21 กันยายน "วันสันติภาพโลก" ถอดความสำคัญ ขอสันติภาพจงบังเกิด

21 กันยายน 2529 องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันนี้เป็น วันสันติภาพสากล (The International Day of Peace) และในวันนี้ 21 ก.ย. ได้เวียนมาบรรจบอีกครั้งสำนักข่าวทีนิวส์ขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักและประวัติความเป็นมาของวันสำคัญนี้กัน

21 กันยายน "วันสันติภาพโลก" ถอดความสำคัญ ขอสันติภาพจงบังเกิด

 

    21 กันยายน 2529 องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันนี้เป็น วันสันติภาพสากล (The International Day of Peace) และในวันนี้ 21 ก.ย. ได้เวียนมาบรรจบอีกครั้งสำนักข่าวทีนิวส์ขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักและประวัติความเป็นมาของวันสำคัญนี้กัน

 

    วันสันติภาพสากลจัดขึ้นเพื่ออุทิศแก่ "สันติภาพ" และยังเป็นการขอให้ประชาชนทุกประเทศหยุดใช้ความรุนแรง รวมถึงการหยุดการทำสงครามตลอดทั้งวัน ในสมรภูมิรบวันนี้ยังถือว่าเป็นโอกาสพิเศษเพื่อหยุดยิงยุติการประหัตประหารเป็นการชั่วคราว เพราะเป็นความจริงอันน่าเศร้าที่ประวัติศาสตร์โลกนั้น มนุษย์มักสร้างขึ้นจากความรุนแรงในรูปแบบของการทำสงครามเพื่อแสวงหาอำนาจ หาใช่สันติวิธี มีหลายชีวิตที่ต้องสูญเสีย ในวันนี้จึงมีการเฉลิมฉลองและสดุดีแก่สันติภาพที่บังเกิดทั้งกลุ่มการเมือง การทหารตลอดจนประชาชนโดยทั่วกัน

 

    เมื่อเข้าสู่วันที่ 21 ก.ย. ของทุกปี ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีการเคาะ "ระฆังสันติภาพ" โดยระฆังนี้ได้ถูกหล่อขึ้นจากเหรียญที่รับบริจาคมาจากเด็กทั่วโลก ถือเป็นของขวัญโดยสมาคมสหประชาชาติแห่งญี่ปุ่น มีข้อความ "สันติภาพโลกเบ็ดเสร็จจงเจริญ" จารึกอยู่ด้านข้างของระฆัง และทราบโดยทั่วกันว่าเป็นเสมือนเครื่องเตือนใจมวลมนุษยชาติถึงมูลค่าของสงคราม

 

 

21 กันยายน "วันสันติภาพโลก" ถอดความสำคัญ ขอสันติภาพจงบังเกิด

    ในอดีตวันสันติภาพมิได้ถูกกำหนดอย่างเป็นทางการเฉกเช่นทุกวันนี้ ทว่าในปี 2524 คณะกรรมการสหประชาชาติได้ประกาศมติที่รับรองโดยคอสตาริกา ให้ทุกวันอังคารที่ 3 ของเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นวันเปิดประชุมสามัญ เป็นวันสันติภาพโลกหรือวันสันติภาพสากล เพื่อให้ความสำคัญกับสันติภาพ

 

 

21 กันยายน "วันสันติภาพโลก" ถอดความสำคัญ ขอสันติภาพจงบังเกิด

 

    หลังจากนั้น 20 ปีต่อมา คณะกรรมการสหประชาชาติได้ประกาศมติที่รับรองโดยคอสตาริกากำหนดให้วันที่ 21 ก.ย. ของทุกปีให้เป็นวันยุติทุกความรุนแรงในทุกรูปแบบและประกาศเป็น "วันสันติภาพโลก" สากล อีกทั้งยังกำหนดให้ตั้งแต่ปี 2544 - 2554 เป็นทศวรรษสากลเพื่อวัฒนธรรมสันติภาพและความไม่รุนแรงเพื่อเด็กของโลก 

 

โดยมีจุดมุ่งหมาย 6 ประการ ดังนี้
1. ให้ความเคารพต่อชีวิตทั้งมวล เคารพชีวิตและศักดิ์ศรีของแต่ละบุคคล โดยไม่แบ่งชนชั้นหรือลำเอียง
2. ไม่ใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะต่อเด็กและเยาวชน
3. แบ่งปันกับผู้อื่นอย่างมีน้ำใจ เพื่อขจัดการแบ่งแยก ความไม่ยุติธรรม และการกดขี่ทางการเมืองและเศรษฐกิจ
4. รับฟังเพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อกัน เคารพเสรีภาพในการแสดงออก และยอมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม
5. สงวนรักษาผืนโลก ฝึกดำเนินชีวิตอย่างรับผิดชอบและเคารพต่อทุกชีวิตในโลก เพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติบนผืนโลก
6. สร้างความสมานฉันท์ เคารพต่อหลักการประชาธิปไตย และให้โอกาสทุกฝ่ายมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะสตรี

    โดยจุดมุ่งหมายทั้ง 6 ประการ มีเป้าหมายให้ผู้คนในสังคมทุกกลุ่มอายุได้ตระหนักถึงความสำคัญของสันติภาพภายใน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของวัฒนธรรมสันติภาพที่เกิดจากความสงบเงียบภายในจิตใจของแต่ละคน เพื่อให้เราได้รู้จักตนเองและแหล่งพลังชีวิตที่สามารถใช้ปัญญาเป็นเครื่องชี้นำทางในการขจัดทุกข์และสร้างสันติสุขให้แก่ตนเองรวมทั้งแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่น และในปี 2561 นี้เอง สหประชาชาติได้มีคำขวัญไว้ว่า "The Right to Peace - The Universal Declaration of Human Rights at 70"

 

    สัญลักษณ์สากลของสันติภาพ คือ นกพิราบคาบกิ่งมะกอก เนื่องจากชาวตะวันตกเชื่อว่านกพิราบเป็นวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ตามพระคัมภีร์ไบเบิล และยังเป็นสัญลักษณ์ของนักเรียกร้องสิทธิมนุษยชนรวมทั้งแสดงถึงวิชาชีพสื่อสารมวลชน เพราะนกพิราบมีความสามารถในการจดจำเส้นทางได้อย่างแม่นยำ ผู้คนจึงใช้นกพิราบในการสื่อสาร ส่วนกิ่งมะกอกเป็นสิ่งที่ชาวกรีกโบราณใช้ในพิธีสำคัญ เป็นมงกุฎสวมให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งและมอบให้ผู้ชนะในการแข่งกีฬาโอลิมปิกอีกด้วย

 

 

21 กันยายน "วันสันติภาพโลก" ถอดความสำคัญ ขอสันติภาพจงบังเกิด

 

 

21 กันยายน "วันสันติภาพโลก" ถอดความสำคัญ ขอสันติภาพจงบังเกิด