ไม่ไหวแล้ว ชายวัย 35 โพสต์เฟซบุ๊กถึงญาติพี่น้อง ก่อนพบอีกทีเสียชีวิตในห้องน้ำ

เกิดเหตุการณ์หนุ่มวัย 35 ปี โพสต์เฟซบุ๊กลาตายเนื่องจากเครียดเพราะมีโรคประจำตัว และปัญหาครอบครัว ก่อนตัดสินใจคอผูกเสียชีวิตคาห้องน้ำโรงงานย่านราษฎร์บูรณะ โดย ร.ต.อ.ธารโรจ ปุณณพานิช รองสารวัตรป้องกันและปราบปรามสนราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสุขสวัสดิ์ ว่ามีเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตผูกคอภายในห้องน้ำหลังห้องพักโรงงานแห่งหนึ่ง ในซอยพุทธบูชา 36 แยก 2 เข้าสุดซอย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมตำรวจชุดสืบสวน และได้ประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชแล้วมูลนิธิปอเต็กตึ้งเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ 

 

โดยในที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตยางซีนเครื่องยนต์ เลขที่ 14/11 ถนนพุทธบูชา ซอยพุทธบูชา 36 แยก 2 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. จุดเกิดเหตุบริเวณห้องน้ำด้านหลังหอพักของคนงานโรงงานดังกล่าว พบชาวบ้านกำลังยืนมุงดูบริเวณโต๊ะใต้ต้นมะขาม พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือนายบุญศรี ศรีกะชา อายุ 35 ปี ที่อยู่ 99 หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยตึ๊กชู อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และพบเชือกสายเคเบิลสีขาวยาวประมาณ 2 ม. รัดอยู่ที่ลำคอผู้ตาย และห่างไปประมาณ 5 เมตร บริเวณในห้องน้ำ พบเชือกที่ผูกต่อกับสายเคเบิ้ลที่ผู้ตายใช้ผูกคอตัวเองบริเวณขื่อหลังคาห้องน้ำ เนื่องจากมีญาติลงมาพบแล้วได้ช่วยกันตัดเอาตัวผู้ตายลงมา

 

 

 

 

 

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามนายโกวิทย์ เสาวัง อายุ 27 ปี ที่อยู่ 129 หมู่ที่ 2 ตำบลไพรบึง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นญาติของผู้ตาย และทำงานอยู่ในโรงงานเดียวกันกับผู้ตาย ได้เล่าให้ฟังว่า ตนกับผู้ตายได้ทำงานในโรงงานดังกล่าวมาหลายปีแล้ว และก็อยู่ห้องพักใกล้กัน ผู้ตายมีลูกทั้งหมด 3 คน เป็นหญิงคนโตอายุ 5 ขวบ ผู้หญิงคนที่ 2 อายุ 3 ขวบ และคนสุดท้องเป็นผู้ชายอายุ 1 ปี 3 เดือน และป่วยเป็นโรคศีรษะโต

 

 

 

 

ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้มีอาการซึมเศร้าและอาการเครียด ผู้ชายเคยพูดกับตนว่าเครียดเรื่องครอบครัวเนื่องจากต้องเลี้ยงลูกเล็กทั้งสามคน และแฟนก็ไม่ได้ทำงานคอยดูแลลูกชายคนเล็กที่ป่วยเป็นโรคศีรษะโต ผู้ตายกลัวเงินค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวจะไม่พอใช้ และมาช่วงหลังผู้ตายไม่ค่อยสบายได้ไปตรวจที่โรงพยาบาล ทางหมดบอกว่าผู้ตายอาจจะเป็นไส้เลื่อน จากนั้นมาผู้ตายก็มีอาการซึมเศร้าคุยพูดตัดพ้อตัวเอง 

 

จนมาวันนี้ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้โพสต์เฟซบุ๊กของตัวเองแบบขอลาตาย จนเวลาประมานตอนเลิกงานตนเห็นผู้ตายได้ทำกับข้าวให้ถรรยาและลูกกินตามปกติตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งผู้ตายได้นั่งกินข้าวร่วมกับภรรยาและเมียและแม่ ก่อนจะขอตัวลงไปอาบน้ำช่วงเวลาประมาณ 19.30 น จากนั้นก็หายไปนานจนภรรยามาถามตนว่าเห็นผู้ตายไหม เพราะบอกว่าไปอาบน้ำแล้วหายไปนาน ตนจึงได้ลงไปดูที่ห้อง ซึ่งมี 2 ห้อง มีห้องหนึ่งที่ปิดไว้ตนจึงเรียกผู้ตายแต่ไม่มีเสียงตอบรับและประตูห้องน้ำก็ล็อคด้านในตนจึงเรียกเพื่อนมาช่วยงัดประดูพอเปิดออกมาติดกับตกใจเมื่อเห็นผู้ตายผูกคอ ตนกับเพื่อนจึงรีบช่วยแต่ไม่ทันเวลา 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์นิติเวชโนงพยาบาลศิริราชได้ชันสูตรสภาพศพผู้ตายไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงได้ให้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งช่วยนำศพส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลศิริราชเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ก่อนมอบศพให้ญาติรับไปดำเนินพิธีกรรมตามศาสนา