โล่งหัวใจขรก.ผู้น้อย ศาลฎีกากลับคำพิพากษาส.ต.ท.ยิงชายคลั่ง ถือมีดไล่แทงตร.บนโรงพัก

สืบเนื่องจากกรณีที่ส.ต.ท.ไพสิฐ อ่อนสอง ยิงผู้ต้องหาเสียชีวิตระหว่างถือมีดไล่แทงขณะปฎิบัติหน้าที่อยู่ที่สถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยเมื่อปี 2559 แฟนเพจ ตำรวจไทย สู้ๆ ได้มีการโพสต์ภาพพร้อมข้อความเกี่ยวกับคดี ส.ต.ท.ไพสิฐ อ่อนสองชั้น ถูกศาลตัดสินเป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ จำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา หลังยิงคนร้ายที่ถืออาวุธมีดไล่แทงบนโรงพักจนเสียชีวิตเมื่อปี 2558

ข้อความที่ทางแฟนเพจโพสต์มีดังนี้ เป็นเรื่องที่น่าหดหู่ กรณี น้องนายสิบตำรวจ สภ.จุฬาลงกรณ์ ยิงคนร้ายที่ถืออาวุธมีดไล่แทงบนโรงพักจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 ก.ค.58 ศาลตัดสินเป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ จำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา เป็นอุทาหรณ์ ในการปฏิบัตหน้าที่นะครับ เรื่องของตำรวยยศเล็กๆ ที่ถูกมองข้ามด้วยชั้นยศ ตั้งใจทำงานอย่าแท้จริง แต่ศาลสั่งลงโทษ ไม่อยากโทษใครหรอกครับ แต่บ่งบอกถึงตำรวจยศน้อยๆ ทำอะไรก็ผิด แล้วต่อไปใครมันจะกล้าทุ่มเททำงานให้กับองค์กรบ้าง นายหายหน้าไปใหนหมด มีใครคิดช่วยเหลือน้องเขาอย่างแท้จริงบ้างชีวิตส่วนตัว และครอบครัวน้องเขาจะเป็นอย่างไร
จะลำบากสักแค่ไหน ทั้งๆ ที่ตั้งใจทำงาน

และในเฟซบุ๊กสถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า "สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ วันนี้(7 มิ.ย.58) เวลาประมาณ 6.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจกำลังบันทึกการจับกุม ผู้ต้องหาต่างด้าวจำนวน 6 คน ในความผิดฐาน มียาไอซ์ จำนวน 14 กิโลกรัม ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย อยู่ในห้องปฎิบัติการสายตรวจ

 

ปรากฏว่าได้มีนายอัสนีชัยพล (ทราบชื่อภายหลัง) อายุ 30 ปี ถืออาวุธมีดยาวทั้งด้ามประมาณ 1 ฟุต ลักษณะคล้ายคนเมายาเสพติด จะเข้าไปภายในห้องปฎิบัติการสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในห้องได้สอบถาม นายอัสนีชัยพลฯ ได้บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า "จะมาฆ่าคน"

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย ที่อยู่ภายในห้องปฎิบัติการช่วยกันทำท่าจะวิ่งเข้าใส่ ทำให้นาย อัสนีชัยพลฯ กลัวและถอยออกมาจากประตูห้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 3 นายจึงออกมาหน้าห้อง นายอัสนีชัยพลฯ ได้ตะโกนท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า " ใครเก๋าออกมา"

 

ระหว่างนั้น ว่าที่พันตำรวจโท ไพรรัตน์ วรรณี พนักงานสอบสวนเวร ได้ยินเสียงตะโกน จึงแง้มประตูด้านข้างของห้องพนักงานสอบสวนออกไปดู พบเห็นนายอัสนีชัยพลฯ ยืนถืออาวุธมีดอยู่ จึงสอบถามว่า มาทำอะไร นายอัสนีชัยพลฯตอบว่า "จะมาหาเรื่อง"

 

ว่าที่พันตำรวจโทไพรรัตน์ฯ เห็นท่าไม่ดี จึงบอกให้เจ้าหน้าที่สายตรวจคอยดูไว้ พร้อมทั้งเรียกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเสริม ระหว่างนั้นว่าที่พันตำรวจโทไพรรัตน์ฯ กำลังจะเดินออกไปช่วยดูเหตุการณ์ทางด้านหน้าโรงพัก ทางด้านประตูหน้าโรงพัก ได้เห็นนาย อัสนีชัยพลฯ ถืออาวุธมีด วิ่งเข้าจะแทง ส.ต.ต.ไพสิฐ อ่อนสองชั้น

 

ขณะนั้น ส.ต.ต.ไพสิฐฯ ได้ใช้อาวุธปืนประจำกาย(อาวุธปืนหลวง แบบลูกโม่ ขนาด.38 มม) ยิงขู่จำนวน 2 นัด แต่นายอัสนีชัยพลฯไม่ยอมหยุดได้ถืออาวุธมีดไล่เข้าแทง ส.ต.ต.ไพสิฐ ฯ ในระยะกระชั้นชิด ส.ต.ต.ไพสิฐฯ จึงใช้อาวุธปืนดังกล่าวจึงไปทาง นายอัสนีชัยพลฯ จำนวน 1 นัด ถูกลำตัวบริเวณหน้าอกข้างขวา นายอัสนีชัยพล ฯ ล้มลง

 

 

จากนั้นจึงไปเรียกเจ้าหน้าที่พยาบาล รพ.ประชาธิปัตย์ มารับตัวนายอัสนีชัยพล ฯ ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล ต่อมาเวลาประมาณ 7.00 น. ของวันเดียวกัน ทราบจากแพทย์ รพ.ประชาธิปัตย์ ว่า นายอัสนีชัยพลฯ ได้เสียชีวิตระหว่างรับการรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ"

 

 

 

ล่าสุดมีความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว โดยในเพจเฟซบุ๊ก “ตำรวจสู้ๆ” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “จำได้ไหม” ตำรวจสภ.ประตูน้ำฯกรณีส.ต.ท.ไพสิฐ อ่อนสอง ยิงผู้ต้องหาเสียชีวิต ที่ถือมีดไล่แทงขณะปฏิบัติหน้าที่ อยู่ที่สถานีตำรวจ ศาลฎีกา พิจารณาคดี แล้วเห็นควรยกฟ้องครับ วันนี้เป็นวันที่ตำรวจทั่วทั้งประเทศ รู้สึกดีใจเป็นที่สุด

 

รู้สึกดีใจแทนน้องอย่างบอกไม่ถูกถือว่าเป็นกำลังให้น้องกลับมาทำงานรับใช้ประชาชนต่อไป และทำให้ตำรวจทั่วประเทศที่ฟังข่าวนี่ รู้สึกมีกำลังใจทำงาน วันนี้ชื่นมื่นพี่น้องมาร่วมให้กำลังใจจำนวนมากครับ ผมสังเกตเห็นหลายท่านดีใจแทนน้อง จนน้ำตาไหลคลอออกมาอย่างบอกไม่ถูก ขอบคุณทุกๆ ท่านที่ได้เคยช่วยเหลือน้อง ส.ต.ท.ไพสิฐ วันนี้เรามีความสุขครับ

 

 

ต่อมาได้มีเฟซบุ๊ก ชื่อสุขสวัสดิ์ ภักดิ์ดี ได้โพสต์ข้อความลงในเพจเฟซบุ๊กของ ตำรวจไทย สู้ๆระบุว่า  เรียนเพื่อนข้าราชตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีวันนี้ (18 ก.ย.61) เวลา 09.00 น. ผมพร้อมเพื่อนข้าราชการตำรวจ เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา  กรณี ส.ต.ท.ไพสิฐ อ่อนสองชั้น ใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตนขณะปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ในชั้นต้นพิพากษาให้จำคุก 4 ปี และอุทธรณ์ให้จำคุก 2 ปี เนื่องจากป้องกันตนเกินสมควรแก่เหตุ ศาลฎีกาเหตุว่าจำเลยไม่มีทางเลือกอย่างอื่น ที่จะป้องกันภยันตรายที่ใกล้ถึงตัวจำเป็นต้องกระทำไป และสถานที่เกิดเหตุก็เป็นสถานีตำรวจฯ ซึ่งตำรวจใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ พิพากษายกฟ้องส.ต.ท.ไพสิฐ ได้รับการคุ้มครองตามกฏหมายครับ 

 

 

แต่เราก็เสียใจกับครอบครัวผู้ตาย ซึ่งจะหาวิธีการช่วยเหลือต่อไป ขอให้เพื่อนข้าราชการตำรวจศึกษากรณีนี้ไว้ งดวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่จำเป็น เป็นความซาบซึ้งในกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเราจะตั้งใจทำงานและปฏิบัติหน้าที่ต่อไปครับ เพื่อทราบ ขอบคุณครับ

 

 

ส.ต.ท.ไพสิฐ อ่อนสอง

 

 

 

คอมเม้นต์จากโซเชียล เข้ามาให้กำลัง แสดงความยินดี 

 

 

เหมือนฟ้ามีตา เห็นใจหัวอก ข้าราชการชั้นผู้น้อย 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : เพื่อนตำรวจแฟนคลับ , สุขสวัสดิ์ ภักดิ์ดี