พระสิริโฉมงดงาม พร้อมทรงพระปรีชาสามารถ พระองค์หญิงฯ ฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติ ผลักดันอุตสาหกรรมไทยด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

พระสิริโฉมงดงาม พร้อมทรงพระปรีชาสามารถ พระองค์หญิงฯ ฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติ ผลักดันอุตสาหกรรมไทยด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น


    พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

    

       นับว่าเป็นราชนิกุลรุ่นใหม่ที่ประชาชนต่างจับตามองกับพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เนื่องด้วยพระปรีชาสามารถเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตานานาประเทศหลายด้าน ทั้งยังมีพระสิริโฉมงดงาม  ทรงถูกจัดให้เป็น 10 เชื้อพระวงศ์หญิงสูงศักดิ์ที่ทั่วโลกจับตามอง ทั้งนี้ทางนิตยสาร W Magazine ปี 2016 ก็ได้มีการจัดอันดับ 10 ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองและพระราชวงศ์คลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามองมากที่สุด

 

        โดย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงติดอยู่อันดับ 2 ส่วนอันดับ 1 เป็นของ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา นอกจากนี้พระองค์ยังได้รับการจัดอยู่ในลำดับที่ 16 โดยนิตยสารฟอบส์ในเยาวราชนิกุล ที่ทรงได้รับความนิยมมากสุดในโลกยี่สิบอันดับ ในปี พ.ศ. 2556  ส่วนเว็บไซต์ askmen ได้จัดอันดับพระองค์ว่าเป็นเจ้าหญิงที่โดดเด่นที่สุด อันดับที่ 7 และพระองค์ได้รับรางวัล "แฟชั่นไอคอน" จากนิตยสาร นูเมโร ไทยแลนด์ ในปีเดียวกัน ด้วยพระปรีชาสามารถด้านแฟชั่น เป็นที่เลื่องลือในมุมคนวงการแฟชั่นด้วยกันจนขนานนามพระองศ์หญิงว่าทรงเป็น เจ้าหญิงดีไซเนอร์แห่งวงการแฟชั่นไทย มีแบรนด์เสื้อผ้าของพระองศ์เอง ชื่อ Sirivannavari และมีแบรนด์ของแต่งบ้านส่วนพระองค์ชื่อ Sirivannavari Maison นอกจากนี้ จากพระปรีชาด้านแฟชั่นทรงได้รับเชิญเสด็จไปร่วมงานปารีสแฟชั่นวีคทั้งยังได้นั่งฟร้อนท์โรว์ติดขอบรันเวย์อยู่เสมอ

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

 

        ด้านพระประวัติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประสูติเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2530 ทรงเป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร  เมื่อแรกประสูติมีพระนามว่า หม่อมเจ้าบุษย์น้ำเพชร มหิดล มีพระเชษฐภคินีและพระอนุชาร่วมพระชนก คือ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ 
    

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น


          ด้านการศึกษาพระองค์หญิงทรงสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนจิตรลดา ต่อมาได้สำเร็จการศึกษาศิลปกรรมศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 (เหรียญทอง) ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.93 และทรงได้รับรางวัลนิสิตดีเด่นประจำปีการศึกษา 2551 ด้วยมีผลการการเรียนอันน่าพึงใจ หลังจากนี้พระองค์ได้ศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่ประเทศฝรั่งเศส ณ สถาบันเอโกล เดอ ลา ฌอมป์ซินดิกัล เดอ ลา กูตูร์ปารีเซียง

 

        ด้วยความเป็นกันเองของพระองศ์หญิงทรงชอบเรียกแทนพระองศ์เองว่า "ท่านหญิง" ด้วยพระยศเดิมทรงเป็นหม่อมเจ้ามาก่อน พระองศ์หญิงทรงมีพระสหายน้อยเรื่องนี้ถูกอ้างอิงจากเมื่อครั้งหนึ่งทรงเคยประทานสัมภาษณ์ว่า "ท่านหญิงมีเพื่อนน้อย แต่ทุกคนดีมีคุณภาพ"

 

       ระหว่างที่ทรงศึกษา ณ โรงเรียนจิตรลดา พระสหายจะเรียกพระองค์ว่า "ตึก" เพราะทรงสวมรองเท้าส้นตึกซึ่งเป็นที่นิยมมากในขณะนั้น ด้านอุปนิสัยส่วนพระองค์ทรงเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว และทรงเคยกล่าวว่าครั้งหนึ่งเคยมีสุภาพบุรุษมาจีบพระองค์ถึงสามคนโดยที่ไม่ทราบว่าพระองค์เป็นใคร ทั้งนี้ทรงมี "สเป็ก" ส่วนพระองค์ ทรงกล่าวว่า เรามี Type ของผู้ชายที่เราชอบ คือ ชอบคนที่คิดบวก แล้วเป็นคนที่ชอบเรา รักเราที่เป็นตัวเรา ไม่ใช่เป็นเจ้าหญิง แล้วต้องดูแลตัวเรา ไม่ใช่หมายถึง เรื่องเงินทอง แต่ดูแลเรื่องจิตใจ แล้วไม่ทำร้ายกัน และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เราไม่จำเป็นต้องเลือกคนที่รวยที่สุดในจักรวาล หรือเลือกคนที่เป็นเจ้าหรือมีฐานันดรอะไร

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

     ทั้งนี้พระองศ์หญิงทรงเคยมีพระยศทางทหาร เป็นร้อยโทหญิง และทรงได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายทหารพิเศษประจำกองพันทหารม้า ที่ 29 รักษาพระองค์ฯ วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 และนายทหารพิเศษประจำกองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ฯ วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ยศร้อยเอกหญิง วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ยศพันตรีหญิง 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555  ยศพันโทหญิง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ยศพันเอกหญิง วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2561  พระอาจารย์หัวหน้าแผนก โรงเรียนทหารม้าศูนย์การทหารม้า

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น


      อีกหนึ่งพระปรีชาสามารถด้านกีฬาพระองศ์หญิงทรงได้รับคัดเลือกให้เป็นนักกีฬาทีมชาติไทย ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมแข่งขันในการแข่งขันกีฬาแบดมินตันซีเกมส์ 2005 ประเภททีมหญิง ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยได้รับรางวัลเหรียญทองและอีกหลายรายการ 

      นอกจากกีฬาแบดมินตัน พระองค์ยังทรงสนพระทัยกีฬาขี่ม้าตั้งแต่พระชันษา 9 ปี ด้วยขี่ตามพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาที่ต่อมาพระองค์ได้กลับมาสนพระทัยจนเป็นนักกีฬาขี่ม้าดังกล่าว ซึ่งชนะเลิศในรายการไทยแลนด์แชมเปียนชิพคิงส์คัพ 2012   และทรงตั้งพระทัยที่จะคัดเลือกเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยในซีเกมส์ 2013 ในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ทรงลงแข่งขันขี่ม้าประเภทศิลปะบังคับม้าประเภททีม วันที่ 14 ธันวาคม พระองค์ลงแข่งรอบชิงชนะเลิศทรงทำคะแนนรวม 53.810 คะแนน จบอันดับที่ 10 ในการแข่งขัน

 

ทรงเข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2014 โดยเข้าแข่งขันกีฬาศิลปะการบังคับม้าประเภททีม ลงแข่งขันเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557 ร่วมกับ เฉลิมฉาน ยศวิริยะพาณิชย์, รวิสรา เวชากร และภคินี พันธาภา ส่วนพระองค์ได้คะแนน ร้อยละ 58.079 รวมคะแนนเฉลี่ยทีมไทยอยู่อันดับที่ 7 ด้วยคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 62.711 นับเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจของพสกนิกรชาวไทยยิ่งนัก

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

      ในส่วนแบรนด์เสื้อผ้า Sirivannavari พระองศ์หญิงทรงมีพระวิริยอุตสาหะเป็นอย่างมาเพื่อสร้างสรรค์แบรนด์  Sirivannavari ให้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจะเห็นได้จากการร่วมงานกับแบรนด์ต่างๆในหลายประเทศซึ่งมีแต่แบรนด์ระดับโลก 

 

       ล่าสุดกับงานกาล่าดินเนอร์ “ L’Art et L’Âme de la Thaïlande” (ศิลปะและจิตวิญญาณไทย) ณ โรงแรม Intercontinental Paris Le Grand ในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมานั้น พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเดินทางไปร่วมงาน โดยงานนี้ถือเป็นหนึ่งในโครงการจัดขึ้นตามพระดำริ เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ประเทศไทย ผ่านสายตามุมมองคนรุ่นใหม่ด้านแฟชั่นรูปแบบผสม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้าให้ทัดเทียมนาๆประเทศ ดังที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ทรงทำมาตลอดด้วยการยกระดับวงการทอผ้าไหมไทย ให้เป็นผ้าที่สามารถนำไปประยุกต์ในวงการแฟชั่นต่างๆ ระดับโลกได้ เพื่อสร้างรายได้ให้ชาวบ้านในถิ่นต่างๆ ของประเทศไทย โดยพระองศ์หญิงทรงฉลองพระองศ์ด้วยผ้าไหมมัดหมี่ แบบประยุกต์ปักขนนกยุงทอง จากแบรนด์  Sirivannavari สวยสะกดสายตาผู้พบเห็นยิ่งนัก ทั้งนี้ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์สินค้าไทย ที่จัดขึ้นยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

    ภายในงาน  L’Art et L’Âme de la Thaïlande  มีการจัดแสดงผลงานทรงออกแบบของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ภายใต้แบรนด์ Sirivannavari และ Sirivannavari Couture ซึ่งทรงได้แรงบันดาลพระทัยจากฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถด้วย มีผลงานบางส่วนดังนี้

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

พระองค์หญิงฯ ทรงพระสิริโฉมงดงามด้วยฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ สะกดสายตาต่างชาติด้วยพระปรีชาด้านแฟชั่น

 

       นี่เป็นเพียงผลงานและพระปรีชาสามารถที่เรานั้นได้เห็นในตัวพระองศ์หญิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แสดงออกมาให้พสกนิกรชาวไทยได้ประจักษ์ในพระปรีชาสามารถ ให้นานาประเทศได้เห็นจนถูกจัดอันดับจากต่างชาติหลายที่ หลายสำนักยังความภาคภูมิใจสู่พสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง

 

ขอบคุณภาพจาก ellethailandofficial  ,  bazaarthailand