เพลิงไหม้สลด นศ.มหาลัยดังดับ ถอดบทเรียน วิธีปฏิบัติเพื่อเอาชีวิตรอดจากอัคคีภัย

   

 

    กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สลดจากอัคคีภัย กรณี นักศึกษาสาว ปี 2 ม.หอการค้า ถูกไฟคลอกจนเสียชีวิตคาบ้านเช่า เมื่อเวลา 09.20 วันที่24 ก.ย. 2561 สน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในซอยพหลโยธิน 24 แยก 2 แขวงจอมพลเขตจตุจักร กทม. จึงเร่งนำกำลังพร้อมประสานรถน้ำพร้อมูลนิธิกู้ภัยเข้าควบคุมสถานการณ์

 

 

 

    ที่เกิดเหตุพบบ้านเช่าปลูกติดกัน 6 หลัง เพลิงลุกไหม้ไปแล้ว 2 หลัง ทว่าการสกัดเพลิงเป็นไปได้อย่างยากลำบากเพราะซอยคับแคบ เดินรถไม่สะดวก ภายหลังเพลิงสงบในซากปรักหักพังของบ้านเลขที่ 511/1 พบศพนางสาวพนิดา อวยพรชัย อายุ 20 ปี ถูกไฟคลอกไหม้เป็นตอตะโกลักษณะนั่งพิงกำแพงอยู่บนเตียงนอนที่ชั้น 2

 

 

 

    สืบทราบจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ให้การว่า พบเปลวไฟลุกออกมาจากบริเวณชั้นล่างของบ้านเลขที่ 511/1 จากนั้นสามีของผู้เห็นเหตุการณ์ได้พยายามใช้ถังดับเพลิงเข้าสกัดไฟแต่ไม่ได้ผล จึงตะโกนให้ผู้ตายกระโดดลงมา เนื่องจากมีความสูงเพียง 2 เมตร แต่ผู้ตายไม่กล้าโดดลงมาจนกลายเป็นเหตุการณ์สลดในที่สุด สาเหตุของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้คาดว่าน่าจะมาจากธูปที่ไหว้พระ อย่างไรก็ตามต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่เพื่อสรุปสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ว่าเป็นธูปจริงหรือไม่

    เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พบผู้เสียชีวิตจากอัคคีภัยในเคหะสถาน ความน่ากลัวจากเพลิงไหม้นั้นสามารถคร่าชีวิตผู้อยู่อาศัยได้ไม่ยากนักเพราะในเวลาเพียง 1 วินาที ควันไฟจะลอยสูงขึ้นไปได้ถึง 3 เมตร และจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยส่วนใหญ่มักพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการสำลักควันไฟมากกว่าโดนไฟคลอก ความรู้ในการอพยพหนีไฟอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งจำเป็นยิ่ง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครคาดคิด แน่นอนว่าเหตุการณ์เหล่านี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องมีวิธีปฏิบัติ อพยพออกจากสถานที่ ที่เกิดเพลิงไหม้อย่างปลอดภัย

 

 

 

ข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเพลิงไหม้ 

 

สำคัญที่สุดคือตั้งสติให้มั่นอย่าตื่นตระหนัก มุ่งเน้นแก้ปัญหาเฉพาะเสียก่อน ในกรณีที่เพลิงไหม้เล็กน้อย ควรใช้ถังดับเพลิงควบคุมเพลิงในเบื้องต้นและโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาควบคุมเพลิง แต่หากสถานการณ์เพลิงไหม้เริ่มรุนแรงเกินจะควบคุม ตะโกนบอกหรือกดสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ เพื่อแจ้งให้ผู้อื่นทราบ จากนั้นให้รีบอพยพออกจากพื้นที่เกิดเพลิงไหม้ แล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่
 

การอพยพอย่างถูกวิธีนั้นเริ่มจากใช้ผ้าชุบน้ำปิดหรือใช้ถุงพลาสติกใสขนาดใหญ่อัดอากาศบริสุทธิ์แล้วนำมาครอบศีรษะ เพื่อป้องกันการสูดดมควันไฟเข้าสู่ร่างกายซึ่งทำให้หมดสติและเสียชีวิต

 

หมอบคลานต่ำหรือย่อตัวใกล้กับระดับพื้นมากที่สุด เนื่องจากอากาศบริสุทธิ์อยู่เหนือระดับพื้นไม่เกิน 1 ฟุต เพื่ออพยพไปสู่ประตูทางออกที่ใกล้ที่สุด

 

 

ในกรณีที่เป็นอาคารหลายชั้น ให้ใช้บันไดหนีไฟในการอพยพออกจากอาคารแทนการใช้ลิฟท์อย่างเด็ดขาด เพราะเมื่อเกิดเพลิงไหม้ไฟฟ้าจะดับ ทำให้ติดค้างภายในลิฟต์ จนขาดอากาศหายใจได้

 

สถานที่ ที่ไม่ควรอพยพเข้าไปคือบริเวณจุดอับอันได้แก่ ห้องน้ำ ห้องใต้ดิน รวมถึงไม่หนีไฟขึ้นไปบนดาดฟ้า เพราะไฟจะลุกลามจากด้านล่างขึ้นบน และยากต่อการเข้าช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ 

 

หากไฟลุกลามติดเสื้อผ้า ให้รีบถอดเสื้อผ้าโดยเร็วที่สุดนอนราบกับพื้นและกลิ้งตัวไปมาจนกว่าไฟจะดับ ห้ามวิ่งอย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นไฟจะลุกลามเร็วขึ้น

 

 

 

การเรียนรู้วิธีใช้ถังดับเพลิงที่ถูกต้องถือเป็นความสำคัญเช่นกัน โดยมีหลักการดังนี้

 

1. ดึง คือดึงสลักออกจากถังดับเพลิงซึ่งจะมีกระดูกงูล็อกอยู่ ถ้าดึงไม่ออกให้ใช้การบิดเเล้วค่อยดึง สลักก็จะหลุดออกมา
2. ปลด คือการปลดสายฉีดของถังดับเพลิงออก โดยจับบริเวณปลายสายฉีดแล้วดึงออกมาจะออกง่ายกว่าจับบริเวณโคนสาย
3. กด คือการกดคันบีบของถังดับเพลิงเพื่อให้เคมีในถังออกมาใช้ดับเพลิง
4. ส่าย คือการส่ายปลายสายฉีดไป-มาเพื่อดับเพลิง ควรฉีดไปยังฐานของเพลิงหรือต้นเพลิง ไม่ควรฉีดไปบริเวณเปลวเพลิง
 

 

    เหล่านี้หากเรียนรู้และปฏิบัติตนตามหลักการเบื้องต้นอย่างถูกต้องย่อมลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแก่ชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ได้อย่างแน่นอน