- 24 ก.ย. 2561
ลำดับเหตุการณ์ นายสุรสิทธิ์ ชายพิการผู้อ้างตนว่าเป็น ร่างทรงปู่ฤาษีตาไฟ ลวงสาววัย 17 ปี ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ที่รีสอร์ต ก่อนลงมือกระทำชำเรา
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 61 ได้มีการแจ้งเหตุหญิงสาวถูกกระทำชำเรา ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง จ.ศรีสะเกษ ผู้เสียหายเป็นหญิงอายุ 17 ปี เธอเผยว่า ตนเองถูกนายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ ผู้อ้างตนว่าเป็น ร่างทรงฤาษีตาไฟ กระทำชำเราถึง 4 ครั้ง ขณะทำพิธีสะเดาะเคราะห์ที่รีสอร์ต เมื่อช่วงวันที่ 26-27 ส.ค. 61 แต่ว่าคดีนี้ ก็มีสิ่งที่น่าสงสัย เพราะคนร้ายผู้ก่อเหตุ เป็นคนพิการจากโรคโปลิโอ และปฏิเสธว่าไม่ได้ทำแต่อย่างใด
ซึ่งทางด้าน นางวนิดา พละศักดิ์ แม่ของนายสุรสิทธิ์ ก็ออกมายืนยันอย่างมั่นใจว่า ลูกชายพิการตั้งแต่กำเนิด ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่จะไปก่อเหตุ จึงเกิดคำถามตามมาจากสังคมว่า สาว 17 ปี รายนี้ ถูกฤาษีตาไฟจริงหรือ ?
ต่อมา ทางด้านพี่สาวของเหยื่อสาววัย 17 ปี ได้เล่าว่า แท้จริงแล้ว นายสุรสิทธิ์ หรือ ร่างทรงฤาษีตาไฟ ไม่ได้พิการมาก โดยระหว่างที่ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ พร้อมกับกระทำชำเราเหยื่อนั้น นายสุรสิทธิ์ได้ข่มขู่ว่า หากเหยื่อออกไปจากพิธี และไปบอกเรื่องที่ถูกกระทำชำเรา จะทำให้เคราะห์หนักขึ้น ครอบครัวอยู่ไม่เป็นสุข และจะตายยกครัว ซึ่งเหยื่อก็เกิดความกลัว จึงจำไจอยู่ทนต่อไปไม่กล้าหนี โดยหลังจากเกิดเหตุ เหยื่อสาววัย 17 ปี มีสภาพจิตใจย่ำแย่เป็นอย่างมาก
อ่านข่าว : คดีพลิก? พี่สาวเด็ก แฉนาทีสวาท “ฤาษีตาไฟ” แกล้งพิการ ลุกขืนใจ น้องสาววัย17ปี คาโรงแรม? (คลิป)
บนโลกออกไลน์ ได้มีการตั้งข้อสังเกตและจับผิดว่า นายสุรสิทธิ์นั้นสามารถนั่งได้หลากหลายท่า แตกต่างกับตอนที่ออกสื่อ ที่ไม่สามารถนั่ง นอน ขยับตัวได้ ต้องอาศัยผู้อื่นคอยอุ้มพยุง จึงทำให้เชื่อว่า นายสุรสิทธิ์ อาจแกล้งเป็นคนพิการมาก ก็อาจเป็นไปได้!!
อ่านข่าว : โป๊ะแตก? โซเชียลลากไส้ ขุดภาพ "ฤาษีตาไฟ" แกล้งเป็นง่อย! (ภาพ)
ทางด้าน นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม ก็ได้ออกมาเผยว่า อาจเป็นไปได้ที่ นายสุรสิทธิ์ หรือ ร่างทรงฤาษีตาไฟ จะแกล้งพิการมากเกินปกติ แต่การแกล้งนั้นอาจทำไม่ได้นาน ซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์ ด้วยการจัดสถานการณ์ ให้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน คับขัน เพื่อดูว่าผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม นายแพทย์สิทธา ยังบอกต่ออีกว่า จากการสังเกตพบว่า หัวเข่าของนายสุรสิทธิ์ด้าน นั่นอาจหมายความว่า นายสุรสิทธิ์ใช้หัวเข้าในการเคลื่อนที่อยู่บ่อยครั้ง และแม้ว่าจะพิการแขนขาลีบ แต่ก็สามารถมีแรงได้
ถึงอย่างไรแล้ว ก็ได้มีการออกมาตั้งข้อสังเกต พิรุธ 5 ข้อ เกี่ยวกับ นายสุรสิทธิ์ ว่าเขานั้นยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ คือ 1. สามารถเล่นเฟซบุ๊ก และพิมพ์ข้อความได้ 2.พูดคุยได้รู้เรื่อง 3.ลุกนั่งขยับเคลื่อนตัวได้ 4.แขนมีแรง และ 5. ใบหน้าไม่บิดเบี้ยว ทั้งนี้ ทางด้านนายทวี เทียนทอง คนสนิทของนายสุรสิทธิ์ ผู้พาสาว 17 ปี ไปทำพิธีเผยว่านายสุรสิทธิ์ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ใช้มือเขียนยันต์ ฟันมีด และไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นเมื่อออกสื่อ
อ่านข่าว : หลักฐานคาตา! "เด็กผู้เสียหาย" แฉพิรุธ 5สาเหตุ "ฤาษีตาไฟ" แกล้งพิการ? (คลิป)
กระทั่งในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาหนัก 3 ข้อหา แก่ นายสุรสิทธิ์ หรือ พ่อปู่ฤาษีตาไฟ คือ พรากผู้เยาว์อายุกว่า 18 ปี , ใช้กลอุบายในการหลอกลวงกระทำชำเราหญิงที่อายุกว่า 18 ปี , กระทำอนาจาร เด็กหญิงที่มีอายุกว่า 18 ปี โดยทางครอบครัวของนายสุรสิทธิ์ ได้ตั้งทนายเพื่อมาสู้คดี
อ่านข่าว : โดนแล้ว! "ฤาษีพิการ" ถูกแจ้ง 3ข้อหาหนัก ขืนใจสาว 17 ฝั่งครอบครัวตั้งทนายสู้ !
ทางฝั่ง แม่บ้านทำความสะอาดของรีสอร์ตในที่เกิดเหตุ ได้ออกมากล่าวว่า เช้าวันเกิดเหตุ ตนได้มาทำความสะอาดในห้องที่เกิดเรื่อง พบปัสสาวะ นองอยู่ข้างเตียง บนที่นอนมีร่องรอยของคนนอนปกติ ไม่ได้มีร่องรอยการมีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด และก็ไม่มีร่องรอยของการทำพิธีด้วย ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านของนายสุรสิทธิ์ ก็ออกมาตอบโต้ทางฝั่งของสาวอายุ 17 ปี ว่าไม่ปักใจเชื่อว่านายสุรสิทธิ์จะกระทำชำเราได้จริง พร้อมกับย้อนถามสาว 17 ด้วยว่า กลัวคำสาปมากกว่าเสียตัวเช่นนั้นหรือ ?
อ่านข่าว : เด็ดล่าสุด เปิดหลักฐานใหม่ "แม่บ้านรีสอร์ต"เล่าสภาพห้องที่ฤาษีตาไฟใช้ทำพิธี พลิกคดีอีกตลบ (คลิป)
อ่านข่าว : ตอกหน้าสาว 17 เพื่อนบ้านฤาษีตาไฟ ย้อนถามกลัวคำสาปมากกว่าเสียตัว? (คลิป)
กระทั่งวันที่ 23 ก.ย. 61 ได้มีการเปิดเผยผลการตรวจพิสูจน์ ร่างกาย สาว 17 ปี จากโรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พบว่า มีร่องรอยของการถูกร่วมเพศ ชัดเจน ขณะที่นายสุรสิทธิ์ ยังอยู่ในช่วงการฝากขังครั้งที่ 2 และได้รับอนุญาตให้ประกันตัว โดยจะต้องมารายงานตัวต่อศาลตามนัดทุกครั้ง
อ่านข่าว : ด่วนๆ ออกแล้วผลตรวจ Dna "ฤาษีตาไฟ" ขืนใจ "เด็ก17 ปี" มีร่องรอยชัดเจน!??
อ่านข่าว : ผลตรวจออกแล้ว! คดีฤาษีตาไฟข่มขืนสาว 17 ผู้การฯยัน ตัดสินตามหลักฐาน ก่อนเร่งสรุปสำนวนส่งฟ้อง