"บิ๊กตู่" เผยหลังเปิดเวที ลต. อาจโดนขุดประวัติถล่ม ก่อนหยอดหวานชาวลำพูน "รักลุงตู่รักน้อยๆ แต่ขอรักนานๆ"


"บิ๊กตู่" ตรวจราชการลำพูน เชื่อหลังเปิดเวทีเลือกตั้งแล้ว ตนอาจโดนขุดประวัติค่อนข้างแน่ ก่อนหยอดหวานชาวบ้าน "รักลุงตู่รักน้อยๆ แต่ขอรักนานๆ" ขณะข้าราชการท้องถิ่นตะโกนเชียร์ ให้เป็นนายกฯ ต่อ

 

วันนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะเดินทางยังชุมชนท่องเที่ยวบ้านหนองเงือก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง เพื่อร่วมประกาศเจตนารมณ์ "ลำพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม "ร่วมกับชาวลำพูนและพบปะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการ ประชาชนที่มาต้อนรับกว่า 1,500 คน โดยนายกฯ ขึ้นเวทีกล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า มาทำบุญวันนี้รู้สึกตื้นตัน วันนี้รู้สึกมีความสุขตั้งแต่เช้ารู้สึกหัวใจเต้นช้าลง ไม่ตื่นเต้นเหมือนอยู่กรุงเทพฯ ที่มีเรื่องให้แก้ทั้งวันทั้งคืน มานี่ทุกคนมีความสุขเห็นรอยยิ้ม อาหารอร่อยเป็นความสุขธรรมชาติ ถือว่าเยี่ยมเยือน ไม่ใช่เจ้าใหญ่นายโตที่ไหน และวันนี้มารับฟังปัญหาต่างๆ
  


 

นายกฯ ระบุด้วยว่า ตนไม่ได้เอาเงินลงมาแจก แต่มารับฟังประชาชน ขอชาวลำพูนอย่าไปชอบคนพูดปากหวาน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้จริง เราอย่าเปลี่ยนแปลงประเทศด้วยความรุนแรง ด้วยสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย ถ้าใช้กำลังทะเลาะกันไปมา วันหน้าก็ใช้กำลังกันต่อ เมื่ออีกฝ่ายแข็งแรงเท่ากันหรือมากกว่าก็กลับมาสู้กันใหม่ มันไม่ได้ ทุกประเทศในโลกเลิกหมดแล้ว หลายปัญหาแบกนี้แก้รัฐบาลนี้ บางอย่างแก้ได้บางอย่างแก้ไม่ได้แต่เราพยายามแก้ทุกออย่าให้ใครมาบิดเบือนเรื่องต่างๆ เดี๋ยวเรื่องเหล่านี้จะมาอีกเยอะพอเปิดเวทีคอยดู ประวัติอะไรต่างๆของตนจะต้องมีมาอีกเยอะ ท้องถิ่นคอยดูนะ เรื่องตัวเลขหนี้สาธารณะอย่าให้ใครมาบิดเบือน เราบริหารอย่างเหมาะสม 
  

 

"เรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นอีกในระยะเวลาอันใกล้ใช่หรือไม่ นายกเทศมนตรี อบจ. อบต.คอยดูเถอะเดี๋ยวมาอีก พอเริ่มเปิดเวทีประวัติที่ไม่เคยมีก็จะมี ชีวประวัติผมก็จะมายาวมากกว่าปกติ ผมเกิดมาผมรู้ประวัติผมมีแค่ไหน แต่มันชอบเติมให้ผม มีสองอย่างคือเติมกับลด" นายกฯ ระบุ


  

นอกจากนี้ นายกฯ ยังย้ำว่า ต้องแก้ปัญหากระเทียม หอมแดง ลักลอบเข้าประเทศต้องกวาดล้างให้หมด โดยสั่งการให้แม่ทัพภาค3 ดำเนินการเข้มงวด รวมไปถึงยาเสพติด และ สิ่งผิดกฎหมายอื่นด้วย หากทำไม่ได้ก็มีโทษ เพราะลักษณะการบริหารของตนเอง เป็นแบบให้คุณและให้โทษส่วนการท่องเที่ยวของไทย ที่มีกรณีตบตีนักท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องไล่ออกให้หมด เป็นเจ้าหน้าที่ ต้องอดทนกว่าคนธรรมดา  และให้เจ้าหน้าที่รวมทั้งผู้ให้บริการ ยึดหลักที่ว่าผู้ใช้บริการเป็นเจ้านายเสมอ
  


"คำว่าประชารัฐ ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นชื่อนโยบายรัฐบาล แต่ใครจะเอาไปใช้ก็เรื่องของเขา เพราะเป็นเรื่องที่รัฐอำนวยความสะดวก โดยความหมายของคำนี้ คือ ความร่วมมือกันทุกภาคส่วน ซึ่งมีรัฐเป็นของประชาชน และอำนวยความสะดวกให้ประชาชน การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบไม่มีรัฐบาลไหนทำได้แต่รัฐบาลนี้ทำ โดยมีการแก้ไขกฏหมาย ไม่ได้เพื่อการเมือง เราต้องไม่ทำลายตัวเองด้วยความเชื่อที่ผิดอย่าทำร้ายตัวเอง และต้องไม่ทุจริตบาทเดียวก็ไม่ได้ ไม่มีผลประโยชน์ และไม่ใช่อ้างแต่สิทธิตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นหลักการประเทศ หลักการประชาชนทั่วประเทศ ต้องดูกฎหมายประกอบที่ตอบทุกมาตรารัฐธรรมนูญ ไม่ใช่รัฐธรรมนูญบอกมีสิทธิมีเสียงอะไรก็ได้ ไม่อย่างนั้นก็ตีกันทั้งเมือง ห้ามชุมนุมแล้วเป็นอย่างไรไปไหนไม่ได้ ที่ผ่านมาตีกันทั้งเมือง ต่อไปอย่าให้เกิดขึ้นอีก สัญญาได้ไหม" นายกฯ ระบุ พร้อมบอกด้วยว่า

 
วันนี้หลายคนคงถามว่า นายกฯ จะให้อะไร จะให้เท่าที่ให้ทุกอย่างจะดีขึ้นตามเวลา ระยะ 3 ปีที่ผ่านมาก็ทำมาเยอะ และหลังจากปีนี้ประเทศไทยจะดีขึ้น จากที่หลายอย่างที่ผ่านมาหลายรัฐบาลแก้ไม่ได้ เพราะกลัวเสียคะแนน ถ้าเราไม่แก้ตรงนี้ก็จะพันไปเรื่อยๆ ซื้อเวลาไปเรื่อย โดนฟ้องทุกอัน โยนมาถึงรัฐบาลนี้ แต่ตนจะไม่โยนไปรัฐบาลหน้า  
  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ตอนท้ายนายกฯ กล่าวว่า "รักลุงตู่รักน้อยๆแต่รักเมินเมิน"
  

จากนั้นนายกฯ ได้ปล่อยคาราวานสามล้อ"ลำพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม" โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นได้มีข้าราชการชายชายคนหนึ่งตะโกนบอกนายกฯว่า"ขอให้เป็นนายกฯตลอดไป"ซึ่งขณะนั้นนายกฯได้ยินไม่ชัด ถามกลับไปว่า"อะไรนะ"ข้าราชการคนดังกล่าวพูดว่า"ขอเป็นนายกฯตลอดไป"ขณะที่นายกฯยิ้มพร้อมกล่าว"อ๋อ ไปสู้ให้ผมบ้างสิเวลาโดนด่า แต่ไม่ต้องห่วง ผมไม่เคยกลัวใครทั้งสิ้น เพราะผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ผมทำให้พวกท่านทั้งสิ้น"


ขณะที่ข้าราชการคนดังกล่าวตอบว่า "เป็นกำลังให้ครับ" นายกฯ กล่าวก่อนเดินออกจากวงว่า "ทำนะโดยเฉพาะท้องถิ่นต้องทำ" จากชมการผลิตฝ้ายทอมือหนองเงือก และผลิตภัณฑ์ชุมชนบ้านหนองบ้านหนองเงือก การจัดการขยะชุมชน และเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่นักการเมือง อดีต ส.ส.ในพื้นที่มาต้อนรับแต่อย่างใด