เขาเป็นคนดี เพื่อนรักเล่ามุมชีวิต "เสี่ยเกาะเต่า" ไม่เคยได้ยินมาก่อน ฝากสร้อยให้ลูกสาวฟังเหตุผลน้ำตาซึม

ยังคงเป็นประเด็นที่คนในสังคมให้ความสนใจ สำหรับกรณีนายพัธรพล เอกปฐมศักดิ์ หรือ หนุ่ม อายุ 48 ปี เจ้าของบริษัทดำน้ำและร้านอาหารบนเกาะเต่า ตัดสินใจใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงฆ่าตัวตายพร้อมกับไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊ก ที่บ้านพักหลังหนึ่งในซอยพ่อขุนทะเล 22 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กระทั่งตำรวจพบศพบนห้องนอนชั้น 2 ในสภาพชุดขับขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ สวมหมวกนิรภัย และใส่ถุงมือ มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะด้านขวา 1 นัด บนตัวพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. บนกระจกตู้เขียนด้วยปากกาเมจิกสีน้ำเงินข้อความระบุว่า I have enough (ฉันสุดจะทนแล้ว) ไม่มีอะไร ผมตัดสินทำเอง" ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

 

โดยล่าสุด โลกโซเชียลได้มีการแชร์ข้อความจากสมาชิกเฟซบุ๊กใช้ชื่อ "Pasakorn Sae-Eia" ซึ่งโพสต์ข้อความอาลัยการของไปของนายพัธรพล ระบุข้อความว่า RIP My Friend Nino ผมกับหนุ่มรู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยอยู่นิวซีแลนด์ด้วยกัน กิน เที่ยว ผจญภัย ทำงานด้วยกัน หนุ่มเป็นคนเนี๊ยบ ชอบตื่นเช้า ตื่นเช้ามาผมเห็นหนุ่มล้างรถขัดรถเช็ดรถซะเงาวับแทบทุกวัน ในขณะที่ผมเพิ่งตื่น! หนุ่มพร้อมจะออกไปเฉิดฉายลั้ลลาท่องโลกกว้าง

 

 

 

เราพักบังกะโลติดกัน ติดทะเล Eastern Beach Auckland ฝั่งตะวันออก ตอนนั้นหนุ่มมีแฟนไฮโซเกาหลี ผมนึกอิจฉาเป็นยิ่งนัก ตอนนั้นเราคลั่งสาวญี่ปุ่น สาวเกาหลีกันมาก เราเคยงอนไม่คุยกันครั้งนึง เราหุ้นกันซื้อเครื่องซักผ้าใช้ร่วมกัน แต่ผมดันเลี้ยงหมาพันธ์ดัลเมเชี่ยน ทำให้เสื้อผ้าที่ผมใส่ติดขนหมา พอไปซักในเครื่องจึงมีขนหมาติดอยู่ ด้วยหนุ่มเป็นคนเนี๊ยบจึงไม่ชอบใจนัก

 

 

 

หนุ่มชอบท่องเที่ยว ช่วงคริสต์มาสของนิวซีแลนด์ ส่วนใหญ่ร้านรวงจะหยุดยาวเหมือนหยุดสงกรานต์ประมาณนั้น บางคนใช้โอกาสนี้กลับเมืองไทยแต่ผมกับหนุ่มว่างทั้งคู่ ไม่ได้วางแผนอะไรใด ๆ ตัดสินใจขึ้นเหนือสุดของ NZ Cape Reinga จุดแหลมเหนือสุด คิดเร็วทำเร็ว เก็บเสื้อผ้าแล้ว ขับรถไปกันเลย ห้องพักก็ไม่จองไปหาเอาข้างหน้ากัน ผจญภัยกัน สมัยก่อนยังไม่มี google map เราต้องแวะปั๊มซื้อแผนที่เดินทาง ผมขับ หนุ่มบอกทาง กะเหรี่ยง 2 คน ภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น! ลุยไปด้วยกัน

 

 

หลังเลิกงาน หนุ่มก็จะทำพิซซ่ามาฝาก เวลาหนุ่มมีปัญหาที่ทำงาน ก็มักมาเล่าให้ผมฟัง ผมก็จะให้คำปรึกษาหรือรับฟังเมื่อหนุ่มต้องการระบาย กลับไทยเราต่างคนต่างแยกย้าย ไปทำในสิ่งที่ชอบ หนุ่มชอบดำน้ำและเคยสอน ผมเทคนิคการดำน้ำเบื้องต้น แต่ผมไม่ถนัดจึงไม่สานต่อ หนุ่มได้ไปลงหลักปักฐานที่เกาะเต่าเป็นครูสอนดำน้ำที่หนุ่มรัก และเปิดโรงเรียนสอนดำน้ำ ในเวลาต่อมาตอนหนุ่มอยู่นิวซีแลนด์ หนุ่มทำงานเป็นเชฟที่ร้านอาหาร ใน Skycity Casino Auckland จึงเอาประสบการณ์เป็นเชฟมาพัฒนาร้านอาหารบนเกาะเต่า

 

ผมไม่มีจังหวะโอกาสไปหาหนุ่มที่เกาะเต่า มีโอกาสเจอก็ต่อเมื่อหนุ่ม ขึ้นมากรุงเทพ ซึ่งนานมาก ๆ กว่าจะได้เจอกันที ครั้งสุดท้ายผมยังปรึกษาเรื่องทำเตาพิซซ่าอยู่เลย ปีที่แล้วหนุ่มนัดเจอที่เยาวราชแต่ผมติดธุระไปไม่ได้ ผมเชื่อว่าถ้าผมได้เจอหนุ่มบ่อยครั้ง หนุ่มจะมีคนรับฟังเรื่องทุกข์ใจ และอยากระบายอะไรออกมา ไม่ต้องเก็บความทุกข์ไว้คนเดียว ขอให้เพื่อนนอนหลับให้สบายครับ

 

 

 

ขณะที่ทางด้านเฟซบุ๊ก "Ratikorn Wongcharoen" วันที่เราเดินทางกันไปส่งน้องชายอีกคน Pasakorn Sae-Eia กลับไทย หนุ่มเห็นคนส่งสร้อยจี้หยกของชาวเมารีให้เจ้าภาสเป็นของที่ระลึก หนุ่มบอกว่าอยากได้บ้าง สวย เดี๋ยวจะไปฃื้อมาใส่มั่ง เราบอกว่าไม่ต้องฃื้อ และห้ามฃื้อ ธรรมเนียมของชาวเมารี จี้แบบนี้ต้องมีคนให้ ถึงใส่ใด้ บอกหนุ่มว่า กลับไทยเมื่อไหร่จะซื้อให้นะ

 

 

แล้ววันนั้นก็มาถึง เรายื่นจี้ให้ที่สนามบิน หนุ่มดีใจมาก จากวันนั้นมา หนุ่มคงใส่สร้อยจี้หยกนี้อยู่บ่อย ๆ สลับไปกับสร้อยทองคำ แต่มาระยะหลัง หนุ่มคงหมดใจกับเครื่องทองราคาแพง จึงใส่แต่จี้หยกฝีมือช่างเมารีธรรมดาคนนึง เห็นจากรูปที่ถ่ายช่วงหลัง ๆ หรือหนุ่มจะใส่เพื่อเป็นที่เตือนใจถึงความสุขสมัยยังอยู่ที่ NZ เราดีใจที่หนุ่มยังเก็บสร้อยนี้ใว้ หนุ่มบอกอยู่บ่อย ๆ ว่าอยากพาลูกสาวมาเที่ยวหา พาดูที่ ที่พ่อเคยอยู่ เราคิดว่าหนุ่มคงใส่จี้หยกนี้ติดคอในวันสุดท้ายของลมหายใจ

 

ถ้าใครรู้จักภรรยาของหนุ่ม เราอยากฝากบอก ช่วยเก็บสร้อยเส้นนี้ให้กับลูกสาวของหนุ่มจะได้มั้ย เผื่อวันนึงที่เค้าโตมา อาจจะใด้มาตามรอยเท้าที่พ่อเค้าเคยเดิน และใด้มาเจอกับเพื่อนพ่อคนนี้ ที่เป็นคนให้สร้อย จากเมืองที่พ่อเค้ารัก หรืออย่างน้อยก้อให้เป็นทีระลึกแทนตัวของพ่อเค้าแทน ฝากหน่อยนะ

 

 

 

ก่อนหน้านั้น น.ส.พึงพิศ จันทร์อินทร์ หรือ น้ำผึ้ง ภรรยาผู้ตาย ได้เปิดใจหมดเปลือกเป็นครั้งแรกในหลายประเด็นที่คนในสังคมต่างค้างคาใจสงสัย และต้องการทราบความจริง โดย น.ส.พึงพิศ ได้วีดีโอคอลเข้ารายการข่าวของสื่อช่องดัง "เนชั่นเจาะข่าวเช้า" โดยระบุว่า ตนเจอเสี่ยหนุ่มครั้งแรก ตอนที่เขาเป็นครูสอนดำน้ำประมาณ 1 ปี และมาเริ่มทำธุรกิจกับครอบครัวตน เริ่มที่ร้านอาหาร แม่ทำมาก่อนตั้งแต่ตอนอายุ 20 ปี เริ่มต้นคบหากัน ทำร้านอาหารทำอาหารได้ 3 ปี แล้วทำธุรกิจดำน้ำต่อ

 

และเริ่มต้นทำโรงเรียนสอนดำน้ำ โดยมีฝรั่งทำมาก่อนแล้วเราจึงไปเซ้งต่อ หนุ่มเป็นคนเริ่มแต่เงินมาจากการทำร้านอาหารร่วมกัน ส่วนรูปภาพในโซเชียลที่ถ่ายกับคนนั้นคนนี้ คือทำธุรกิจเกี่ยวกับบาร์ ภาพส่วนใหญ่เป็นลูกน้องและลูกค้า น้ำผึ้งอยู่ตรงนี้ส่วนใหญ่ บริการเหมือนแฟมิลี่ ที่เขามีคอร์คอยู่ยาว 2-3 เดือน ยันยืนไม่มีอะไรเกินเลย ไม่เคยมีปัญหาชู้สาวอย่างแน่นอน

 

ขอบคุณ : Pasakorn Sae-Eia และ Ratikorn Wongcharoen