้ จึงได้ทำการประดิษฐ์สิ่งที่เรียกว่า "โทรศัพท์" ขึ้นมา โทรศัพท์จะมีการเปลี่ยนสัญญาณเสียงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปตามสายโทรศัพท์ แล้วโทรศัพท์ปลายทาง จะทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้านั้นกลับมาเป็นสัญญาณเสียงเหมือนเดิม และเรียกการสื่อสารในลักษณะนี้ว่า โทรศัพท์แบบใช้สายหรือโทรศัพท์บ้าน

 

 

ย้อนวัยกันหน่อย วิวัฒนาการของการสื่อสาร จากอดีต-ปัจจุบันเทคโนโลยีเพียงปลายนิ้วสัมผัส สู่วันเปิดตัว Iphone XS

    จนมีคำกล่าวที่ใช้เป็นตัวกำหนดคำจำกัดความของ "ประเทศพัฒนาแล้ว" ในยุคนั้นว่า "ประเทศใด ที่มีจานวน เลขหมาย โทรศัพท์ในประเทศ 40 หมายเลขต่อประชากร 100 คน ถือว่าประเทศนั้นพัฒนาแล้ว"

 

 

ย้อนวัยกันหน่อย วิวัฒนาการของการสื่อสาร จากอดีต-ปัจจุบันเทคโนโลยีเพียงปลายนิ้วสัมผัส สู่วันเปิดตัว Iphone XS  

 

    ในเวลาต่อมาโลกได้ก้าวเข้าสู่ยุค 1G เหตุผลที่เรียกเช่นนี้เพราะเป็นยุคที่มีการติดต่อสื่อสารในรูปแบบการโทรเข้า-โทรออก เท่านั้น โทรศัพท์เคลื่อนที่ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ดูเกินเอื้อมของคนทั่วไปเพราะด้วยราคาที่แพง และมีขนาดใหญ่เทอะทะมากกว่าที่จะสามารถเรียกได้ว่า "โทรศัพท์มือถือ" ด้วยเหตุนี้จึงมีการเรียกโทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคนั้นว่า "กระดูกหมู" ซึ่งมีระบบการทำงานแบบ "อนาล็อค" แน่นอนว่าการพัฒนาย่อยไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น เพราะในเวลาต่อมามีการพัฒนาในรูปแบบของงสายชาร์จแบตเตอร์รี่แบบเสียบในรถได้อีกด้วย จึงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ขับรถทางไกล เพื่อติดต่อประสานงานในการทำงาน และเป็นจุดเริ่มต้นในการใช้อุปกรณ์ประเภทนี้ต่อพ่วงในรถยนต์มาจนถึงปัจจุบัน

 

 

ย้อนวัยกันหน่อย วิวัฒนาการของการสื่อสาร จากอดีต-ปัจจุบันเทคโนโลยีเพียงปลายนิ้วสัมผัส สู่วันเปิดตัว Iphone XS

 

    เมื่อเข้าสู่ยุค 2G การที่คนทั่วไปจะเข้าถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยราคาที่สามารถจับต้องได้ และยังเรียกได้ว่าเป็น "โทรศัพท์มือถือ" ที่แท้จริง ด้วยขนาดที่กระทัดรัดสามารถพกใส่กระเป๋ากางเกงไปไหนมาไหนได้ ทั้งยังมีความหลากหลายในการเลือกใช้โทรศัพท์ และมีการบริการในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น มีการรับส่งการสื่อสารได้มากว่าการโทรเข้าและโทรออก คือการเพิ่มฟังก์ชั่นที่แปลกใหม่เพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้สนใจมากขึ้น เพิ่มฟังก์ชั่นในการส่งข้อความ หรือการให้บริการทางด้านข้อมูลต่างๆ เช่น การดาวน์โหลดรูปภาพกราฟฟิคมาใช้บนหน้าจอโทรศัพท์

 

    และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ การดาวน์โหลดเสียงเรียกเข้าที่คุ้นเคยกันในชื่อ "ริงโทน" เพื่อนำมาใช้เป็นเอกลักษณ์บนโทรศัพท์มือถือของตน แน่นอนว่ารุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุดในยุคนั้นย่อมไม่พ้น "Nokia 3310" เรียกได้ว่าเป็นตำนานบุกเบิกโทรศัพท์มือถือ และหากจะกล่าวว่าเป็นยุคทองของบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ "Nokia" ก็คงจะไม่เป็นคำกล่าวที่เกินจริงไปนัก

 

 

ย้อนวัยกันหน่อย วิวัฒนาการของการสื่อสาร จากอดีต-ปัจจุบันเทคโนโลยีเพียงปลายนิ้วสัมผัส สู่วันเปิดตัว Iphone XS
 

 

    ต่อมาได้เข้าสู่การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคใหม่ของโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง เป็นช่วงกึ่งกลางระหว่าง 2G กำลังจะพัฒนาไปเป็น 3G  เรียกว่ายุค 2.5G จุดเด่นของโทรศัพท์มือถือในยุคนี้ คือมีการนำเทคโนโลยีการนำจอแสดงภาพแบบสี มาใช้แทนขาวดำและมีการนำเทคโนโลยีในระบบ GPRS มาทดลองใช้ และที่สำคัญมือถือสามารต่ออินเตอร์เนตผ่าน GPRS ได้อีกด้วย จึงเป็นความแปลกใหม่ราวกับโลกแห่งการติดต่อสื่อสารกำลังจะเปิดกว้างขึ้น สร้างความตื่นตาตื่นใจต่อผู้ใช้โทรศัพท์ในยุคนั้นไม่น้อย 

 

    นอกจากนี้ยังมีการส่งข้อความในรูปแบบใหม่จากเดิมเป็นแบบระบบ SMS ที่ส่งได้แต่เพียงตัวหนังสือ เป็นระบบ MMS ที่สามารถส่งรูปภาพพร้อมๆ กับตัวหนังสือ เปลี่ยนจากเสียงเรียกเข้าแบบ ริงโทนธรรมดาเป็นแบบ โพลีโฟนิค ริงโทน เพื่อเพิ่มมิติของเสียงเรียกเข้าให้มีความทันสมัยมากขึ้น

ย้อนวัยกันหน่อย วิวัฒนาการของการสื่อสาร จากอดีต-ปัจจุบันเทคโนโลยีเพียงปลายนิ้วสัมผัส สู่วันเปิดตัว Iphone XS

 

 

    ยังไม่เข้าสู่ยุค 3G เต็มตัว แต่วงการโทรศัพท์มือถือก็ได้มีการพัฒนาขึ้นอีกระดับ เรียกว่ายุค 2.75G องค์ประกอบโดยรวมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่ที่สำคัญคือมีการเปลี่ยนแปลงจากระบบ GPRS มาเป็นในระบบ EDGE ซึ่งมีความเร็วในการเชื่อมต่อเพิ่มมากขึ้นประมาณ 3 เท่าจากเดิม หรือมีความเร็วสูงสุดประมาณ 384 kbps แต่มีความเร็วในการใช้งานจริงประมาณ 80-100 kbps เท่านั้น อาจเร็วกว่าการเล่นอินเตอร์เน็ตแบบเก่า ในยุคนี้ไม่ได้มีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่แต่อย่างใดเป็นเพียงการพัฒนาเพื่อเตรียมเข้าสู่ 3G เท่านั้น

 

 

ย้อนวัยกันหน่อย วิวัฒนาการของการสื่อสาร จากอดีต-ปัจจุบันเทคโนโลยีเพียงปลายนิ้วสัมผัส สู่วันเปิดตัว Iphone XS

 

    และแล้วราวกับกำแพงที่ปิดกั้นการสื่อสารของมวลมนุษย์ชาติได้ถูกทำลายลง เพราะในที่สุดยุคแห่งการติดต่อสื่อสารที่แท้จริงก็ได้เข้ามาถึง ในยุค 3G นี้เอง ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้โทรศัพท์ทั้ง Iphone หรือ Blackberry ที่เป็นสมาร์ทโฟนแบบเต็มรูปแบบ ด้วยเทคโนโลยีที่ผสมผสานในการรับส่งข้อมูลต่างๆ การใช้อินเตอร์เน็ตแบบเชื่อมต่อ ข้อมูลในระบบไร้สาย (Wireless) ทั้งยังมีการถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โซเชียลมีเดียเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น มีการติดต่อสื่อสารในหลากหลายช่องทาง ทั้ง Line ,Facebook หรือ Twitter เป็นต้น ไม่เพียงแต่เท่านี้

 

    เพราะโทรศัพท์มือถือในยุค 3G มีระบบปฏิบัติงานที่ใกล้เคียงคอมพิวเตอร์ในระดับหนึ่ง ด้วยความจุของหน่วยความจำที่มากขึ้น และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่มีการพัฒนาอยู่ตลอด มีทั้งสร้างความเพลิดเพลินในรูปแบบของเกม รวมถึงช่วยแอปพลิเคชั่นที่อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันเช่น  Mobile banking สำหรับทำธุรกรรมทางการเงิน เรียกได้ว่าแค่เพียง "กระดิกนิ้ว" ก็สามารถเข้าถึงข่าวสาร และยังช่วยทำให้ชีวิตมีความคล่องตัวขึ้นได้ด้วยโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียว

 

 

ย้อนวัยกันหน่อย วิวัฒนาการของการสื่อสาร จากอดีต-ปัจจุบันเทคโนโลยีเพียงปลายนิ้วสัมผัส สู่วันเปิดตัว Iphone XS

 

    โลกปัจจุบันนี้กำลังก้าวเข้าสู่ยุค 4G โดยรวมอาจยังไม่เป็นการก้าวกระโดดจาก 3G มากนัก แต่จุดเด่นของยุค 4G คือ เป็นเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษ หรือเป็นเส้นทางด่วนสำหรับข้อมูลที่ไม่ต้องอาศัยการลากสายเคเบิล โดยระบบเครือข่ายใหม่นี้จะสามารถใช้งานได้แบบไร้สาย รวมถึงคุณสมบัติการเชื่อมต่อเสมือนจริงในรูปแบบสามมิติ (three-dimensional) ระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง นอกจากนี้ยังสามารถส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายด้วยระดับความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้นถึง 100 MB ต่อ วินาที ซึ่งห่างจากความเร็วของชุดอุปกรณ์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ที่ระดับ 10 KB ต่อ วินาทีและเทคโนโลยีของ 4G ยังสามารถให้บริการรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านมือถือได้อีกด้วย

 

 

ย้อนวัยกันหน่อย วิวัฒนาการของการสื่อสาร จากอดีต-ปัจจุบันเทคโนโลยีเพียงปลายนิ้วสัมผัส สู่วันเปิดตัว Iphone XS

 

    ปฏิเสธไม่ได้ว่า Iphone ถือเป็นหนึ่งในยี่ห้อสมาร์ทโฟนที่มีอิทธิพลเป็นอย่างสูงนับตั้งแต่โลกเข้าสู่ยุค 3G ล่าสุด วันที่ 12 ก.ย. 2561 แอปเปิลค่ายเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี แน่นอนว่าพระเอกในงานนี้จะเป็นใครไปเสียมิได้นอกจาก Iphone Xs และ Iphne Xs Max สิ่งที่น่าสนใจในรุ่นนี้คือเป็นครั้งแรกที่จะมีระบบซิมแบบคู่ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้องหลังที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวคู่แบบออปติคอล และการซูมแบบออปติคอล 2 เท่า ในขณะที่เซ็นเซอร์ใหม่ก็เร็วขึ้น 2 เท่าด้วย เสริมด้วย HDR ที่สมจริงกว่าที่ผ่านมา

 

    อีกทั้งยังสามารถถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้อง TrueDepth และ Memoji และการตรวจจับใบหน้าที่รวดเร็วยิ่งขึ้นกับแอพ ARKit เรียกได้ว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อยกับคุณสมบัติคร่าวๆ ของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ สำหรับในประเทศไทยสามารถสั่งจองได้ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. และจะมีการวางจำหน่ายในวันที่ 26 ต.ค. เป็นต้นไป โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 749 ดอลล่าสหรัฐหรือประมาณ 24,400 บาท

 

 

ย้อนวัยกันหน่อย วิวัฒนาการของการสื่อสาร จากอดีต-ปัจจุบันเทคโนโลยีเพียงปลายนิ้วสัมผัส สู่วันเปิดตัว Iphone XS