โชคยังดีที่งูอยู่นอกรถ แต่ถ้าอยู่ในบ้านล่ะ เปิดวิธีเอาตัวรอดเมื่อต้องประจันหน้าอสรพิษร้ายตัวยาว

เรียกได้ว่าเป็นคลิปที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Patcharaporn Patty Ungleang ได้แบ่งปันประสบการณ์ขนพองสยองเกล้า

    เรียกได้ว่าเป็นคลิปที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Patcharaporn Patty Ungleang ได้แบ่งปันประสบการณ์ขนพองสยองเกล้า เมื่อมีงูเจ้ากรรม เลื้อยอยู่บนหน้ากระโปรงรถและเลื้อยขึ้นบนหลังคาโดยที่ค้างอยู่แบบนั้นไม่ยอมไปไหน ซึ่งทางคุณพัชราภรณ์ สุทธิกุญชรเจ้าของคลิปดังกล่าวได้เผยว่า คลิปที่ตนโพสต์ไม่ได้หวังโด่งดัง แต่ต้องการแชร์ให้เพื่อนๆ ดูเท่านั้น

 

 

โชคยังดีที่งูอยู่นอกรถ แต่ถ้าอยู่ในบ้านล่ะ เปิดวิธีเอาตัวรอดเมื่อต้องประจันหน้าอสรพิษร้ายตัวยาว

 

    โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2561 ระหว่างที่คุณพัชราภรณ์ กำลังขับรถเดินทางออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน ระหว่างการจราจรที่ติดขัดอันเป็นปกติวิสัยของถนนย่านสุขุมวิทในช่วงเวลา 18.30 น. ขณะนั้นได้สังเกตเห็นสัตว์บางอย่างนอนเลียบอยู่บริเวณที่ปัดน้ำฝนหน้ารถ ประกอบกับก่อนหน้านี้มีคนนอกรถชี้ให้เห็น แต่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเป็นงูเหลือมขนาดใหญ่จึงทำการเบี่ยงซ้ายเพื่อจอดรถ พร้อมกระพริบไฟฉุกเฉินและบีบแตรรถขอความช่วยเหลือประจวบเหมาะกับมีพลเมืองดีและพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณนั้นเข้ามาช่วยเหลือ และจับงูตัวนี้เข้ากระสอบได้ในที่สุด

 

 

โชคยังดีที่งูอยู่นอกรถ แต่ถ้าอยู่ในบ้านล่ะ เปิดวิธีเอาตัวรอดเมื่อต้องประจันหน้าอสรพิษร้ายตัวยาว

 

    เรียกได้ว่าเป็นความโชคดีที่สัตว์ไม่พึงประสงค์ตัวนี้อยู่นอกรถ ทว่าหากพบเหตุการณ์ที่เลวร้ายหรือต้องเผชิญหน้ากับอรพิษร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเรียนรู้ที่จะรีบมืออย่างถูกวิธีถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

 

    ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของสัตว์ประเภทนี้เสียก่อน งู เป็นสัตว์เลื้อยคลาน ชนิดหนึ่ง ไม่มีขา ไม่มีเปลือกตา มีเกล็ดปกคลุมผิวหนังทั่วทั้งลำตัว ลักษณะลำตัวยาวซึ่งโดยขนาดของความยาวนั้น จะขึ้นอยู่กับชนิดของงู ปราดเปรียวและว่องไวในการเคลื่อนที่ มีลิ้นสองแฉกเพื่อใช้สำหรับรับความรู้สึกทางกลิ่น จัดอยู่ในชั้น Reptilia, ตระกูล Squamata ตระกูลย่อย Serpentes โดยทั่วไปแล้วงูจะกลัวและไม่กัด นอกเสียจากถูกรบกวนหรือบุกรุก

 

โชคยังดีที่งูอยู่นอกรถ แต่ถ้าอยู่ในบ้านล่ะ เปิดวิธีเอาตัวรอดเมื่อต้องประจันหน้าอสรพิษร้ายตัวยาว

    โดยปกติแล้วงูจะไม่ไล่ตามคน เพราะตามสัญชาติญาณมักเลื้อยไปอยู่ในที่ปลอดภัย ดังนั้นเมื่อประจันหน้าควรเดินหลีกออกไปให้ไกลเพื่อให้งูเลื้อยหลบไปอีกทางหนึ่ง และถึงแม้จะมั่นใจว่างูที่พบไม่มีพิษ แต่จงอย่าชะล่าใจถ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเพราะงูบางชนิดสามารถเปลี่ยนแปลงลวดลายหรือสีไปตามฤดูกาล

 

    ระยะการโจมตีของงูจะอยู่ที่ประมาณครึ่งหนึ่งของลำตัวงู และจะเป็นการโจมตีเพื่อป้องกันเท่านั้นไม่ใช่เพื่อกินเป็นอาหาร ทว่าเมื่อได้ฝังเขี้ยวแล้วอาจกัดมากกว่าหนึ่งครั้งหรือเพียงพอที่จะปล่อยพิษเข้าสู่กระแสเลือดได้ เทคนิคสำคัญประการหนึ่งคือเมื่อประจันหน้ากับงูในระยะกระชั้นชิดจงตั้งสติให้มั่นอย่าหันหลังหนีในทันทีทันใด อนทนรอจนกว่างูจะเลื้อยหนีไป เพราะโดยธรรมชาติสัตว์เลือดเย็นชนิดนี้มุ่งรักษาชีวิตและความปลอดภัยมากกว่าสนใจสัตว์ประเภทอื่น ถ้าไม่ใช่เพื่อต้องการ "ล่า" เป็นอาหาร เมื่อออกห่างจากงูได้แล้วให้รีบโทรหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด

 

 

โชคยังดีที่งูอยู่นอกรถ แต่ถ้าอยู่ในบ้านล่ะ เปิดวิธีเอาตัวรอดเมื่อต้องประจันหน้าอสรพิษร้ายตัวยาว

นอกจากนี้ยังพบว่าสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้งูเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านมีดังนี้

1. บ้านเป็นแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของงู เช่น บ้านที่มีหนูชุกชุมเพราะรกรุงรัง หรือมีบ่อน้ำ สระน้ำที่มีปลาเยอะ หรือมีการเลี้ยงสัตว์ขนาดเล็กเช่น หนู เป็นต้น

2. ลักษณะบ้านเป็นที่ "ปลอดภัย" สำหรับงู มักเป็นบ้านที่ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติของงู เช่น ไม่มีสุนัขไล่เห่า หรือไม่มีพังพอน

3. บ้านเป็น "ที่อยู่" อันเหมาะของงู ได้แก่ บ้านที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมสามารถใช้เป็นที่ หลบภัย วางไข่ เช่นบ้านที่ยกสูงมีใต้ถุนบ้านมีพื้นดินที่อบอุ่นส่วนใหญ่มักเป็นบ้านทรงโบราณ

ข้อควรระวังและควรรู้

1. เมื่อถูกงูกัดไม่ว่าจะเป็นงูพิษหรือไม่มีพิษ ควรทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยวิธีการขันเชนาะเหนือบาดแผลห้ามใช้ปากดูดพิษอย่างเด็ดขาด และรีบไปพบแพทย์โดยไม่จำเป็นต้องนำซากงูติดไปอย่างที่เข้าใจกันเพราะส่วนใหญ่แล้วถึงจะนำติดไปแพทย์ก็ไม่ทราบว่าเป็นงูชนิดใด 

2. เมื่อพบงูนอนนิ่ง อย่าคิดว่าเป็นงูที่ตายแล้ว เพราะงูเป็นสัตว์ที่สามารถแกล้งตายได้ สิ่งที่พึงปฏิบัติคือรักษาระยะห่างและใช้ไม้ยาวๆ ตรวจสอบว่าตายจริงหรือไม่

3. หากงูตั้งใจพุ่งโจมตีเพราะต้องการจะล่าเหยื่อ อาจต้องเสี่ยงเคลื่อนไหว โดยให้ทำอย่างระมัดระวังและเชื่องช้าที่สุด กรณีนี้ควรใช้กับงูที่ไม่ขยับเขยื้อนเกินกว่านาที

4. ถึงแม้ว่าแมวจะไม่ใช่ศัตรูตามธรรมชาติของงู ทว่าส่วนใหญ่พบว่าการเลี้ยงแมวสามารถป้องกันและสอดส่องงูขนาดเล็กได้

5. สวนที่มีขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยหญ้ารกเป็นตัวดึงดูดให้งูเข้ามาอยู่อาศัยดังนั้นควรหมั่นดูแลสวนให้ดูเรียบร้อย เพื่อให้มองเห็นได้ง่ายไม่มีจุดอับที่งูจะสามารถเข้ามาอยู่อาศัยได้

เหล่านี้คือข้อพึงปฏิบัติเบื้องต้นหากศึกษาและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเชื่อว่าจะสามารถลดอันตรายที่เกิดจากงูได้ไม่มากก็น้อย

 

โชคยังดีที่งูอยู่นอกรถ แต่ถ้าอยู่ในบ้านล่ะ เปิดวิธีเอาตัวรอดเมื่อต้องประจันหน้าอสรพิษร้ายตัวยาว