- 18 ก.ย. 2561
พ่อเสี่ยเกาะเต่าเปิดใจยกมรดกให้ภรรยาของลูกชาย ตนไม่ขออะไรแค่ขอบิ๊กไบก์สุดรักของลูกชายแค่อย่างเดียวก็พอ
จากกรณี หนุ่มใหญ่ไบค์เกอร์ วัย47ปี ไลฟ์สดฆ่าตัวภายในบ้านพักของตนเอง คาชุดมอเตอร์ไซค์ โดย เมื่อวันที่ 13 ก.ย. พ.ต.ท ศุภสัณห์ สุขแก้ว สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุยิงตัวตายภายในบ้านเลขที่ 88/37 ถ.พ่อขุนทะเล 22 หมู่ที่ 3 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี รีบตรวจสอบที่เกิดพร้อม พ.ต.อ.วิชอบ เกิดผล รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.นิพล ชาตรี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน
ต่อมาวันที่ 16 กันยายน 2561 ที่เมรุวัดโพธิ์นิมิต ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ฯ ภรรยา ลูก พร้อมด้วยพ่อและญาติทั้งสองฝั่ง รวมถึงเพื่อนๆบิ๊กไบค์จากชุมพร ภูเก็ต อุบลราชธานี อุดรธานีและแม่สอด พร้อมเพื่อนร่วมอาชีพจากเกาะเต่า มาร่วมส่งดวงวิญญาณทำการฌาปนกิจศพของนายพัชรพล เป็นครั้งสุดท้าย บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
นายสหภูมิ ศรีสกุลฉั่ว พ่อของนายพัธรพล เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว ส่วนตัวคิดว่าหนุ่มเป็นคนเลือกและตัดสินใจเอง ซึ่งเป็นปัญหาภายในครอบครัว ซึ่งขณะนี้ไม่ได้มีความกังวลเป็นห่วงเรื่องหลานเมื่อสูญเสียพ่อไป เนื่องจากหลานยังมีทั้งแม่ และครอบครัวฝั่งแม่ของหลานที่จะเลี้ยงดู
ด้าน น.ส.ธรรมมรณ์ นิชนิภาโฆสิต หรือคุณเก๋ น้องสาวของนายพัธรพล บอกว่า หลังจากทราบข่าวก็เดินทางมาร่วมไว้อาลัยให้พี่ชายครั้งสุดท้าย ถึงแม้ว่าพี่ชายจะสั่งเสียไม่ให้จัดงานศพ แต่ก็อยากทำให้ครั้งสุดท้ายเพื่อส่งไปสู่ภพภูมิที่ดี กับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่โทษใครทั้งนั้น
นอกเหนือจากนี้ น.ส.ธรรมมรณ์ นิชนิภาโฆสิต หรือ เก๋ น้องสาวของ เสี่ยเกาะเต่า ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตัดพ้อถึงการจัดงานศพให้พี่ชาย โดยระบุว่า ถึงเฮียหนุ่มที่คิดถึง เก๋จัดตกแต่งให้เฮียสวยแล้วนะ เฮียรู้เปล่าคนที่มาจัดดอกไม้ให้เฮียเค้าเป็นเพื่อนเฮีย เค้ารู้จักเฮียด้วยนะ เฮียรู้เปล่าว่า ชีวิตคนเรามันมีอะไรไม่แน่นอนจริงๆ เฮียหนุ่ม เฮียมาดูนะว่าน้องสาวเฮียเต็มใจ ตั้งใจมาจัดการออกมาอย่างสวยงามให้สมกับเฮียพี่ชายของเก๋
ขอบอกจากใจ การจัดตกแต่งหน้างานออกมาให้สวยไม่ใช่เป็นการสร้างภาพแต่ใดๆ ตามภาพจะเห็นรถอีกคันสีแดงคันนี้เฮียหนุ่มขับตลอด จึงขอให้เอามาเพื่อบังสกุลเท่านั้น เฮียหนุ่มจะไม่เหงาเท่านั้น ทุกอย่างที่ทำมีความตั้งใจเกิน 100% และไม่เคยอยากได้อะไรของใคร นอกจากสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมาเท่านนั้น
มีความสงสัยเกิดขึ้น เฮียหนุ่มและเก๋ เราไม่เคยทะเลาะกัน แค่เราสองคนคุยกันน้อยมากๆ เพราะเฮียสร้างครอบครัวเราจึงห่างกันเฮียหนุ่มเป็นคนดี จิตใจดี ความตั้งใจเฮียหนุ่มอยากสร้างครอบครัวที่สมบรูณ์ ครอบครัวที่อบอุ่น ตลกทำไมถึงคิดว่า เราสองคนทะเลาะกัน เหนื่อยใจกับความคิดที่แตกต่าง ใจคนเปลี่ยน ใครบอกเปลี่ยนไม่ได้ ก้อจริงคนตายก็ตายไปแล้วงัย แล้วยังงัยล่ะ มันไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้นเพราะไม่ต้องเป็นประเด็นกับใคร ใครทำตัวอย่างไร เป็นยังไง ชีวิตเราต้องเดินต่อไป #ทำดีที่สุดแล้วเข้าใจแล้วยิ่งทำยิ่งโดน #รักเฮียหนุ่ม
ต่อมาคุณเก๋ได้โพสต์ข้อความอีกครั้งว่า มีนักข่าวมาถามว่า รู้สึกอย่างไรกับการสูญเสียเฮียหนุ่ม (พี่ชายคนที่ 2 )
ตอบ..เสียใจมากแทบจะขาดใจ (ณ ตอนนี้ก็เริ่มทำใจได้) และไม่โทษใครทั้งนั้น โทษกันไปมาไม่เกิดประโยชน์อะไร ถ้าโทษกันต้องการหาคนผิดให้ได้แล้วเฮียหนุ่มฟื้นกลับมา โทษกันให้เต็มที่ แต่นี่คือ เฮียหนุ่มไปแล้วไม่มีวันกลับมาหาเราได้ ทุกอย่าง ทุกเรื่องและสาเหตุที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกมันมีความเป็นมาในความเป็นจริง ซึ่งพวกเราหลายไม่มีใครรู้ แต่มารับรู้ในวันที่เฮียหนุ่มจากพวกเราไป คนที่ไม่เจอปัญหาหนักๆ แบบเฮียหนุ่มไม่มีทางเข้าใจหรอกนะ
และเมื่อเวลา 9.00 น.ของวันที่ 17 ก.ย. 2561 ที่ท่าเทียบเรือเอนกประสงค์เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี น.ส.พึงพิศ จันทร์อินทร์ น้ำผึ้ง ภรรยานายพัธรพล เอกปฐมศักดิ์ หนุ่มไบค์เกอร์ไลฟ์สดยิงตัวตาย พร้อมด้วย นายสหภูมิ ศรีสกุลฉั่ว อายุ 73 ปี บิดาหนุ่มไบค์เกอร์ และญาติๆ 5คน ได้ร่วมกันนำเถ้ากระดูกนายพัธรพล ไปลอยอังคารที่บริเวณปากแม่ตาปี หลังจากเสร็จสิ้นพิธีเก็บเถ้ากระดูกที่เมรุวัดโพธินิมิต ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
โดยหลังเสร็จพิธี นายสหภูมิ บิดาของนายพัธรพล กล่าวเพียงสั้น ๆ หลังผู้สื่อข่าวสอบถามเกี่ยวกับการที่ญาติทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการเปิดดูคลิปที่นายพัธรพล บันทึกไว้ และเขียนข้อความว่าให้เปิดคลิปจำนวน 3 คลิปในไอแพดว่า ในช่วงบ่ายจะไปพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ส่วนตัวแล้วอะไรก็ได้ ดูหรือไม่ดูก็มีค่าเท่ากัน เพราะสูญเสียลูกชายไปแล้ว
ขณะที่ น.ส.พึงพิศ หรือ น้ำผึ้ง กล่าวว่าในช่วงเช้าขอจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน แล้วในช่วงบ่ายจะเดินทางไปพร้อมด้วยญาติของสามี ไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อดูคลิปตามที่พี่หนุ่มเขียนข้อความไว้ ด้าน พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เนื่องจากไม่มีใครทราบว่าคลิปของ นายพัธรพล ที่เคยแจ้งไว้ดังกล่าวเป็นลักษณะอย่างไร จึงให้พนักงานสอบสวนต้องเรียกทั้งสองฝ่ายมาทำความเข้าใจ และให้ทำหนังสือยินยอมข้อตกลงในเรื่องการเปิดเผยคลิปดังกล่าว หากเป็นความลับที่ไม่สามารถเปิดเผยสู่สาธารณชนได้ จะขอให้ทั้งสองฝ่ายเก็บไว้เป็นความลับห้ามเปิดเผยโดยเด็ดขาด
ต่อมาในวันเดียวกัน ที่สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้เรียก นายสหภูมิ ศรีสกุลฉั่ว อายุ 73 ปี พ่อ นายพัชรพล พร้อมด้วย น.ส.พึงพิศ จันทร์อินทร์ หรือ น้ำผึ้ง ภรรยา นายพัชรพล มาพูดคุยตกลงเรื่องทรัพย์สินของนายพัชรพล โดยนายสหภูมิกล่าวว่าเรื่องทรัพย์สินของลูกชาย ได้ยกให้ลูกสะใภ้ดูแลทั้งหมด และยินยอมให้ลูกสะใภ้เป็นผู้จัดการเรื่องมรดกของลูกชาย แต่สิ่งที่ขอไว้คือ รถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ฮอนด้ารุ่นแอฟริกาทวิน คันที่ลูกชายรักมากที่สุดเพียงคันเดียว และพวกจะไม่ขอออกข่าวที่ไม่ดี ขอให้ยุติการเสนอข่าว ถ้าพี่น้องได้ยินได้เห็น ขอให้เห็นใจ และขอให้ยุติทุกอย่างซึ่งทุกคนได้เคลียร์ปัญหาที่ค้างคาใจกันเรียบร้อยทุกเรื่องแล้ว ขอให้เรื่องทั้งหมดจบลงในวันนี้