ถอดบทเรียน ไฟไหม้ยกครัวสลด พ่อ-ลูกสาว ดับ เรียนรู้วิธีเอาตัวรอดเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

 

   

    กลายเป็นเหตุสลดจากอัคคีภัยอีกครั้งกรณี ไฟไหม้บ้านพัก 2 ชั้น เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2561 เวลา 5.30 น. ในซอยสุวินทวงศ์ 29 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพฯ ติดกับโรงพยาบาลสัตว์ "ซื่อตรง" ทว่าทั้งหมดอยู่ภายในบริเวณรั้วเดียวกัน เป็นเหตุให้ถูกเพลิงไหม้วอดเกือบทั้งหมดเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการถูกไฟคลอกทันที 2 ราย คือ นางสาวธารวีธ์ โภคานิตย์ อายุ 16 ปี และด.ญ.นิชชานีร์ โภคานิตย์ อายุ 13 ปี ส่วนสามีภรรยาเจ้าของโรงพยาบาลสัตว์ คือ นสพ.ชาติชัย โภคานิตย์ อายุ 44 ปี และ สพญ.กันยวีร์ สุจิพงศ์ อายุ 44 ปี ผู้เป็นพ่อแม่ของทั้งสอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

    ทว่าช่วงกลางดึกของวันที่ 28 ก.ย. นสพ.ชาติชัย ได้เสียชีวิตลง เนื่องจากทนพิษบาดแผลไฟไหม้เกินกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ไม่ไหว ส่วน สพญ.กันยวีร์ ได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้ 15 เปอร์เซ็นต์ อาการไม่สู้ดีนัก ซึ่งทางเจ้าตัวยังไม่สามารถให้การกับทางเจ้าหน้าที่ได้เพราะสภาพจิตใจยังไม่พร้อมมีอาการผวาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังไม่ทราบว่าบุตรทั้ง 2 รวมถึงสามีเสียชีวิตแล้ว

 

 

 

    มีการเปิดเผยจากคนงานผู้ช่วยสัตวแพทย์ในเวลาต่อมาว่า ในวันเกินเหตุมีกลิ่นควันจึงวิ่งออกมาดูข้างนอก เห็นเปลวไฟกำลังลุกจึงเร่งตามคนมาช่วยและรีบหาผ้าชุบน้ำคลุมตัวเพื่อวิ่งขึ้นไปช่วยเด็กสาวทั้ง 2 ที่ยังคงติดอยู่ข้างใน แต่เมื่อเข้าไปถึงห้องนอนพบทั้งคู่เสียชีวิตในสภาพนั่งกอดกันบริเวณมุมห้อง คาดว่าเสียชีวิตจากการสำลักควันไฟ ส่วนสามีภรรยานอนหลับอยู่อีกห้อง ซึ่งผู้เป็นสามีพยายามช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ด้วยเพราะไฟที่โหมกระหน่ำจึงตัดสินใจกระโดดออกทางหน้าต่างลงในบ่อปลาที่อยู่ติดฝั่งด้านข้างของห้องกับภรรยา จนมีเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์ และนำส่งโรงพยาบาล

 

    แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดโศกนาฏกรรมจากอัคคีภัย ส่วนใหญ่แล้วเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นและไม่มีการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือมาก่อน เป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียขึ้น การเรียนรู้ว่าเพื่อศึกษาถึงสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้และการเอาตัวรอดให้ปลอดภัย จึงถือเป็นสิ่งจำเป็น

    สาเหตุของอัคคีภัยในเคหะสถานส่วนใหญ่มาจากความประมาท ในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าการใช้เชื้อเพลิงทั้งน้ำมันและแก๊ส หรือโดยเหตุจากธรรมชาติ นอกจากนี้มีอีกสาเหตุหนึ่งที่พบบ่อยคือ การจุดธูปเทียนทิ้งไว้แล้วไม่ดับ หรือการสูบบุหรี่แล้วทิ้งก้นกรองไปโดนวัตถุไวไฟ

 

 

 

โดยในวันนี้ สำนักข่าวทีนิวส์ได้รวบรวมวิธีป้องกันไฟไหม้บ้าน และวิธีปฏิบัติเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้น ดังนี้

 

วิธีป้องกันเหตุไฟไหม้บ้าน

1. ควรติดตั้งเครื่องตรวจจับควันไฟไว้ภายในบ้าน เป็นอุปกรณ์ที่หลายครัวเรือนมักมองข้ามและไม่ให้ความสำคัญ การติดตั้งควรติดในบริเวณที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้ หรือพื้นที่ ที่ต้องใช้ไฟในการทำกิจกรรมเช่น ห้องพระ หรือ ห้องครัว และควรหมั่นเช็คสภาพใช้งานของเครื่องตรวจจับควันไฟอยู่เสมอ อย่างน้อยที่สุดก็ปีละครั้ง

2. ในกรณีที่เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นขึ้นไป ควรสร้างทางหนีทีไล่ไว้ในยามฉุกเฉินหรือบันไดหนีไฟไว้ด้วย หรือสร้างชานบริเวณหน้าต่างให้กว้างพอที่จะใช้เป็นทางหลบหนี ถึงแม้อาจดูเป็นการสิ้นเปลืองไปบ้างแต่เมื่อคำนึงถึงชีวิตคนในครอบครัวแล้วก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่า

3. สมาชิกในครอบครัวทุกคนควรเรียนรู้วิธีรับมือเมื่อเกิดอัคคีภัย โดยเฉพาะเด็ก และควรมีการซ้อมการหนีไฟเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

4. ควรแปะเบอร์ฉุกเฉินหรือสายด่วน ไว้บริเวณที่เห็นได้ชัด เพราะเมื่อเกิดไฟไหม้ขึ้นผู้ประสบภัยมักไม่มีสติจนลืมเบอร์เหล่านี้ไปหมด

5. การเรียนรู้วิธีใช้ถังดับเพลิงถือเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน และควรมีติดบ้านไว้อย่างน้อย 1 ถังในตำแหน่งที่สามารถหยิบมาใช้ได้อย่างทันท่วงที และต้องให้สมาชิกในบ้านรู้ตำแหน่งดังกล่าวด้วย

6. บุหรี่ถือเป็นต้นเหตุเพลิงไหม้หลายครั้ง ดังนั้นถ้ามีสมาชิกในบ้านที่สูบบุหรี่ ควรจัดพื้นที่สูบให้เป็นกิจจะลักษณะมีที่เขี่ยบุหรี่ หลีกหลี่ยงการสูบบุหรี่ในบ้านอย่างเด็ดขาด

7. สำหรับครอบครัวที่มีเด็กอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น ควรปลูกฝังและสอนให้อยู่ห่างไกลจากไฟให้ได้มากที่สุด ไม่ควรปล่อยให้เด็กในวัยนี้เล่นตามลำพัง เพราะด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจนำมาซึ่งความเสียหายได้

 

 

แต่ถ้าต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ไฟไหม้ มีข้อพึงปฏิบัติที่สำคัญดังนี้

1. ถ้าได้กลิ่นไหม้ ให้รีบสำรวจต้นตอของกลิ่นและจุดเกิดเหตุหลังจากนั้นรีบพาสมาชิกในบ้านออกมาให้เร็วที่สุด ซึ่งถ้าเกิดเหตุในเวลากลางคืนให้ร้องขอความช่วยเหลือให้ดังที่สุด เพื่อปลุกทุกคนให้ตื่น อย่าห่วงทรัพย์สินในบ้าน รักษาชีวิตของตนเองและครอบครัวไว้ก่อนจะเป็นการดีที่สุด

2. กรณีจวนตัวและหาทางออกจากบ้านไม่ได้ ให้รีบหาผ้าชุบน้ำให้ชุ่มจากนั้นนำมาปิดปากและจมูก พร้อมก้มตัวลงต่ำคลานด้วยเข่าและมือทั้ง 2 ข้าง เพื่อหนีควันไฟ โดยรีบหาทางออกมาจากตัวบ้านให้เร็วที่สุด เพราะวิธีดังกล่าวจะช่วยให้รอดพ้นจากการสูดควันไฟ ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ มักพบว่าเสียชีวิตจากการสำลักควันก่อนที่ไฟจะมาถึงตัว

3. หากมีเปลวไฟติดเสื้อ ให้รีบถอดเสื้อออกโดยเร็วหรือนอนราบไปกับพื้น กลิ้งตัวไปมาเอามือทั้งสองปิดหน้า จนไฟดับสนิท เมื่อแน่ใจว่าไม่มีเปลวไฟบนร่างกายให้รีบหาทางออกทันที

4. ส่วนใหญ่แล้วเมื่อมนุษย์อยู่ในสถานการณ์คับขันมักไม่มีสติ ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นจงตั้งสติให้มั่นโดยอย่าตระหนกตกใจเกินไปนัก เพราะจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากยิ่งขึ้น

5. หากเกิดเหตุเพลิงไหม้ และติดอยู่ชั้นบนของบ้านไม่สามารถหาทางออกในขณะนั้นได้ ให้พยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออาจตะโกนหรือโบกมือไปมา เพื่อให้คนในละแวกนั้นเห็น ที่สำคัญต้องอยู่บริเวณที่ปลอดภัยในระดับหนึ่งเพื่อป้องกันไฟมาถึงตัว เช่นอาจเป็นระเบียงบ้าน 
  

เหล่านี้หากเรียนรู้และปฏิบัติตนตามหลักการเบื้องต้นอย่างถูกต้องย่อมลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแก่ชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ได้ไม่มากก็น้อย