ขึ้นเหนือล่องใต้ "หมอวรงค์"เดินหน้าชิงหัวหน้า "ปชป." ลุยวาระพลิกโฉมไทยแลนด์

อีกหนึ่งสีสันทางการเมืองที่ต้องจับตาอีกประเด็นหนึ่ง กับกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะเปิดโอกาสให้มีการคัดสรรหัวหน้าพรรคคนไทย โดยการหยั่งเสียงจากสมาชิกและกรรมการบริหารพรรค เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงตามกระบวนการประชาธิปไตย

 

วันนี้ (30ก.ย.61) 30 ก.ย. 61 ที่พรรคประชธิปัตย์มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาระเบียบการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคว่า มีตัวแทนจากผู้มีรายชื่อจะเข้าแข่งขันตำแหน่งหัวหน้าพรรคเช้าร่วมด้วย คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสัญญา จันทรัตน์ หลานชายนายถาวร เสนเนียม ตัวแทนจากนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม และนายอลงกรณ์ พลบุตร โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่ประธานในการประชุมแทนหัวหน้าพรรค

 

 

โดยนายอลงกรณ์ กล่าวก่อนการประชุมว่า เบื้องต้นนายอภิสิทธิ์เห็นด้วยกับแนวทางของตนเองที่จะให้สมาชิกและอดีตสมาชิก 2.5 ล้านคนมีสิทธิลงคะแนนหยั่งเสียง รวมถึงแนวทางการดีเบต ระหว่างผู้เสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรคและแนวทางการเสนอชื่อบุคคลที่ได้คะแนนหยั่งเสียงเป็นลำดับที่ 1 ให้ที่ประชุมใหญ่เห็นชอบเพียงชื่อเดียว ส่วนลำดับที่ 2 และ 3 ให้ถอนตัวจากการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่

 

“ขณะนี้รอความเห็นจากฝ่ายนายแพทย์วรงค์ เห็นด้วยกับแนวทางนี้หรือไม่ ส่วนการกำหนดจำนวนอดีต ส.ส. หรือสมาชิกรับรองการเสนอชื่อ รวมถึงแอพพลิเคชั่นและจุดเลือกตั้งนั้น รอผลสรุปจากที่ประชุมอีกครั้ง” นายอลงกรณ์ กล่าว

ขณะเดียวล่าสุดทางด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ว่าที่ผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายศุภชัย ศรีหล้า อดีต ส.ส.อุบลราชธานี และกลุ่มเพื่อนหมอวรงค์ เดินทางถึงที่ทำการพพรคประชาธิปัตย์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยอดีต สส. ที่สนับสนุน นพ.วรงค์ รอต้อนรับ นำโดยนายถาวร เสนเนียม นายวิรัตน์ กัลยาสิริ นายสมบัติ ยะสินธุ์

 

 

นายวิชัย ล้ำสุทธิ นายเจือ ราชสีห์ อดีต สส.สงขลา พร้อมมีประชาชนมอบดอกไม้ให้กำลังใจกว่า 300 คน โดยนายแพทย์วงค์ กล่าวพบปะกับประชาชนว่าการเดินสายของตน เพื่อต้องการประกาศให้สมาชิกทราบถึงการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค พร้อมยืนยันเป็นการหาเสียงหัวหน้าพรรค ไม่ใช่หาเสียงเลือกตั้ง

 

ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ส่วนใหญ่เรื่องราคายางพารา ปาล์ม ที่ตกต่ำ ตนเองพร้อมเข้ามาแก้ไข และยกมาตรฐานประเทศครั้งใหญ่ ภายใต้สโลแกน "กล้าเปลี่ยนเพื่อประชาชน" พร้อมอ้อนขอคะแนนเสียงจากในพื้นที่ภาคใต้ โดยในวันที่ 1 ตุลาคมจะมีการเปิดสมัครสมาชิก และเมื่อถึงวันโหวตคะแนนเสียง ขอให้เลือนตนเองเป็นหัวหน้าพรรค

 

 

หมอวรงค์ทิ้งท้ายด้วยว่า อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงบนพื้นฐานประชาธิปไตย และการที่ตนเองเป็นมวยรอง จึงต้องขยันลงพื้นที่พบปะสมาขิกให้มากขึ้น

 

 

อย่างไรก็ตามก่อนนี้เมื่อวันที่27 ก.ย. ที่ผ่านมา  หมอวรงค์พร้อมคณะได้เดินทางไปยังพิษณุโลก ณ.ลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร   เพื่อประกาศเจตนารมณ์ ในลงชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงสมัครเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  โดยต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง ในการทำให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเพื่อประชาชน  แต่ยังมี 2 ข้อที่จะยังคงไว้คือ 1. อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์   และ 2.ความซื่อสัตย์สุจริต และจะทำเพื่อประชาชนต่อไป