ถอดวิธีป้องกันตัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ "คมเขี้ยว 4 ขา" การเอาตัวรอดแบบฉบับคนจริง

เป็นอีกเหตุการณ์สลดที่เพิ่งจะเกิดขึ้นจากกรณีเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2561 เมื่อเฟซบุ๊ก "ชมรมกู้ชีพกู้ภัยอีสานเหนือแห่งประเทศไทย TNEMR" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า มีเหตุสุนัขกัดเด็กได้รับบาดเจ็บสาหัส

    เป็นอีกเหตุการณ์สลดที่เพิ่งจะเกิดขึ้นจากกรณีเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2561 เมื่อเฟซบุ๊ก "ชมรมกู้ชีพกู้ภัยอีสานเหนือแห่งประเทศไทย TNEMR" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า มีเหตุสุนัขกัดเด็กได้รับบาดเจ็บสาหัสที่เกิดเหตุเป็นซอยหน้าบ้านเลขที่ 194/5 หมูที่ 2 ต.บ้านเขว้า อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ สุนัขที่รุมกัดเด็กมี 3 ตัว 1. เป็นสุนัขเพศผู้ อายุประมาณ 2 ปี 2. สุนัขเพศเมีย (แม่ลูกอ่อน) อายุประมาณ 2-3 ปี 3. สุนัขเพศผู้พันธุ์พุดเดิล อายุประมาณ 2-3 ปี ผู้เสียชีวิตเป็นเด็กหญิงอายุ 4 ปี 11 เดือน

 

 

ถอดวิธีป้องกันตัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ "คมเขี้ยว 4 ขา" การเอาตัวรอดแบบฉบับคนจริง
 

 

    ที่เกิดเหตุพบกองเลือดจำนวนมากยาวเป็นทางลงไปในกอหญ้าข้างทาง ใกล้กันพบรถจักยานเด็กผู้หญิง สีชมพูล้มอยู่กลางถนนภายในซอย สภาพผู้บาดเจ็บมีบาดแผลถูกสุนัขขย้ำที่ใบหน้าและศีรษะจนเป็นแผลฉกรรจ์ อาการสาหัส ภายหลังพลเมืองดีเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวก่อนที่จะถึงมือแพทย์
 

    เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พบว่ามีเด็กเสียชีวิตจากฆาตกรสี่ขา เพราะก่อนหน้านี้ได้มีเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งความสูญเสียในทำนองนี้อยู่หลายครั้งด้วยกันเช่น เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมาเกิดเหตุสุนัขจรจัดทำร้ายเด็กทารกวัยเพียง 19 วัน ขณะนอนอยู่ในเปลใต้ถุนบ้าน ใน ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช โดยร่างของเด็กหญิงเลือดท่วมทั้งตัว ถูกสุนัขกัดเข้าที่ใบหน้า หน้าผากด้านขวา จมูกและลำคอเป็นแผลฉกรรจ์ไม่ต่ำกว่า 10 แผลอาการสาหัส

 

 

ถอดวิธีป้องกันตัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ "คมเขี้ยว 4 ขา" การเอาตัวรอดแบบฉบับคนจริง
 

    ต่อมาหลังจากระดมทีมแพทย์ทุกสาขาเข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่โดยทำการเย็บแผลที่ถูกสุนัขกัดเรียบร้อย พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อ และฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก เซรุ่มและวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า ทำให้ต่อมาอาการเด็กพ้นขีดอันตราย 

 

    และอีกเหตุการณ์จากกรณี นางสาวสุทธิดา อายุ 23 ปี ได้พาลูกสาว 2 คน ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง บริเวณอ่างเก็บน้ำบางพระ หมู่ 6 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ขณะที่กำลังพาลูกสาวทั้ง 2 คน ไปเข้าห้องน้ำจู่ๆ มีสุนัขจรจัดวิ่งมากระโดดเข้าหาเด็กน้อยวัย 4 ขวบ แล้วกัดขย้ำฝังเขี้ยวเข้าที่บริเวณใบหน้า จนมีแผลเหวอะ ภายหลังนำตัวส่งโรงพยาบาล ทางแพทย์และพยาบาลได้ทำการรักษาด้วยการเย็บแผลบริเวณใบหน้ากว่า 16 เข็ม และได้ฉีดยากันโรคพิษสุนัขบ้าไว้ในเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้เด็กปลอดภัยแล้ว

 

ถอดวิธีป้องกันตัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ "คมเขี้ยว 4 ขา" การเอาตัวรอดแบบฉบับคนจริง

    ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ที่หยิบยกมานี้จะไม่มีความสูญเสียแต่แน่นอนว่าบาดแผลทางกายภาพอาจใช้เวลารักษาได้ แต่ความกระทบกระเทือนด้านจิตใจอาจส่งผลให้เด็กเหล่านี้ประสบปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันกับ "ความกลัว" ที่ฝังใจจากเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในอดีต

 

 

ถอดวิธีป้องกันตัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ "คมเขี้ยว 4 ขา" การเอาตัวรอดแบบฉบับคนจริง  

    ส่วนใหญ่แล้วเหตุการณ์ "สุนัขกัด" มักเกิดขึ้นจากการพบสุนัขที่มีสายพันธุ์ดุร้าย มีนิสัยก้าวร้าวเป็นทุนเดิม หรืออยู่ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ แต่ใช่ว่าจะป้องกันไม่ได้ไปเสียทีเดียวในกรณีที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานด้วยตัวเอง สิ่งที่ต้องพึงปฏิบัติเพื่อให้รอดพ้นจากคมเขี้ยวมีดังนี้

 

    สำคัญที่สุดคือห้ามแสดงอาการตื่นตระหนักเพราะโดยสัญชาติญาณของสุนัขจะมีเซนส์พิเศษ ที่เรียกว่า "สัมผัสได้ถึงความกลัว" (sense fear) หากตกใจหรือวิ่งหนีสุนัขจะมั่นใจในตัวเองและคิดว่าเป็นเหยื่อ และจะเข้าโจมตีในทันที

 

 

ถอดวิธีป้องกันตัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ "คมเขี้ยว 4 ขา" การเอาตัวรอดแบบฉบับคนจริง

 

    เมื่อสุนัขเข้าใกล้แบบประชิดตัว ให้ยืนนิ่งๆ วางสองมือไว้ข้างลำตัว เบนสายตาของคุณไปทางอื่น สุนัขจะหมดความสนใจ และเดินจากไป หากคุณมีท่าทีเมินเฉยกับมัน อย่าแกว่งแขน หรือเตะขาไปมา เพราะสุนัขอาจเข้าใจผิดว่าการเคลื่อนไหว คือ ภัยที่กำลังคุกคาม นอกจากนี้สุนัขทุกตัวจะมีสัญชาติญาณ "นักล่า" ในตัวเอง จึงไม่ควรหลีกหลี่ยงสถานการณ์ที่กำลังเผชิญด้วยการวิ่งหนี เพราะต่อให้วิ่งย่อมเป็นการยากที่จะหนีให้พ้นฉะนั้นตั้งสติให้มั่นพร้อมกับสบตาสุนัขค่อยๆ เดินถอยห่างออกมาจะดีที่สุด

    หากสถานการณ์อยู่ในภาวะคับขันและมั่นใจแน่ชัดแล้วว่าสุนัขเตรียมพร้อมจะโจมตีอาจต้องเสียสละโยนสิ่งของบางอย่างที่มีอยู่ในมือให้กับมัน เช่น กระเป๋าเป้ ขวดน้ำ ฯลฯ การทำเช่นนี้จะเบี่ยงเบนความสนใจได้นานเพียงพอที่จะหลบหนีออกมา นอกจากนี้ยังมีการป้องกันตัวโดยเป็นทริคการเผชิญให้ปลอดภัยที่สุด เช่น เมื่อพบสุนัขที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวให้เผชิญหน้าโดยการออกเสียงสั่ง หรือตะโกนดังๆ ด้วยน้ำเสียงที่น่าเกรงขามออกไปว่า "ถอยไป" หรือ "หลบไป" และต้องใช้โทนเสียงที่เข้มแข็ง ทุ้ม แสดงออกถึงความมั่นใจ เมื่อสุนัขเริ่มรู้สึกว่า ถูกข่มขู่กลับจะถอยห่างออกไปเอง

 

 

ถอดวิธีป้องกันตัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ "คมเขี้ยว 4 ขา" การเอาตัวรอดแบบฉบับคนจริง

 

    หากสุนัขมีทีท่าว่าจะกัดเรา เราสามารถป้องตัวเองได้โดยการตี เตะที่ลำคอ จมูก และท้ายทอย การทำเช่นนี้จะทำให้มันหยุดชะงัก และช่วยให้มีเวลาหนีได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดตัวของสุนัขเพราะถ้าเป็นการจู่โจมจากสุนัขตัวใหญ่อาจต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ทว่าหากเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเสียเองล้มลงขณะสุนัขกำลังโจมตีถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก เพราะเป็นการเปิดจุดสำคัญให้สุนัขได้โจมตี เช่น หน้าอก ศีรษะ และลำคอ หากโดนกัดเข้าบริเวณดังกล่าว อาจทำให้บาดเจ็บหนัก และมีโอกาสเสียชีวิตได้สิ่งที่พึงกระทำคือ ปกป้องอวัยวะสำคัญด้วยการพลิกตัว คว่ำหน้า งอเข่าขึ้น และใช้มือปิดหูทั้งสองข้างอย่ากรีดร้อง หรือกลิ้งตัวหนี เพราะการทำเช่นนี้จะยิ่งกระตุ้นให้สุนัขทวีความดุร้ายมากยิ่งขึ้น

 

 

ถอดวิธีป้องกันตัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ "คมเขี้ยว 4 ขา" การเอาตัวรอดแบบฉบับคนจริง

 

    แต่เมื่อถูกสุนัขกัดให้ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดทันที โดยเปิดน้ำให้ไหลผ่านบาดแผล และใช้สบู่ล้างหลายๆ ครั้งเพื่อขจัดคราบน้ำลาย หรือเศษดิน เศษฝุ่น ที่ติดมาจากปากสุนัข จากนั้นล้างซ้ำด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ใส่ยาฆ่าเชื้อในกลุ่มไอโอดีน เช่น ทิงเจอร์ หรือ เบตาดีน แล้วรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและเข้ารับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
 

    เหล่านี้คือวิธีปฏิบัติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสุนัขที่มีความดุร้าย หากปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเชื่อว่าจะสามารถลดความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน

 

 

ถอดวิธีป้องกันตัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ "คมเขี้ยว 4 ขา" การเอาตัวรอดแบบฉบับคนจริง