พิพากษาแล้ว คดีรถตู้ 25 ศพ กรุงเทพฯ-จันทบุรี ย้อนไทม์ไลน์นาทีชีวิต เหยื่อโศกนาฏกรรม

จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2561 ศาลจังหวัดจันทบุรี ได้อ่านคำพิพากษา คดีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร สายกรุงเทพ-จันทบุรี พุ่งข้ามเกาะกลางถนน จนประสานงากับรถกระบะที่วิ่งสวนทาง

    จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2561 ศาลจังหวัดจันทบุรี ได้อ่านคำพิพากษา คดีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร สายกรุงเทพ-จันทบุรี พุ่งข้ามเกาะกลางถนน จนประสานงากับรถกระบะที่วิ่งสวนทาง เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 25 ราย 

 

    ย้อนกลับไปในวันที่ 2 ม.ค. 2560 หลังผ่านพ้นช่วงเฉลิมฉลองของเทศกาลปีใหม่มาได้เพียงวันเดียว ท่ามกลางการจราจรที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบบนถนนสาย 344 หลายชีวิตกำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงเทพฯ เพื่อกลับไปใช้ชีวิตตามหน้าที่ของแต่ละคน ทำงานเพื่อหาเลี้ยงปากท้องเป็นเสาหลักของครอบครัว ภายหลังที่พวกเขาเหล่านี้ ได้มีโอกาสกลับภูมิลำเนาไปหาครอบครัวและพักผ่อนแม้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ 

 

 

พิพากษาแล้ว คดีรถตู้ 25 ศพ กรุงเทพฯ-จันทบุรี ย้อนไทม์ไลน์นาทีชีวิต เหยื่อโศกนาฏกรรม

 

    เช่นเดียวกับผู้โดยสารในรถตู้ประจำทางสายที่ 9907 กรุงเทพฯ-จันทบุรี ทะเบียน 15-1352 กทม. ที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ของความอ่อนล้าโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า จะเกิดโศกนาฏกรรมอันเป็นการเปิดม่านเริ่มต้นปีใหม่ที่เต็มไปด้วยความเศร้าสลด

 

    เมื่อรถตู้คันดังกล่าวเสียหลักพุ่งข้ามฝั่งถนน ชนกับรถกระบะอีซูซุ ทะเบียน 1 ฒ 2483 กทม. บริเวณ บ้านบึง-แกลง หมู่ 1 ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ฝั่งขาออก มุ่งหน้าอ.แกลง ก่อนไฟลุกไหม้คลอกคนขับและผู้โดยสารในรถตู้ เสียชีวิต 14 คน และคนที่โดยสารมากับรถกระบะซึ่งเป็นครอบครัวและญาติๆ อีก 11 คน รวมทั้งหมดเสียชีวิต 25 คน โดยมีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพียง 2 คน

 

    พลันที่ ร.ต.ท.วรวิทย์ วรรณนุวาส รองสวป.สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุดังกล่าว ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ หลังจากระดมฉีดน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง จึงทำการตรวจสอบผู้เสียชีวิตในซากรถตู้ประกอบไปด้วย 

 

1. นายสุมนต์ เอี่ยมสมบัติ อายุ 64 ปี คนขับ 
2. นางวิมล ธีระนิธิ อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 
3. นายประกาศิต รัตนตันหยง อายุ 36 ปี นักวิจัยด้านมะเร็ง จุฬาฯ กำลังศึกษาต่อปริญญาเอก 
4. น.ส.ศิริพร หนุนเกื้อกูล อายุ 39 ปี 
5. น.ส.ภัทธวรรธน์ ทรัพย์จันทร์ อายุ 29 ปี 
6. น.ส.ดวงชีวัน พันเพ็ชร์ อายุ 34 ปี 
7. น.ส.หทัยทิพย์ หมดภัย อายุ 26 ปี พนักงานขายบริษัทรถยนต์ 
8. นายกันตินันท์ ไทยตรง อายุ 23 ปี 
9. นายพรหมพต กอศิริวรานนท์ อายุ 20 ปี 
10. น.ส.หทัยรัตน์ บุญฤทธิ์ อายุ 29 ปี 
11. น.ส.ดวงฤทัย วงศ์สิริวิบูลย์ 
12. น.ส.หนึ่งฤทัย ปันขัด อายุ 21 ปี 
13. น.ส.ดารณี พลายคง อายุ 27 ปี และ 
14. น.ส.ภัทราวรรณ รื่นเริง อายุ 42 ปี

ส่วนผู้เสียชีวิตที่มากับรถกระบะคือ 

 

1. นายน้อย หาญเสมอ อายุ 39 ปี คนขับรถกระบะ 
2. นางนอง หาญเสมอ อายุ 40 ปี 
3. ด.ช.วีรศักดิ์ หาญเสมอ อายุ 13 ปี 
4. น.ส.สุนันทา หาญเสมอ อายุ 15 ปี 
5. นายสุพิณ หาญเสมอ อายุ 41 ปี 
6. ด.ญ. สุทธิดา หาญเสมอ อายุ 1 ขวบ 
7. นางพัน เจือจาน อายุ 48 ปี 
8. ด.ช. สุภกฤษ เจือจาน อายุ 2 ขวบ 
9. น.ส. สุดาภรณ์ เจือจาน อายุ 18 ปี 
10. นาย บุญเกิด ต้นทอง อายุ 33 ปี และ 
11. น.ส.เกศินี กมลเมธากุล อายุ 18 ปี 

 

    แน่นอนว่ามีการพุ่งเป้าไปยังคนขับรถตู้ผู้ตกเป็น "จำเลยสังคม" ในครั้งนี้ แต่การจะคาดคั้นข้อเท็จจริงกับผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จึงมีการตั้งคำถามไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการของรถตู้โดยสารสารธารณะเนื่องด้วยทราบต่อมาในภายหลังว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ทูตมรณะรายนี้ได้วิ่งทำรอบ 5 เที่ยว ในเวลาเพียง 31 ชั่วโมง จึงคาดเดาได้ไม่ยากว่าสาเหตุโดยหลักน่าจะมาจากความอ่อนล้าจนถึงขั้นหลับใน หาใช่เป็นความประมาทแต่เพียงอย่างเดียว
 

 

    นอกจากนี้ในเวลาต่อมายังมีการปล่อยคลิปอันปรากฏภาพเสียงกรีดร้องโหยหวนจากผู้โดยสารในรถกระบะท่ามกลางกองเพลิง แต่เนื่องด้วยไฟที่โหมกระหน่ำจึงไม่สามารถเข้าทำการช่วยเหลือได้ เป็นอันเข้าใจตรงกันว่าผู้โดยสารรายนั้นถูก "เผาทั้งเป็น" 

 

 

พิพากษาแล้ว คดีรถตู้ 25 ศพ กรุงเทพฯ-จันทบุรี ย้อนไทม์ไลน์นาทีชีวิต เหยื่อโศกนาฏกรรม

 

    นายธงชัย ผู้รอดชีวิตจากรถตู้ เผยว่า ตนขึ้นรถตู้มาจากจันทบุรีโดยนั่งหลังติดกระจกรถ หลับๆ ตื่นๆ มาตลอดทางเมื่อถึงที่เกิดเหตุรู้สึกได้ว่ารถหักเลี้ยวกะทันหันจนเกิดเปลวเพลิงขึ้น ตนมีสติประกอบกับกระจกด้านข้างแตกจึงใช้เท้าถีบออกมารอดอย่างหวุดหวิด ตรงข้ามกับผู้โดยสารคนอื่นที่ยังคงหลับไม่รู้สึกตัวจนโดนไฟคลอกในที่สุด 

 

    ด้านประจักษ์พยานให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รถตู้ขับมาเลนกลางตลอดทาง แต่แล้วกลับพุ่งทะยานข้ามฝั่งไปชนกับรถกระบะจนไฟไหม้รถทั้งสองคัน ประชาชนที่อยู่ในบริเวณนั้นพยายามหาวิธีเพื่อเข้าช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถทำได้

 

 

พิพากษาแล้ว คดีรถตู้ 25 ศพ กรุงเทพฯ-จันทบุรี ย้อนไทม์ไลน์นาทีชีวิต เหยื่อโศกนาฏกรรม

 

    เหตุการณ์เริ่มจะบานปลายมากยิ่งขึ้น เมื่อปรากฏเป็นตัวเลขที่น่าใจหายในช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2559 - 4 ม.ค. 2560 ที่ทุกรัฐบาลได้พยายามรณรงค์มาตลอดเพื่อให้ตระหนักถึงการขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาล กลับพบว่า มีอุบัติเหตุรวม 3,919 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 478 คน บาดเจ็บ 4,128 ราย หากนำมาเทียบกับปี 2558 - 2559 เท่ากับว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่าเดิมกว่า 100 คน

    ร้อนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ต้องออกมากำชับถึงการใช้มาตรการที่เข้มงวดใน 3 เดือน โดยจะดำเนินคดีทุกอย่าง ไม่ว่าคนขับ รถไม่ได้มาตรฐาน รถตู้บรรทุกเกิน ต้องมีสมุดประจำรถ ลงชื่อคนขับ ลงเวลา ทุกด่านต้องตรวจหมด ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ยืนยันว่าจำต้องใช้ ม.44 เข้ามาจัดระเบียบ และเอาผิดเจ้าของรถ และห้ามรถกระบะขนของบรรทุกคน

 

    ล่าสุด 4 ต.ค. 2561 นายโสภณ หนูรัตน์ สภาทนายความคุ้มครองผู้บริโภค ทนายความฝ่ายโจทก์ ได้เปิดเผยคำพิพากษาของศาล ว่า ศาลพิพากษายกฟ้องบริษัทเจ้าของรถตู้ เนื่องจากนายสุมนต์ เอี่ยมสมบัติ คนขับที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ยังไม่ได้บรรจุเป็นพนักงานของบริษัทดังกล่าว จึงไม่เข้าข่ายความผิด

 

    แต่ได้ให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. และ ลูกชายของคนขับ เป็นผู้จ่ายค่าสินไหมทดแทน จำนวนเงิน 26 ล้านบาท ให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต เนื่องจากศาลมองว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด กับ ห้างหุ้นส่วนผู้จัดการ ไม่ใช่นายจ้างหรือเป็นตัวตายตัวแทนของคนขับ แต่ส่วนของ บขส. เป็นหน่วยงานที่จัดทำสัญญาสัมปทานเกี่ยวกับรถตู้โดยสารจึงถือได้ว่ามีความผิด รวมถึงลูกชายคนขับรถตู้ที่เป็นทายาทต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่ฝ่ายโจทย์ทั้งหมด

 

 

พิพากษาแล้ว คดีรถตู้ 25 ศพ กรุงเทพฯ-จันทบุรี ย้อนไทม์ไลน์นาทีชีวิต เหยื่อโศกนาฏกรรม

 

    โดยการเยียวยา เหยื่อรถตู้ 25 ศพ ศาลชั้นต้นจันทบุรี พิพากษาให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ทั้ง 14 รายที่เข้าชื่อยื่นฟ้อง โดยกำหนดเป็นค่าทำศพ ค่าขาดไร้อุปการะ ค่าขาดแรงงานในครัวเรือน และค่าเสียหายเชิงลงโทษ โจทก์บางคนจะได้รับค่าเสียหายต่อทรัพย์เป็นรายบุคคล ซึ่งจะมีการดำเนินการไต่สวนตรวจสอบไล่สำนวนทีละคน มีการบวก-ลบ ตามอัตราสินไหมที่กำหนด มีการจ่ายสินไหมให้แก่ผู้บริโภค เป็นค่าเสียหายนอกเหนือจากที่ทนายเรียกร้อง 5 แสนบาท

 

    สำหรับรายที่ได้รับเงินเยียวยามากที่สุด คือ นายพรหมพต หรือ น้องกันต์ กอศิริวรานนท์ นิสิตคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับเงินจำนวน 8 ล้านบาท และลดหลั่นกันลงมา แต่ส่วนมากจะได้รับค่าเยียวยาทดแทนคนละ 5 แสนบาท
 

 

    อย่างไรแล้วคงต้องรอดูต่อไปว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์ในคดีหรือไม่ เพราะด้วยจำนวนเงินชดเชยที่เป็นจำนวนไม่น้อย บขส.อาจไม่ยอมจ่ายเต็มจำนวน แต่สังคมก็ต่างหวังว่าคดีดังกล่าวจะเป็นการสร้าง "บรรทัดฐาน" ในการพิจารณาคดี ที่มีสาเหตุมาจากบุคลากรในองค์กรที่ไม่ได้มาตรฐานพร้อมกับการยกระดับคุณภาพในการให้บริการ เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมและความสูญเสียเฉกเช่นครั้งนี้อีก

 

 

พิพากษาแล้ว คดีรถตู้ 25 ศพ กรุงเทพฯ-จันทบุรี ย้อนไทม์ไลน์นาทีชีวิต เหยื่อโศกนาฏกรรม