- 30 ก.ย. 2561
ร่างกายมนุษย์ถือเป็นสิ่งที่ซับซ้อนมากหากเรามองด้วยตาเปล่าเราจะไม่รู้เลยว่าโรคร้ายที่แฝงตัวมาอยู่ในร่างกายของเรานั้นมีอะไรบ้างนอกจากจะแสดงอาการผิดปกติออกมาจนทำให้เราสังเกตได้ จึงจะไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคเมื่ออาการนั้นแสดงออกมา แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจไม่แสดงอาการอะไรเลยรู้ตัวอีกทีก็เป็นหนักแล้ว
ร่างกายมนุษย์ถือเป็นสิ่งที่ซับซ้อนมากหากเรามองด้วยตาเปล่าเราจะไม่รู้เลยว่าโรคร้ายที่แฝงตัวมาอยู่ในร่างกายของเรานั้นมีอะไรบ้างนอกจากจะแสดงอาการผิดปกติออกมาจนทำให้เราสังเกตได้ จึงจะไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคเมื่ออาการนั้นแสดงออกมา แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจไม่แสดงอาการอะไรเลยรู้ตัวอีกทีก็เป็นหนักแล้ว บางรายโชคร้ายกว่านั้นมารู้ตัวตอนที่สายไปเสียแล้ว เหตุปัจจัยจากอาการป่วยเหล่านี้มีผลมาจากการใช้ชีวิตประจำวันด้วยอาการซ้ำๆ เดิมๆ เมื่อร่างกายถูกใช้งานอย่างหนักในที่สุดก็ไม่สามารถรับไว้แสดงโรคออกมาในที่สุด
วันนี้สำนักข่าวทีนิวส์จะพาผู้อ่านไปตรวจเช็คร่างกายแบบง่ายๆ ด้วยตัวเองจาก 10 สัญญาณฟ้องของร่างกายที่กำลังบอกว่า เรานั้นป่วยอยู่แต่ไม่แสดงอาการรุนแรง โดยนายแพทย์ธเนศ อมรพิทักษ์กุล เป็นผู้เขียนไว้ในหนังสืออายุยืน หมื่นปี ไว้ได้อย่างน่าสนใจดังนี้
1. ถึงเวลาอาหารแล้วไม่หิว
อาการนี้อาจเกิดขึ้นกับใครหลายๆ คนเมื่อเข้าสู่ภาวะเครียด ต้องสังเกตตัวเองว่าหากทานอาหารแค่ 1 - 2 มื้อ ก็สามารถอยู่ได้ตลอดทั้งวันอาการเช่นนี้บ่งบอกว่าร่างกายของเรานั้นกำลังเข้าสู่ระบบกระเพาะอาหารและลำไส้ที่ผิดปกติ เพราะร่างกายที่ปกตินั้นเมื่อถึงเวลาอาหารจะหิว เนื่องจากการทำงานของลำไส้หลั่งน้ำย่อยออกมาตามเวลาของอาหาร หากไม่หิวน้ำย่อยจะไม่ออกมา ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบการย่อยและดูดซึมอาหารกำลังมีปัญหา
ในลักษณะนี้ไม่ว่าเราจะทานอะไรเข้าไป ร่างกายก็จะไม่ดูดซึมจนในที่สุดร่างกายจะเข้าสู่สภาวะขาดอาหาร จนทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง เสี่ยงต่อการเป็นโรคได้ง่าย และอาจลุกลามไปกระทบกับระบบอื่นของร่างกายเพราะไม่มีสารอาหารไปหล่อเลี้ยงได้เพียงพอ อาจนำไปสู่โรคมะเร็งทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็นกระเพาะอาหาร ลำไส้ ตับหรือตับอ่อน
2. ดื่มน้ำเท่าไหร่คอก็แห้ง
อาการกระหายน้ำเช่นนี้เกิดขึ้นจาก 2 สาเหตุหลักคือ
2.1 ภายในร่างกายมีอาการร้อนในของเหลว (นอกเหนือน้ำ) ในร่างกายมีปริมาณไม่เพียงพอ ดังนั้นไม่ว่าดื่มน้ำมากแค่ไหนก็ยังทำให้รู้สึกคอแห้งอยู่ดี
2.2 เลือดหมุนเวียนไม่ดี ทำให้การหมุนเวียนของน้ำในร่างกายพลอยไหลเวียนไม่ดีตามไปด้วย เมื่อเลือดไปหล่อเลี้ยงบริเวณลำคอไม่เพียงพอ จะส่งผลให้รู้สึกคอแห้งและกระหายน้ำได้ทั้งที่สาเหตุแท้จริงนั้นไม่ได้เกี่ยวกับร่างกายขาดน้ำเลยแม้แต่น้อย
3. นอนหลับเท่าไรก็ไม่พอ
อาการข้างต้นคือไม่ว่าจะนอนมากเท่าไรก็ไม่อิ่ม บางคนอาจรู้สึกง่วงในช่วงกลางวันอยู่บ่อยๆ อาการแบบนี้เกิดขึ้นจากพลังงานในร่างกายไม่เพียงพอเหมือนกับแบตเตอรี่มือถือที่เก็บประจุไฟได้น้อย เมื่อถูกใช้ไปเพียงนิดเดีย พลังงานก็จะหมดง่าย อาการนี้จึงเป็นตัวบ่งชี้ว่าร่างกายขาดพลังงานอันเป็นผลมาจากนิสัยการใช้ชีวิตที่ผิด ทั้งเรื่องอาหารการกิน และการนอนหลับพักผ่อน ซึ่งหากปล่อยไว้ไม่รีบแก้ไข อวัยวะภายในทุกส่วนจะเสื่อมสภาพเร็วเหมือนกับแบตเตอรี่มือถือนั่นเอง
4. ลุกเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน
อาการเช่นนี้บ่งบอกว่าไตไม่แข็งแรง จึงไม่สามารถดูดกลืนน้ำเข้าสู่ร่างกายได้มากพอ ทำให้มีน้ำปัสสาวะออกมาก เป็นเหตุให้ต้องลุกมาปัสสาวะตอนกลางดึกเป็นประจำ อาการเช่นนี้หากไม่รีบรักษาไตให้แข็งแรงจะส่งผลป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน เข่าเสื่อม และหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมทับเส้นประสาทตามมา เพราะไตมีความเชื่อมโยงกับกระดูกภายใต้กลไกของร่างกายที่ซับซ้อน อธิบายได้ง่ายๆ ว่า หากไตไม่แข็งแรงแคลเซียมที่ควรจะถูกดูดกลับไปใช้งานในร่างกายจะรั่วออกมาทางน้ำปัสสาวะมาก
5. ปวดเมื่อยตัวแบบเป็นๆ หายๆ
อาการที่หลายคนเป็นกันบ่อยๆ บ่งชี้ได้ว่าระบบไหลเวียนเลือดทำงานผิดปกติจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเม็ดเลือดน้อยไป น้ำเลือดน้อยไป เลือดข้นหนืดไป หรือมีสารพิษตกค้างในร่างกาย หากปล่อยเอาไว้นานโดยไม่รีบรักษาจะทำให้หลอดเลือดทั่วร่างกายตีบตันได้ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคร้ายอย่างเช่น โรคหัวใจ หลอดเลือดหัวใจอุดตัน และมะเร็งตับได้
6. ท้องผูก
ส่วนใหญ่เกิดจากลำไส้ไม่มีแรงบีบตัว เนื่องจากมาเลี้ยงลำไส้ใหญ่ไม่เพียงพอ เมื่อท้องผูกบ่อยๆ สารพิษในกากอาหารจะดูดซึมผ่านลำไส้เข้ามาในเลือดมาก ส่งผลให้เลือดและน้ำเหลืองมีสารพิษตกค้างมาก ทำให้เกิดปัญหาเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นเป็นสิว ไปจนถึงเรื่องใหญ่อย่างมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับ หรือมะเร็งเต้านม ดังนั้นการขับถ่ายทุกวันจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งได้
7. ชาตามปลายมือปลายเท้า
เมื่อมีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า คนมักคิดว่าร่างกายขาดวิตามินบี แต่จริงๆ แล้วเกิดจากระบบเลือดไหลเวียนไม่ดีต่างหาก หากมีสัญญาณเตือนแล้วไม่แก้ไขมีสิทธิ์ป่วยเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้เพราะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
8. มือสั่น
หลายคนเข้าใจว่าเป็นสัญญาณเตือนว่าแก่หรืออายุมาก แต่ในความเป็นจริงโรคไทรอยด์เป็นพิษก็ทำให้มือสั่นได้เช่นกัน หรือไม่ก็อาจเกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ส่งผลให้ระบบประสาทและสมองมีปัญหา ทำให้เกิดอาการมือสั่น
9. แน่นหน้าอกเป็นๆ หายๆ อึดอัด
อาการนี้เกิดจากเลือดไหลเวียนบริเวณหลอดเลือดหัวใจผิดปกติมักเกี่ยวข้องกับตะกรันไขมันอุดตันที่หลอดเลือดหัวใจหรือบริเวณใกล้เคียง หากปล่อยไว้มีโอกาสเกิดอาการหลอดเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวายกะทันหันจนอาจทำให้เสียชีวิตได้โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า
10. หายใจไม่อิ่ม ไม่เต็มปอด
หลายคนมีอาการหายใจได้ไม่ลึกหรือหายใจไม่อิ่ม อาการนี้เกิดจากเลือดมาเลี้ยงหัวใจและปอดไม่เพียงพอ หัวใจกับปอดจึงทำงานได้ไม่ดี ส่วนใหญ่แล้วคนทั่วไปมักคิดว่าความผิดปกติเกิดขึ้นที่ปอดเพียงอย่างเดียว หากมีความเข้าใจและสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องเลือดไม่เพียงพอได้ ปัญหาก็จะหมดไป แต่หากทิ้งไว้ไม่รักษาจะเกิดปัญหาหัวใจโต จนท้ายที่สุดอาจเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลันได้
ทั้ง 10 อาการนี้เป็นเพียงสัญญาณของร่างกายในเบื้องต้นเท่านั้นที่เราสังเกตได้ ยังมีโรคอื่นๆ อีกมากที่แอบแฝงในชีวิตประจำวัน รอสุขภาพของเราอ่อนแอจึงเผยออกมาให้เห็น หากเมื่อถึงตอนนั้นโรคอาจลุกลามหนักจนหมดหนทางรักษา ทางที่ดีควรหมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ และไปตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอเพื่อร่างกายที่แข็งแรงของเราเอง
อ้างอิงจากหนังสือ อายุยืนหมื่นปี ปฏิวัติสุขภาพ ด้วยสมุนไพรสไตล์โมเดิร์น